สิงห์ขี้ยาเตรียมตัว 1ก.พ.61 ห้ามพ่นควัน24ชายหาด15จว.
ตามที่ ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2560 มีประกาศ คําสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 1064/2560 เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณชายหาด ในท้องที่ชายหาดบานชื่น อําเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ท้องที่ชายหาดแหลมเสด็จ อําเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ท้องที่ชายหาดแสงจันทร์ อําเภอเมือง จังหวัดระยอง ท้องที่ชายหาดบางแสน อําเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ท้องที่ชายหาดถ้ําพัง อําเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ท้องที่ชายหาดทรายแก้ว อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ท้องที่ชายหาดดงตาล พัทยา อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ท้องที่ชายหาดชะอํา อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี ท้องที่ชายหาดหัวหิน ชายหาดเขาตะเกียบ อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ท้องที่ชายหาดทรายรี อําเภอเมือง จังหวัดชุมพร ท้องที่ชายหาดบ่อผุด อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ท้องที่ชายหาดโฉลกบ้านเก่า เกาะเต่า อําเภอเกาะพะงนั จังหวัดสุราษฎร์ธานี ท้องที่ชายหาดปลายทราย อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ท้องที่ชายหาดชลาทัศน์ อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา ท้องที่ชายหาดวาสุกรี อําเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ท้องที่ชายหาดป่าตอง อําเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ท้องที่ชายหาดเกาะไข่นอก ชายหาดเกาะไข่ใน อําเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ท้องที่ชายหาดเขาหลัก อําเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ท้องที่ชายหาดพระแอะ อาเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ท้องที่ชายหาดคลองดาว ชายหาดคอกวาง อําเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ท้องที่ชายหาดสําราญ อําเภอหาดสําราญ จังหวัดตรัง… ….เพื่อเป็นการคุ้มครอง สงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู บริหารจัดการทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่งบริเวณชายหาด ตามแนวชายฝั่งทะเล และพื้นที่ทางทะเลโดยรอบมิให้ได้รับความเสียหาย หรือได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จากการสูบบุหรี่และการทิ้งก้นบุหรี่ ขยะมูลฝอย ต่างๆ หรือการกระทําใดๆ อันมีลักษณะเป็นการทําลาย หรือทําให้เกิดอันตราย ต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศ รวมทั้งก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชุมชนหรือประชาชนบริเวณชายหาด หากปล่อยให้เนิ่นช้า ทรัพยา กรทางทะเลและชายฝั่งจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นยากที่จะฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ได้ สำหรับคำสั่งที่ลงนามโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นี้ สั่ง ณ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกําหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป โดยให้มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ทำการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ กับผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื่้นที่รับทราบเป็นเวลา 90 วัน ก่อนจะมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ในพื้นที่ 24 ชายหาด รวม 15 จังหวัดต่อไป