สค.ระดมสมองจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันการค้าประเวณี
ในวันที่ 22 สิงหาคม 2560 เวลา 09.30 น. ณ ห้องมิ่งเมือง ชั้น 4 โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายวิศิษฐ์ เดชเสน รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันการค้าประเวณี กล่าวรายงานโดย นายวิศิษฐ์ ผลดก ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด 22 จังหวัด บ้านพักเด็กและครอบครัว 22 จังหวัด สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ 8 แห่ง ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว 8 แห่ง บุคลากรกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) วิทยากร และผู้สังเกตการณ์ รวมทั้งสิ้น 120 คน
นายวิศิษฐ์ เดชเสน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการเร่งรัดให้ปราบปรามการค้าประเวณี โดยมอบหมายให้หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดการดำเนินการปราบปรามการค้าประเวณีให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าประเวณีเด็ก ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ในฐานะผู้รับผิดชอบภารกิจการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ได้วางแนวทางพร้อมกำหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงการคุ้มครอง เยียวยา ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากการค้าประเวณีให้สามารถประกอบอาชีพและดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก 4P ได้แก่ Prevention การป้องกัน Protection การคุ้มครอง Prosecution การดำเนินคดี และPolicy การกำหนดนโยบาย มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับปัญหา
นายวิศิษฐ์ เดชเสน กล่าวต่ออีกว่า การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันการค้าประเวณีในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันการเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณีและสร้างความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักถึงปัญหาและให้ความสำคัญด้านการป้องกันการค้าประเวณีมากขึ้น โดยเป็นการร่วมระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของผู้เข้าร่วมประชุม อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ การปฏิบัติงานให้ได้รับรู้ทิศทาง และแนวทางการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการค้าประเวณี เพื่อนำไปจัดทำยุทธศาสตร์และแผนการปฏิบัติงาน ตลอดจนบูรณาการและขับเคลื่อนกลไกการแก้ไขปัญหาการค้าประเวณีอย่างเต็มรูปแบบของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวในปีงบประมาณต่อไป
