ขอเชิญชมนิทรรศการ “ดวงใจราษฎร์ปราชญ์แห่งป่าและดิน” ณ ลานพระราชวังดุสิต
ตามที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติหมุนเวียน ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดนิทรรศการดังกล่าวแล้ว 2 ชุด ซึ่งชุดแรกในชื่อชุด “ดวงใจราษฎร์ปราชญ์แห่งน้ำ” ต่อมาชุดที่ 2 ในชื่อชุด “2 กษัตริย์นักพัฒนา” หัวข้อ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นั้น ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในชื่อชุด “ดวงใจราษฎร์ปราชญ์แห่งป่าและดิน” โดยการจัดนิทรรศการในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของทั้งสองพระองค์ ด้านการพัฒนาพื้นที่ป่า และด้านการปรับปรุงคุณภาพดิน เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เข้าใจ จนสามารถน้อมนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อีกทั้งยังประโยชน์แก่ราษฎรของพระองค์ให้มีความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงน้อมนำพระราชกรณียกิจไปดำเนิตามรอยพระยุคลบาทของล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ เพื่อเป็นการ สืบสาน รักษา และขยายผลต่อยอดต่อไป บริเวณการจัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้ประกอบด้วย พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด้านป่าและดิน พระองค์ทรงเป็นปราชญ์ด้านป่าและดิน ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริในเรื่องของการปลูกป่า อาทิ การปลูกป่าในใจคน การฟื้นฟูสภาพป่าด้วยวัฏจักรธรรมชาติ การปลูกป่าทดแทน การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ป่าพรุ และป่าชายเลน พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมแล้วจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่วนเรื่องดินนั้น พระองค์ได้พระราชทานแนวพระราชดำริในเรื่องของการศึกษาการป้องกันดินถล่ม การแกล้งดินเพื่อให้ดินมีคุณภาพสามารถทำการเกษตรได้ อีกทั้งการนำประโยชน์ของการปลูกหญ้าแฝกมาช่วยยึดดินไม่ให้พังทลายได้อีกด้วย นอกจากนี้ ในบริเวณนิทรรศการยังจัดแสดงพื้นที่ “พระราชาแห่งการอนุรักษ์” แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูสภาพป่า ทำอย่างไรให้ชุมชนอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน รวมทั้งการแยกชั้นประเภทของดินอีกด้วย โดยเริ่มจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. ณ บริเวณลานพระราชวังดุสิต แห่งนี้