Update Newsท่องเที่ยว B Tripธุรกิจท่องเที่ยวสกู๊ปพิเศษ

ททท.ชูทริป “เส้นทางมรดกแห่งสยาม” กระตุ้นนักเที่ยว”Hing End”



ทริปต์พิเศษของการท่องเที่ยว "เส้นทางมรดกแห่งสยาม"  เมื่อวันที่ 30-31 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา เป็นความร่วมมือของคณะผู้จัดงาน นำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,บริษัทบราเดอร์(ประเทศไทย)จำกัด ,การบินไทย,กลุ่มรถคลาสสิคโบราณ,กลุ่มร้านช่างทองโบราณเมืองเพชรบุรี และบริษัทวิทแอนด์วิสดอม จำกัด นำนักท่องเที่ยวระดับ Hight End ร่วมเดินทางสัมผัส มรดกล้ำค่าแห่งสยาม ในเส้นทางเชื่อมต่อของ 2 จังหวัดภาคกลาง ชะอำ ของเพชรบุรีและหัวหินของประจวบคีรีขันธุ์ เยี่ยมชม มฤคทายวันราชนิเวศน์ และวัดใหญ่สุวรรณาราม



ทริปต์พิเศษ 2 วัน 1 คืน เดินทางจากกรุงเทพมหานคร  ถึงที่พักในสายของวันที่ 30 มี.ค.เข้าพักที่โรงแรมอนันตรา หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา  จ.ประจวบคีรีขันธุ์  รับประทานอาหารมื้อกลางวันที่ร้านสุภัทรา บายเดอะซี ช่วงบ่ายเดินทางไปชม "มฤคทายวันราชนิเวศน์"พร้อมรับฟังการบรรยายพิเศษ ก่อนจะกลับไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพื่อร่วมกาล่าดินเนอร์ในค่ำคืนสุดพิเศษสุดอลังการ "The Glorious Siam Legacy Night" ณ เรือนเจ้าพระยารามราฆพ

ด้วยอาหารสุดพิเศษ รังสรรค์ โดย เชฟ FUZIO การันตีด้วยรางวัลระดับโลก กับเมนูสุดหรูชูวัฒนธรรมไทยแต่โบราณของชาววัง  มี ช่อม่วง กุ้งโสร่ง กุ้งพันอ้อย  แกงจืดเจ้าเงาะ อกไก่เสริฟพร้อมมันฝรั่งกับซอสมะขาม ผักโขม พานาก็อตต้า และซอสมะม่วง พร้อมผลไม้ พร้อมดื่มด่ำกับเสียงบรรเลงเพลงสุดคลาสสิคจากวงออเคสตร้า 25 ชิ้น โดยมีลูกหว้า  พิจิกา จิตตะปุตตะ ศิลปินชื่อดังนำเพลงไพเราะทั้งสากลและไทยสากลมาขับกล่อม รุ่งเช้าเดินทางไปชมความงดงามของวัดใหญ่สุวรรณาราม ที่อ.เมือง เพชรบุรี รับประทานมื้อเที่ยงที่ร้านชื่อดังเปลญวน เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร 







นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า จากปรากฏการณ์สำคัญหนึ่งในกระแสการท่องเที่ยวช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา คือกระแสการเดินทางท่องเที่ยวแบบย้อนยุค หรือที่เรียกว่า Nostalgia Tourism เป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งที่ตอบสนองความต้องการ “โหยหาอดีต” และนำมาสู่ความต้องการที่จะหวนย้อนกลับไปมีประสบการณ์ ในอดีตที่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เจริญรุ่งเรือง หรือมีความงดงามทางวัฒนธรรม

ดังนั้นททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้นำจุดเด่นเกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ความเป็นราชธานีที่เจริญรุ่งเรืองมายาวนานกว่า 600 ปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีความอุดมไปด้วยศิลปกรรมหัตถกรรม วิถีการกินชั้นสูง และหลักฐานการหลอมรวมวัฒนธรรมนานาชาติในดินแดนที่เป็นศูนย์กลางการค้าและการทูต เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปร่วมสัมผัสเส้นทางมรดกแห่งสยาม: Premium Nostalgia More Legacy





โดยครั้งนี้เป็นเป็นทริปต์พิเศษ ที่คณะผู้จัดซึ่งเป็นพันธมิตรซึ่งมีแนวคิดเดียวกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ เดินทางท่องเที่ยวใน "เส้นทางมรดกสยาม" จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์   ตามรอยสยาม วัด วัง เป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมรูปแบบนี้ ถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย และเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพได้ร่วมเดินทางในโอกาสต่อไป นักท่องเที่ยวชุดแรกในทริปต์พิเศษนี้ ได้สัมผัส ความงดงามของ วัง วัด  ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ได้รับประทานอาหารโบราณ  หน้าเรือนของเจ้าพระยารามราฆพ ชมการ เดินแบบจากนางแบบชั้นแนวหน้าในชุดผ้าไทยพร้อมครื่องประดับทองโบราณฝีมือช่าเมืองเพชรที่สืบทอดการทำทองดั้งเดิมแบบอยุธยา และยังมาเปิดบูธให้ได้ชื่นชมและจับจ่ายในงานในราคาพิเศษด้วย

"ถือเป็นโครงการ พรีเมี่ยม ซึ่งเราอยากให้นักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพหรือมีกำลังซื้อได้ท่องเที่ยวในประเทศของเรา เงินทองไม่รั่วไหล หากนักท่องเที่ยวสนใจทริปต์ไฮเอ็นแบบนี้สอบถามได้ที่ 1672  เมื่อมีกลุ่มพันธมิตรใดจัด ทางททท.จะทำหน้าประสานและให้ความช่วยเหลือ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการนำร่อง" ผอ.กองการตลาดภาคกลาง ททท.กล่าว











 

ด้านคุณประวิทย์ โนนทิง หรือช่างหน่อย  เจ้าของร้านบ้านรักษ์ทองโบราณ เรียนและสืบทอดการทำทองตั้งแต่อายุ20 ปี ปัจจุบัน 37 ปี ซึ่งได้นำเครื่องทองรูปพรรณงดงามวิจิตร ให้นางแบบใส่โชว์และนำมาร่วมออกบูธในงานกาล่าดินเนอร์ เปิดเผยว่า ปลาบปลื้มและถือเป็นเกียรติแห่งชีวิตเป็นอย่างยิ่ง  เพราะตนเป็นเพียงช่างบ้านๆที่มีความรักในงานโบราณและสืบทอดการทำจากพี่ชายซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อตนรับการถ่ายทอดงานเพียง 5 ปี  แต่เพราะใจรักได้รับจ้างร้านอื่นๆจนเปิดร้านของตัวเองเมื่อปี2556 และยึดเอกลักษณ์ลายทองโบราณเฉพาะตัว  

ผลงานทำมือทุกชิ้น งานโซน จ.อยุธยามาทางถึงโซนเพชรบุรีจะออกแนวอยุธยา จะไม่เหมือนทางด้านสุโขทัย  เน้นตอกลาย ดุลลาย  ความละเอียดในการวางดอกพิกุล การเป่าไข่ปลา งานจะแตกต่างกัน เช่น แหวนนพเก้า แหวนพญานาค ทับทรวง อุบะ  เน้นการตอกลาย สำหรับบ้านรักษ์ทอง ตั้งอยู่ที่เลขที่ 368 ถ.ดำเนินเกษม ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรีT.084-102-3889 /088670-9191

ขณะที่คุณบุญเลิศ ศิริภัทรวณิช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม ออสสิริส  ซึ่งสืบทอดกิจการร้านทองโบราณมาจากคุณปู่ที่เป็นช่างทองเพชรบุรีเมื่อ 70 ปีที่ผ่านมาสืบทอดการทำทองมาจากช่างทองยุคอยุธยาแล้วแตกสายกันมาที่เพชรบุรีนำทองสวยงามมาร่วมให้นางแบบใส่เดินโชว์ด้วยเช่นกัน 











สำหรับ"มฤคทายวันราชนิเวศน์" มรดกแห่งสยาม สร้างขึ้นโดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นที่ประทับระหว่างเสด็จแปรพระราชฐานในช่วงฤดูร้อน  เนื่องจากในช่วงนั้นทรงพระประชวร แพทย์หลวงจึงถวายคำแนะนำให้เสด็จไปประทับ ณ สถานที่ตากอากาศชายทะเล   ได้ดำเนินการก่อสร้างในปี พุทธศักราช 2466 -2467 ขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณะเพื่อเฉลิมฉลองอายุ100ปีในพ.ศ.2567

ประกอบด้วยพระที่นั่ง 3 หมู่ ได้แก่ หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน เป็นส่วนของฝ่ายใน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ หมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ ณส่วนกลาง และสโมสรเสวกามาตย์ เป็นอาคารโถง มี 2  ชั้น ใช้เป็นโรงละครและท้องพระโรง พระที่นั่งเหล่านี้เชื่อมต่อถึงกันด้วยสะพานไม้มีหลังคาคลุม สำหรับตัวอาคารเป็นอาคารยกพื้นสูง สร้างด้วยไม้สักทอง ตอม่อเป็นเสาคอนกรีต หลังคามุงกระเบื้องว่าวโดยรวมมีลักษณะโปร่งเบา เหมาะกับภูมิอากาศ และบรรยากาศของชายทะเล









"วัดใหญ่สุวรรณาราม" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร  ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าราบ  อ.เมือง  เพชรบุรี  มีการปฏิสังขรณ์ในรัชกาลที่ 4  สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ดังจะเห็นได้จากหลักฐานตามพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงไว้ว่า “ภาพและลายในพระอุโบสถนี้คงเขียนมาก่อน 300 ปีขึ้นไป…”

ความโดดเด่นอยู่ที่รูปแบบของสถาปัตยกรรม งานจิตรกรรม และประติมากรรม ที่รวบรวมช่างฝีมือไว้หลายสาขา โดยเฉพาะฝีมือช่างเพชรสมัยกรุงศรีอยุธยาที่เห็นได้ในพระอุโบสถและศาลาการเปรียญ และหอเก็บพระไตรปิฏก  เป็นอาคารไม้ผนังฝาปะกน รองรับด้วยเสาไม้ 3 เสา จากแนวคิดที่ว่า พระไตรปิฎก ประกอบด้วย 3 ปิฎกคือ พระธรรมปิฏกพระไตรปิฏก และพระสุตันตปิฎก