Update Newsสังคมสังคม/CSR

การเคหะฯ MOU พันธมิตรธุรกิจ พัฒนาพื้นที่กว่า 40 ไร่ ให้เป็นที่อยู่อาศัยพร้อมส่งเสริมอาชีพ

บมจ.เคหะสุขประชา ลงนามบันทึกข้อตกลง กับเครือข่ายโคเนื้อล้านนา และ นายวิเศษ ศรีสุวรรณ์ นักธุรกิจชาวเชียงราย (เจ้าของที่ดิน) ร่วมกันพัฒนาพื้นที่กว่า 40 ไร่ ให้เป็นที่อยู่อาศัยพร้อมส่งเสริมอาชีพโดยเฉพาะด้านการปศุสัตว์ รวมถึงการเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนอาชีพอื่นๆ ให้มีความมั่นคง อยู่อาศัยได้อย่างมีคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ได้มาตรฐาน ในรูปแบบการเช่าระยะยาว

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และประธานกรรมการ บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติ จัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัมนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคที่อยู่อาศัย โดยมุ่งเน้นให้กับผู้มีรายได้น้อย ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านระบบการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างครบวงจร เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสในการมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยได้อย่างมีคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีมีมาตรฐาน ภายใต้ชื่อ “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ”



นับเป็นโอกาสดีที่ทาง บมจ.เคหะสุขประชา ได้รับความร่วมมือจาก “นายวิเศษ ศรีสุวรรณ์” ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยให้สิทธิ์ครอบครองและใช้ประโยชน์พื้นที่โครงการ บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ และเครือข่ายโคเนื้อล้านนา จะให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้ในการเริ่มต้นอาชีพปศุสัตว์ หรือการเลี้ยงโคเนื้อ และการเพาะปลูกที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังให้คำปรึกษาแนะนำแนวทาง ทั้งด้านการเลี้ยงสัตว์ การเพาะปลูกพืชอาหารสัตว์ รวมตลอดถึงการแปรรูปผลผลิตเพื่อการจำหน่ายให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยทางบมจ.เคหะสุขประชา จะพัฒนาพื้นที่โครงการตามแนวทางที่กำหนดไว้ เพื่อจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยพร้อมอาชีพให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ภายใต้ชื่อโครงการ “เคหะเกษตรยั่งยืน เชียงราย 1”

โครงการ “เคหะเกษตรยั่งยืน เชียงราย 1” นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญและอีกก้าวของ บมจ.เคหะสุขประชา ในการสร้างบ้านให้เป็นที่อยู่อาศัย ให้กับกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการพัฒนาในการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าว ในด้านการปศุสัตว์รวมถึงการเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนอาชีพอื่นๆ ให้มีความมั่นคง อยู่อาศัยได้อย่างมีคุณภาพชีวิตและมีสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐานในรูปแบบการเช่าระยะยาว

ด้านนายวิเศษ ศรีสุวรรณ์ เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ที่จะมอบให้กับโครงการ “เคหะเกษตรยั่งยืน เชียงราย 1” กล่าวว่า อดีตตนเป็นข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงมีแนวความคิดในแบบสหกรณ์อยู่ในตัว นั่นคือการอยากให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี สามารถลืมตาอ้าปากได้ แต่ในภาพความจริงคือประชาชนบางส่วน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ขาดปัจจัยที่เอื้ออำนวยแทบทุกอย่าง และมีทางเลือกที่ไม่มากนัก เช่น การทำอาชีพใช้แรงงาน ทำอาชีพการเกษตรเดิม ๆ ปลูกพืชซ้ำซากที่ให้ผลผลิตได้ไม่เต็มที่ จนนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แย่กว่าคือ ความท้อที่จะสร้างความมั่งคั่งในชีวิต



“โครงการ “เคหะเกษตรยั่งยืน เชียงราย” เป็นโครงการที่ตรงกับความต้องการในใจเราคืออยากให้ชุมชนดีขึ้น และเราก็มั่นใจว่าถ้าเราเอาที่ดินที่มีไปร่วมกับโครงการ มันจะสร้างประโยชน์กับประชาชนโดยส่วนรวมได้แน่นอน อาจจะเป็นที่อยู่ ที่ทำกิน ที่สร้างองค์ความรู้ไปพัฒนาตัวเอง จริงอยู่ที่ที่ดินมันมีมูลค่ามาก แต่เราคิดว่าถ้าให้สังคมไปมันจะคุ้มค่ากว่า เพราะตัวเราเองยังมีศักยภาพที่จะทำอย่างอื่นได้ แต่ขณะเดียวกันประชาชนที่ยังไม่มีที่อยู่ หรือเกษตรกรที่เขายังมองไม่เห็นอนาคต เขาลำบากกว่าเรา”

ปัจจุบัน ที่ดินของนายวิเศษ อยู่ในขั้นตอนการวางแผนพัฒนาในโครงการเคหะสุขประชา ทั้งการแบ่งส่วนที่พักอาศัย ส่วนทำการเกษตร ส่วนปศุสัตว์ และอื่น ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปถึงการจัดสรรเส้นทางคมนาคมในที่ดิน ในฝั่งของแม่น้ำ คลองชลประทาน และถนน เพื่อให้พื้นที่ในโครงการสร้างประโยชน์ได้มากที่สุดโดยเน้นที่การสร้างรายรับแก่ผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก อีกทั้งยังมีการวางแผนงานในอนาคตด้านต่าง ๆ อาทิ ส่วนการท่องเที่ยวและต่อยอดสร้างพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ ให้กับนักท่องเที่ยว, ชุมชนใกล้เคียง รวมถึงเป็นต้นแบบให้เกิดการพัฒนาในบ้านเคหะสุขประชาโครงการอื่น ๆ อีกด้วย

ด้านนายนเรศ รัศมีจันทร์ ประธานเครือข่ายโคเนื้อล้านนา กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายโคเนื้อล้านนาเชียงราย กินพื้นที่ จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง น่าน แพร่ พะเยา และลำพูน และ ปัจจุบันเกษตรกรในเครือข่ายโคเนื้อล้านนาได้มีการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น โดยมีการพัฒนาสายพันธุ์หลากหลาย โดยเฉพาะพันธุ์บีฟมาสเตอร์ ซึ่งการผสมผสานที่ลงตัว มีความทนทาน เลี้ยงง่ายเหมาะกับสภาพภูมิประเทศและอากาศของประเทศไทย สามารถใช้พ่อพันธุ์ผลิตโคขุนทดแทนการผสมเทียมในรูปแบบเดิมได้ รวมทั้งมีการสร้างตลาดแบบเป็นระบบโดยมีการขึ้นทะเบียนโคแม่พันธุ์ของสมาชิกทุกตัวด้วยการฝังไมโครชิป



โดยปัจจุบันเกษตรกรมีโคเนื้อในการบริหารจัดการเลี้ยงให้ได้มาตรฐาน และมีตลาดในประเทศที่มีพันธสัญญา มีราคาประกันที่แน่นอนด้วยการซื้อขายแบบชั่งน้ำหนักด้วย ดังนั้นทางเครือข่ายโคเนื้อล้านนา เล็งเห็นว่าโครงการ “เคหะเกษตรยั่งยืน เชียงราย 1” จะสามารถช่วยส่งเสริม และพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อให้กับผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการ “เคหะเกษตรยั่งยืน เชียงราย 1” ให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น และยั่งยืนอีกด้วย