Update Newsสังคม/CSRสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม

กรมควบคุมโรค รณรงค์ “ผู้ขับขี่ปอดสะอาด ปราศจากวัณโรค”

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รณรงค์ “วันวัณโรคสากล” ประจำปี 2561 จัดโครงการ “ผู้ขับขี่ปอดสะอาด ปราศจากวัณโรค” ตรวจคัดกรองและค้นหาผู้ป่วยวัณโรค เพื่อลดการแพร่ระบาดของวัณโรคในกลุ่มผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้ และรถโดยสารประจำทาง พร้อมเดินหน้าร่วมกับทุกภาคส่วนให้บรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาตร์วัณโรคระดับชาติ พ.ศ.2560-2564


      

         

วันนี้ (21 มีนาคม 2561) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมนายรัชชาณล กิตติพัทธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการขนส่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และนายแพทย์พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมเปิดกิจกรรมรณรงค์ “ผู้ขับขี่ปอดสะอาด ปราศจากวัณโรค” เนื่องในวันวัณโรคสากล ประจำปี 2561 ซึ่งสหพันธ์องค์กรต่อต้านวัณโรคและโรคปอดนานาชาติ กำหนดให้ 24 มีนาคมของทุกปีเป็น วันวัณโรคสากล (World TB Day) หัวข้อรณรงค์คือ “WANTED : LEADERS FOR A TB-FREE WORLD (You can make history. End TB)” ภาษาไทย คือ “คุณคือผู้นำ แห่งการยุติวัณโรค เพื่อเมืองไทยปลอดวัณโรค” 


ปัจจุบันวัณโรคยังคงเป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขของไทย และคาดว่าจะมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ประมาณ 120,000 รายต่อปี เสียชีวิตกว่า 12,000 รายต่อปี และวัณโรคดื้อยาหลายขนานอาจมากถึง 4,700 ราย ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดเป็นนโยบายและจัดทำแผนยุทธศาตร์วัณโรคระดับชาติ พ.ศ.2560-2564 โดยมีเป้าหมายลดอัตราป่วยร้อยละ 12.5 ต่อปี หรือจากอัตราป่วย 171 ต่อประชากรแสนคน ในปี 2557 ให้เหลือ 88 ต่อประชากรแสนคนภายในปี 2564 โดยดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด คือ “เมืองไทยปลอดวัณโรค” และยุติปัญหาวัณโรค ภายในปี พ.ศ.2578

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ประชากรกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ต้องขังในเรือนจำ กลุ่มผู้ป่วยโรคร่วมต่างๆ ผู้สูงอายุ แรงงานต่างด้าว ผู้อาศัยในชุมชนแออัด ตลอดจนพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพราะสถานที่ที่กลุ่มเหล่านี้อาศัยอยู่ หรือทำงานอยู่นั้นเป็นสถานที่ปิด แออัด จึงมีโอกาสติดเชื้อและป่วยเป็นวัณโรคมากว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ จึงต้องควบคุมวัณโรคไม่ให้แพร่ระบาดไปสู่สาธารณชนได้ในวงกว้าง โดยการค้นหาผู้ป่วยและตัดวงจรการแพร่กระจายของเชื้อวัณโรคดังกล่าว โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้ รถโดยสารประจำทาง เป็นต้น มีโอกาสที่จะได้รับเชื้อวัณโรคโดยไม่รู้ตัว หากผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่ป่วยวัณโรคอยู่ในรถ ไอ จาม เชื้อวัณโรคก็จะปะปนออกมา และหมุนเวียนอยู่ในรถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์ปรับอากาศ ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารรายใหม่ที่ยังไม่ป่วยวัณโรค ก็มีความเสี่ยงที่จะรับเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกายได้


สำหรับกิจกรรมในวันนี้ เป็นการจัดบริการเอกซเรย์ โดยรถเอกซเรย์ดิจิตอลเคลื่อนที่ ให้กับผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ ประกอบด้วย ผู้ขับรถแท็กซี่ ผู้ขับรถตู้โดยสาร ผู้ขับรถเมล์ปรับอากาศ และประชาชนทั่วไป รวมประมาณ 1,000 คน นอกจากนี้ ยังมีบูธตรวจสุขภาพ ตรวจวัดดัชนีมวลกาย (BMI) วัดความดันโลหิต รวมถึงบูธให้ความรู้ เรื่อง พระราชกรณียกิจต่างๆ เกี่ยวกับการควบคุมป้องกันวัณโรค 
กรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่า “วัณโรค รู้เร็ว รักษาหาย ไม่แพร่กระจาย” โดยขอให้ประชาชนรีบตรวจหาวัณโรคให้เร็วที่สุด เพื่อเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งวัณโรคสามารถรักษาให้หายได้ หากรู้ว่าป่วยเป็นวัณโรคได้เร็ว และทำการรักษาได้เร็ว ก็สามารถลดการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่นได้ และให้สังเกตอาการของวัณโรค 

โดยเริ่มจากไอเรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์ มีไข้ต่ำๆ ในช่วงบ่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด หากพบผู้ที่มีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพาไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลหรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาให้เร็ว ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักวัณโรค โทร 0-2211-2138 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422