กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566: ด้วยการลงทุนด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นและการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ ประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) ทำให้ประเทศต่าง ๆ ตระหนักถึงความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยที่แพร่หลายมากขึ้น รวมถึงการควบคุมอธิปไตยเหนือดิจิทัลซัพพลายเชน เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของ Sovereign Cloud บริษัท วีเอ็มแวร์ จำกัด (VMware - NYSE: VMW) ร่วมกับ Thai CIO Association และ VSTECS จัดงาน Sovereign Cloud Discovery เมื่อวานนี้ที่กรุงเทพฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นและแนวทางในการจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ
เนื่องจากองค์กรในประเทศไทยกำลังเร่งสร้างการเติบโตเพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศพร้อมทั้งเพิ่มสาขาเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมการให้บริการทั่วประเทศ ขณะนี้ธุรกิจจำเป็นต้องพิจารณากลยุทธ์คลาวด์อย่างใกล้ชิดและประเมินการเข้าถึงและควบคุมข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล อุตสาหกรรม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย (PDPA) ยังช่วยกำหนดวิธีที่ธุรกิจในประเทศไทยควรจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองของประเทศและสิทธิ์ในความเป็นส่วนตัว อ้างอิงข้อมูลจากไอดีซีพบ 63% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การมีโซลูชันระบบคลาวด์ที่ให้สิทธิ์ในการควบคุมและอำนาจอย่างเต็มที่ต่อข้อมูลของตนเป็นสิ่งสำคัญ
ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นทางธุรกิจในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ให้ความโปร่งใสและมองเห็นข้อมูลได้ และควบคุมที่อยู่ของข้อมูลอย่างเข้มงวด ที่งาน Sovereign Cloud Discovery ผู้บรรยายได้เจาะลึกแนวคิดเรื่อง Data Sovereignty กฎหมายที่ควบคุมพฤติกรรมออนไลน์ การปกป้องข้อมูล และปัญหาด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ในการตั้งค่าอธิปไตย ก่อนที่จะมุ่งเน้นไปที่ความท้าทายอื่น ๆ
นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในขณะที่องค์กรและรัฐบาลตระหนักถึงความจำเป็นของโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ที่ปลอดภัยและมีการจัดการในประเทศมากขึ้น แนวคิดเรื่อง sovereign cloud จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการเติบโต บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกต่างจัดเก็บและจัดการข้อมูลผู้บริโภคจากตลาดอื่นนอกเหนือจากตลาดของตนเอง สิ่งนี้ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ในขณะที่เพิ่มข้อได้เปรียบจากคลาวด์คอมพิวติ้งให้ได้สูงสุด โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ตรงตามข้อกำหนดและความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงเป็นสองปัจจัยที่พาร์ทเนอร์ของเราทั้ง AIS และ CloudHM กำลังดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าชาวไทยจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปรับใช้คลาวด์”
ที่งาน Sovereign Cloud Discovery ได้รับเกียรติจาก ดร.กำพล ศรธนะรัตน์ นายกสมาคม Thai CIO และนายกสมาคม Thai DPO, มร. ทีโบ ไคลเนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการเข้าถึงบริการจาก DG Connect, นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายกฤษกร ชัยเจริญ หัวหน้าฝ่ายองค์กร ผลิตภัณฑ์แพลตฟอร์มดิจิทัลจาก AIS, นายณพัชร อัมพุช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CloudHM, มร. พอล ไซมอส รองประธานและกรรมการผู้จัดการ วีเอ็มแวร์ประจำภูมอภาคตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียและเกาหลี และ นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำวีเอ็มแวร์ประเทศไทย
ด้าน นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการระบบคลาวด์ชั้นนำในประเทศไทย เราช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ได้อย่างเต็มที่และปลดล็อกคุณค่าของข้อมูลที่สำคัญของตนไปพร้อมกับปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลในประเทศ ด้วยบริการ sovereign cloud ที่พร้อมสำหรับนักพัฒนา เราได้นำเสนอประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างการเติบโตและสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยปราศจากความกังวลต่อการบริหารจัดการข้อมูลภายใต้กฎระเบียบรวมทั้งความสามารถในการจัดการความต้องที่ซับซ้อน”
ขณะที่ นายณพัชร อัมพุช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CloudHM กล่าวว่า “ความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยขององค์กร แต่ละประเทศมีกฎระเบียบ มาตรฐาน และกฎหมายสำหรับการใช้งานคลาวด์ที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจขัดแย้งกับความปลอดภัยของข้อมูลจากผู้ให้บริการคลาวด์ที่แตกต่างกัน ด้วยความร่วมมือกับ VMware ทำให้เราสามารถช่วยลูกค้าจัดการและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นในประเทศตัวเองไม่ต้องเผชิญกับการควบคุมและอิทธิพลจากต่างประเทศ”
Post Views: 52