Update Newsธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ตลาดอสังหาฯ ฉลุย มะกันซ่อมบ้านเงินสะพัด 3 แสนล้านฯ

ผู้บริโภคมะกันมั่นใจเศรษฐกิจ จับจ่ายปรับปรุงบ้าน ฮึดลงทุนระยะยาวรองรับสัญญาณดีขึ้น เผยอุตสาหกรรมก่อสร้าง - ตกแต่งบ้านเงินสะพัดกว่า 3.16 แสนล้านเหรียญฯ โต 42% นับจากวิกฤตเศรษฐกิจ 

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี ถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา ว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ ทำให้กล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยมีสัญญาณดีด้านการใช้จ่ายเงินเพื่อการซ่อมแซม ปรับปรุง และต่อเดิมบ้านพักอาศัย ส่งผลให้ยอดขายสินค้าของร้านจำหน่ายปลีกอุปกรณ์ก่อสร้างและตกแต่งบ้านในสหรัฐฯ ขยายตัวสูง สวนทางกับการค้าปลีกประเภทอื่น

“ผู้บริโภคสหรัฐฯ มองว่าการซ่อมแซมบ้านเป็นหนทางการลงทุนในระยะยาว โดยศูนย์ร่วมวิจัยศึกษาตลาดบ้านแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รายงานว่า ในปีนี้ผู้บริโภคชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินเพื่อการนี้มูลค่ากว่า 3.16 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 10.59 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 6.7 และเพิ่มขึ้นถึงกว่าร้อยละ 42  เมื่อเทียบกับปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐฯ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ นางมาลี กล่าว

นางสาวนิธิมา ศิริโภคากิจ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บริโภคกล้าจะลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าที่อยู่อาศัย เนื่องจากเห็นแนวโน้มดีในอนาคต โดยยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัท โฮมดีโป (Home Depot) ผู้จำหน่ายปลีกสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นมูลค่า 2.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8 แสนล้านบาท) โดยแต่ละปีโฮมดีโปนำเข้าสินค้าจำนวนมาก เพื่อจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ อาทิโคมไฟระย้า พัดลม เฟอร์นิเจอร์ โคมไฟตั้งโต๊ะ เครื่องใช้ไฟฟ้า กระเบื้องปูพื้น เครื่องปรับอากาศและวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน ทั้งนี้ โฮมดีโปมีสาขากว่า 2,200 แห่งทั่วประเทศ มียอดขายปีละประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3 ล้านล้านบาท)

“ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการทำตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากสินค้าไทยจะเน้นสินค้าคุณภาพและมีมาตรฐานสูง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของบริษัทผู้ผลิตไทย รวมถึงสินค้ากลุ่มของตกแต่งบ้านและสวนจากไทยหลายชนิด เช่น กระถางปลูกต้นไม้ รูปปั้นเซรามิกและทองแดงใช้ตกแต่งสวน และของประดับที่ทำจากไม้ จะมีโอกาสในการทำตลาดสหรัฐฯ

นอกจากนี้ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์ก่อสร้างได้พยายามเจาะฐานลูกค้าช่องทางออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2550    โดยใช้กลยุทธ์การขายแบบเชื่อมโยงระหว่างช่องทางออนไลน์และช่องทางร้านค้าปลีก พบว่าลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์กว่าร้อยละ 40 เลือกที่จะไปรับสินค้าที่ร้านค้าปลีกใกล้บ้าน และมักจะซื้อซ้ำจากร้านเดิม  เนื่องจากช่องทางการขายมีส่วนช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกัน

ทั้งนี้หากผู้ประกอบการสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างไทยสนใจเจาะตลาดสหรัฐฯ อาจพิจารณาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องในตลาด อาทิ งาน IBS เป็นงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับวัสดุก่อสร้างใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 11 มกราคม 2561 ณ เมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริดา และงานแสดงสินค้า Coverings ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าวัสดุอุปกรณ์ จัดระหว่างวันที่ 8 - 11พฤษภาคม 2561 ณ เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา

สำหรับมูลค่าการค้าไทย-สหรัฐฯ การส่งออกใน 7 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม – กรกฎาคม) มีมูลค่ากว่า 14,905 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น ขณะที่การนำเข้ามูลค่า 8,886 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.6 สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องบินเครื่องร่อน อุปกรณ์การบิน แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์โลหะ เป็นต้น