Update Newsกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาสังคมสังคม/CSR

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ผนึกกำลัง 12 หน่วยงาน สร้างความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทยช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วันนี้ (20 ธ.ค.66) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เป็นประธานการแถลงข่าว ร่วมกับ 12 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมการท่องเที่ยว, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กรมการขนส่งทางบก, กรมเจ้าท่า, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล, กรมการปกครอง, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, และ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ณ ห้องประชุมกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก



​ รมว.สุดาวรรณ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการแถลงข่าวร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในวันนี้ว่าเป็นไปตามข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย



ดังนั้นการแถลงครั้งนี้จะเป็นการเน้นย้ำว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวจะร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวโดยจะเปิดโอกาสให้แต่ละหน่วยงาน ได้กล่าวถึงภารกิจด้านการบริการ การดูแลอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่จะมีการเดินทางท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก



รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้ง 12 หน่วยงาน จะมีการนำภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวของแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการในการทำงานร่วมกัน อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการดำเนินงาน เช่น ระบบเช็คอินด้วยตนเอง ระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีมาตรการวีซ่าฟรี แก่นักท่องเที่ยว และการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการเข้าเมืองให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยใช้ระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Channel) , กรมการขนส่งทางบก จะดำเนินการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ถูกรถโดยสารสาธารณะ (แท็กซี่) เอารัดเอาเปรียบ, กรมเจ้าท่า มีการปรับปรุงท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา 

โดยเรือทุกลำต้องมีทะเบียนเรือและผ่านการตรวจสภาพความปลอดภัยจากกรมเจ้าท่า ท่าเรือต้องมีความปลอดภัยพร้อมรับผู้โดยสาร มีการจัดชุดเฉพาะกิจออกตรวจความปลอดภัยโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยต่างๆ พร้อมทั้งติดตั้งระบบควบคุมสถานีเรือ smart pier ตลอดจนพัฒนาเส้นทางเดินเรือในคลองเชื่อมต่อ การเดินทางจากแม่น้ำเจ้าพระยาสู่ลำคลองต่างๆ



 

 

 

 

 

 

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย (สกชย.) และหน่วยงานต่างๆ จัดทำแผนความร่วมมือ (Plan For Cooperation) เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล ตามมาตรฐานที่องค์การระหว่างประเทศ (IMO) กําหนด, กรมการปกครองจะกำชับเจ้าหน้าที่ในการดูแลความเรียบร้อยด้านกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง



 

 

 

 

 

 

เช่น มาตรการขยายระยะเวลาเปิดสถานบริการถึงตี 4 ด้านกรมการท่องเที่ยว มีการดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจ นำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรเพื่อตรวจติดตามการประกอบธุรกิจนำเที่ยว ที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการป้องกันธุรกิจนอมินี (ตัวแทนอำพราง) ดำเนินการตรวจปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กำชับให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวที่มีใบอนุญาตถูกต้องให้บริการนักท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและให้บริการอย่างมีมาตรฐาน 

กระทรวงสาธารณสุข จะร่วมดูแลกรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุฉุกเฉินต่างๆ โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลและการส่งต่อให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center :TAC) ประจำศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยเป็นศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 17 แห่ง ศูนย์ประสานงาน 61 แห่ง รวมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 246 คน 

นอกจากนี้ยังดำเนินการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ประสบเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิต กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มีการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้ปลอดภัย (แบบตรวจมาตรฐานด้านความปลอดภัย โครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง S.T.C) รวมถึงจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวโดยประสานการปฏิบัติกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีความพร้อมทั้งเครื่องมือและอัตรากำลังในทุกพื้นที่เพื่อสร้างความอบอุ่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว 

พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการประสานงานของหน่วยงานต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมในการเป็นผู้ประสานงานกรณีเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ อุบัติเหตุอุบัติภัยหรือการก่อการร้าย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะดำเนินการด้านการสื่อสารผ่านแคมเปญ “Thais Always Care หรือคนไทยใส่ใจเสมอ” 

โดยจัดทำคอนเทนต์นำเสนอเนื้อหาข้อมูลข่าวสารที่ดีของประเทศไทยผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลความปลอดภัย ความพร้อมให้บริการของเจ้าหน้าที่ การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและมาตรฐานของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมทั้งมิติด้านการประชาสัมพันธ์เชิงรุกนำเสนอความสวยงามของประเทศไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวโดยจัดทำในรูปแบบคอนเทนต์โดย KOLs ชาวต่างชาติ เผยแพร่ในแพลตฟอร์มชั้นนำโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติ และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักที่สำคัญของไทย




คาดว่าจากการแถลงของทุกหน่วยงานในวันนี้จะสามารถเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้เกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของประเทศไทย และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข เกิดความประทับใจตลอดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย