ชีวิตต้องสู้ หนุ่มช่างซ่อมรถ “อั๋น เอกรินทร์” เดินหน้าอาชีพช่างแต่งหน้า
เคยมี “โปลิสจับพู่กัน” คือตำรวจแมนทั้งแท่งผันตัวมาเป็นช่างแต่งหน้ากลายเป็นข่าวโด่งดังในชั่วข้ามคืน ล่าสุด หนุ่มเมืองกรุง วัย 38 ปี ทำธุรกิจขายและซ่อมรถ แต่ไปเป็นเขยที่เมืองอุตรดิตถ์ เกิดลูกบ้าขอภรรยาและพ่อตา-แม่ยาย ลุกมาจับแปรงเป็น “ช่างแต่งหน้า” ปรากฏว่า ทุกคนไฟเขียว เตรียมเฉือนพื้นที่ร้านขายรถและอู่ซ่อมรถ เนรมิตเป็น “ร้านเสริมสวย” ภายในปีนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการเมคอัพ เมื่อมีช่างซ่อมรถเดินทางจากอุตรดิตถ์มาสมัครเรียนคอร์สแต่งหน้าพื้นฐาน โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า เอ็มทีไอ ที่กรุงเทพฯ ทำเอาช่างแต่งหน้าชายไม่จริงหญิงแท้หลายคนที่ทราบข่าวถึงกับเกิดอาการเซอร์ไพรส์หนักมาก “อั๋น-เอกรินทร์ พันธุ์แพ” ช่างซ่อมรถคนดังกล่าว มีดีกรีการศึกษาเป็นถึงบัณฑิตคณะศิลปศาสตร์ สาขาธุรกิจภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เปิดใจภายหลังจากเรียนจบคอร์สแรกที่โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า เอ็มทีไอ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า ก่อนอื่นผมขอบอกก่อนเลยว่า ผมไม่ได้เบี่ยงเบนทางเพศ เป็นผู้ชายเต็มร้อย มีลูกมีเมียแล้วด้วย แล้วเมื่อลูกโตมาผมก็จะอธิบายให้ลูกฟังว่า นี่เป็นอาชีพที่พ่อทำแล้วหาเงินส่งหนูเรียนหนังสือนะครับ ผมเคารพในความคิดนะ แต่อยากเปลี่ยนความคิดของใครหลาย ๆ คน คือไม่อยากให้มองว่า อาชีพนี้สงวนไว้ให้กับเพศนั้นเพศนี้โดยเฉพาะ หมดสมัยแล้วครับ ผมว่าทุกคนมีเหตุผล ทุกคนมีวิสัยทัศน์ ในการมองหางานที่ทำแล้วสามารถเลี้ยงตัวเองและจุนเจือครอบครัวได้ มีสายป่านที่ยาวไกล ที่ผมมองไว้หนึ่งในนั้นคือ “อาชีพช่างแต่งหน้า” ที่เรามักจะเห็นว่า คนทำอาชีพนี้ส่วนใหญ่เป็นเพศทางเลือกและผู้หญิง ผู้ชายนี่แทบมองไม่เห็นอนาคต สำหรับตัวผมแล้ว ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟนคือ คุณเบียร์-ปวีณา ศรีพลากิจ ที่เขาไปเรียนช่างเสริมสวยมา จากจุดนี้แหละเป็น “แรงบันดาลใจ” ให้ผมอยากช่วยแบ่งเบาภาระของแฟน จึงตัดสินใจขอแฟนไปเรียนแต่งหน้า จะได้มาช่วยกันทำมาหากิน พอแฟนได้ยินก็ทำท่าทางตกใจ ก็คงคิดว่า ตกลงเป็นแฟนหรือเพื่อนสาวฉันเนี่ย (หัวเราะ) แล้วพูดว่า “จะแต่งได้เหรอ” ผมพูดเต็มปากเต็มคำเลยว่า “ต้องได้ หากมีความมุ่งมั่นตั้งใจแล้ว ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของคนเรา” คุณอั๋น เล่าว่า ฝ่าด่านภรรยาไปได้ แต่ก็ไม่ใช่จะจบ ต้องขอไฟเขียวจากพ่อตา เพราะท่านอยากวางมือและหมายมั่นปั้นมือจะให้ผมดูแลกิจการ “ร้านคิมเซอร์วิส” อย่างเต็มตัว ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ มีขายรถหลายประเภท เช่น รถมอเตอร์ไซค์ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า รถสามล้อเครื่อง รถไถ รวมถึงอะไหล่รถและบริการซ่อมรถต่าง ๆ โดยปกติผมก็ช่วยดูแลกิจการ นอกจากผมเป็นช่างซ่อมรถแล้วยังเป็นช่างไฟฟ้าและซ่อมแอร์อีกด้วย “ด้วยความที่เราอยากเรียนแต่งหน้าจริง ๆ จึงเดินไปบอกท่าน ๆ เกิดอาการอึ้ง ๆ รับฟังก็ไม่ได้ว่าอย่างไร ท่านหัวสมัยใหม่ แต่ผมอ่านจากสายตาท่านเหมือนจะบอกว่า...แล้วใครจะช่วยดูแลกิจการและจะทำได้มั้ยงานแต่งหน้าเนี่ย !?! ผมเลยบอกว่า ไม่ต้องห่วงหรอกคนผมไม่ทิ้งกิจการหรอก หากเรามีการจัดการที่ดีไม่น่ามีปัญหา” จากนั้นคุณอั๋นจึงได้สอบถามคุณอุ๋ยผู้เป็นพี่สาวว่า ที่ไหนมีโรงเรียนสอนแต่งหน้าดี ๆ บ้าง ได้รับคำแนะนำว่า ให้มาเรียนที่โรงเรียนสอนศิลปะการแต่งหน้า เอ็มทีไอ ไป ๆ มา ๆ แฟนอยากเรียนด้วย จึงเดินทางมาเรียนในเวลารวม 9 วัน “ก่อนไปเรียน 1 วัน คืนนั้นก็ทำการบ้านไว้ก่อนรื้อเครื่องสำอางของแฟนมาดูว่า มีอะไรบ้าง บอกตรง ๆ ว่า ในชีวิตไม่เคยรู้เรื่องการแต่งหน้า ไม่เคยจับเครื่องสำอางของผู้หญิงเลย แฟนรวมทั้งพี่สาวก็แนะนำวิธีการใช้เบื้องต้นให้ ลองแต่งหน้าแฟนเล่น ๆ ดู โอ้โฮ ! เดินออกไปข้างนอกบ้านคนคงได้แตกตื่น (หัวเราะ)” เมื่อถึงวันแรกของการเรียน มีคนเรียน 9 คน มีผู้ชายแท้ ๆ ดิบ ๆ เถื่อน ๆ อย่างคุณอั๋นเพียงหนึ่งเดียวคนนี้ ส่วนที่เหลือคือชายไม่จริงหญิงแท้คละกันไป คุณอั๋นบอกว่า พออาจารย์ผู้สอนเริ่มแนะนำเครื่องสำอางและอุปกรณ์ เห็นแล้วส่วนใหญ่จะไม่ค่อยคุ้นเลย คือ ทั้งงงทั้งกลัวว่าจะใช้ไม่ถูก เช่น การไฮไลต์ อายแชโดว์ คอนซีลเลอร์ ครีมรองพื้น แป้ง มาสคาร่า แต่ก็ไม่กดดัน รู้สึกอุ่นใจเสียด้วยซ้ำ เพราะมีแฟนนั่งเรียนด้วย และอาจารย์ใจดี เอาใจใส่นักเรียน โดยเฉพาะผมที่เก้ ๆ กัง ๆ จนอาจารย์แอบอมยิ้มอยู่เรื่อย ๆ “พอเครื่องติดก็รู้สึกสนุกมาก โดยเฉพาะตอนที่อาจารย์มาแซว คิ้ววิ่งปาดสังกะสีมาหรือเปล่า แต่งหน้าเจ้าสาวอย่าให้ออกมาเป็นหน้าเจ้าที่นะ (หัวเราะ) ทำให้ความกลัวหรือกังวลใจหายไป ความมั่นใจความกล้ามาแทนที่ เหมือนกับเราเรียนวิชาศิลปะเลย แต่เปลี่ยนจากสีน้ำ ดินสอสี มาเป็นแปรงเป็นพู่กัน เปลี่ยนกระดาษเป็นหน้าตา เมื่อเรียนเสร็จกลับไปถึงบ้านหลังเลิกงานก็จะทบทวนสิ่งที่เรียนมา โดยใช้หน้าของพี่สาวเป็นหนูทดลอง กว่าจะได้นอนกันปาเข้าไปสี่ทุ่มห้าทุ่ม เมื่อมาวันสุดท้ายมีการสอบประเมินความรู้ความสามารถ ได้พี่สาวมาเป็นนางแบบ มีผิดพลาดบ้าง เช่น อาจารย์บอกว่า แต่งหน้าแล้วดูสีอ่อนไป ในที่สุดเราสามารถผ่านจุดนี้มาได้ อีกทั้งยังมีใบประกาศนียบัตรรับรอง ถามว่าการแต่งหน้ายากตรงไหน ผมว่าไม่ยากนะ หากเรามีความตั้งใจและมุ่งมั่น เชื่อเหลือเกินการเรียนแต่งหน้าไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ขนาดผมที่ไม่ได้มีพื้นฐานอะไรเลยแม้แต่น้อยยังทำได้ คุณก็ต้องทำได้อย่างแน่นอน” หลังจากเรียนจบคอร์สมาแล้ว สิ่งที่ทำให้คุณอั๋นมั่นใจแบบสุด ๆ คือ ทดลองแต่งหน้าให้คุณแม่แล้วท่านบอกว่าสวย นอกจากนี้เขายังได้จดจำคำสอนสำคัญของอาจารย์คือ ให้ฝึกฝนแต่งหน้าจะทำให้มือเราพลิ้ว และพยายามนค้นคว้าหาความรู้ด้านการแต่งหน้าและแฟชั่นอยู่บ่อย ๆ เช่น การเข้าร้านหรือไปแหล่งที่ขายเครื่องสำอาง เพราะในแต่ละวันมักมีอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ อยู่เสมอ คุณอั๋นกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้ซ้อมฝึกฝีมือการแต่งหน้าก่อนจะเริ่มแต่งหน้าให้ลูกค้า ถึงวันนั้นหากมีลูกค้ามาใช้บริการ เขาอาจดูไม่ค่อยมั่นใจในตัวเรา แต่คิดว่าผมจะทำอย่างสุดความสามารถ ใช้ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาอย่างเต็มที่ อีกทั้งเราเตรียมต้องเปลี่ยนลุคตัวเอง จากที่สวมใส่ชุดที่ดูเก่าเปื้อนคราบน้ำมัน เนื่องจากเราต้องซ่อมรถซ่อมไฟ คงต้องหันมาสวมเสื้อผ้าที่ดูแนวแฟชั่น ทันสมัย และมีความสะอาดสะอ้าน โดยเฉพาะมือที่ใช้แต่งหน้า ช่างแต่งหน้าสุดเซอร์ กล่าวด้วยว่า ผมมีความคิดว่า ในอนาคตจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ส่วนหนึ่งของบริเวณร้านขายรถซ่อมรถ โดยจะใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาเป็นร้านเสริมสวย แล้วเอาของประดับยนต์มาตกแต่งร้านให้ดูเก๋ไก๋ เป็นจุดดึงดูดความสนใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ “หลังจากเรียนจบกลับมาถึงบ้าน ผมเกิดไอเดียบรรเจิด เอารถมอเตอร์ไซค์คันสีชมพูที่ร้านมาทดลองแต่งให้ดูออกเป็นผู้หญิง ๆ เช่น ติดขนตาที่ไฟหน้ารถ แล้วตั้งชื่อว่า “น้องพิงกี้” เผื่อเวลาทำร้านจะได้เอามาประดับร้าน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความร่วมสมัยว่า การเป็นช่างแต่งหน้าจะไม่มีช่องว่างระหว่างวัย คุณจะเป็นใคร ทำงานอาชีพไหน หรือไม่มีพื้นฐานอะไรก็สามารถมาเรียนได้” ผมคงจะทำอาชีพช่างแต่งหน้าไปเรื่อย ๆ เพราะเราเลือกเส้นทางเดินเอง เชื่อว่าอาชีพนี้คงอยู่ไปอีกยาวนาน เนื่องจากผู้หญิงเราไม่เคยหยุดรักสวยรักงาม โดยเฉพาะเมื่อต้องออกจากบ้านหรือที่พัก ต้องสวยเนี๊ยบ อีกทั้งงานอื่น ๆ ยังคงจะเดินหน้าไปเรื่อยๆ เช่น งานแต่งงาน งานมงคลต่าง ๆ งานแฟชั่น งานบันเทิง งานรื่นเริงต่าง ๆ ทำให้ช่างแต่งหน้าไม่ตกงาน ขอเพียงแต่เรามีความสามารถแล้วพิสูจน์ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ขอบคุณเอ็มทีไอที่เป็นต้นทุนชีวิตให้ผมก้าวเดินต่อไปเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพและสร้างรายได้อย่างแท้จริง หากมีโอกาสผมจะไปเรียนคอร์สเพิ่มเติมอีกครับ “โดยเฉพาะตอนนี้ขอช่วยประสัมพันธ์เลยว่า โรงเรียนสอนศิลปะการแต่งหน้า เอ็มทีไอ มีโปรโมชั่นพิเศษ "มาเดี่ยว เรียนได้เลย" กับหลักสูตรพื้นฐานในราคาพิเศษ 15,000 บาทรับฟรี MTI PROFESSIONAL BRUSH SET ชุดแปรงแต่งหน้ามืออาชีพ 15 ชิ้น มูลค่า 5,500 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.089-113-6775 และ 086-341-6713 หรือ Line ID : mtimakeupschool และ Facebook : MTI Makeup School” (ลิ้งค์การสัมภาษณ์ออกรายการทีวีครั้งแรกในรายการ “สวย เป๊ะ เว่อร์” ช่อง S CHANNEL)