ShowTimeUpdate Newsการตลาดท่องเที่ยว B Tripธุรกิจ-เศรษฐกิจแหล่งเที่ยวไลฟ์สไตล์

“ทัวร์แดนมังกร” คึกคัก เอ็นเกจเมนต์ฉ่ำ รับวีซ่าฟรี

วีซ่าฟรีไทย-จีน มีผล 1 มี.. 67 กระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศคึกคัก คนไทยสนใจข้อมูลท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น ส่องกระแสโซเชียลพบเสฉวน” “ยูนนาน” “ปักกิ่งเป็น 3 มณฑลยอดฮิตที่คนไทยนิยมไปเที่ยว จิ่วจ้ายโกว-ภูเขาหิมะมังกรหยก-กำแพงเมืองจีน ติดท็อปแหล่งท่องเที่ยวที่บริษัททัวร์โปรโมต โดยแพ็กเกจทัวร์ 5 วัน 4 คืน และ ราคาแพ็กเกจไม่เกิน 3 หมื่นบาท ได้รับความสนใจสูงสุด

บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด รวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) และนำมาวิเคราะห์ในช่วงวันที่ 1 มกราคม - 20 กุมภาพันธ์ 2567 มีการพูดถึง “ทัวร์ท่องเที่ยวจีน” อย่างไร โดยจากการสำรวจข้อมูลพบว่ามีการพูดถึง (Mention) ประเด็นดังกล่าว 1,035 ครั้ง และ ได้รับเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) จำนวน 48,411 ครั้ง โดยเฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นช่องทางที่ได้รับการ Mention และ Engagement มากที่สุด

 นอกจากนี้ จากการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 ยังพบว่า ผู้คนในสังคมออนไลน์ตื่นตัวและให้ความสนใจค้นหาข้อมูลและพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจีนมากขึ้น ส่งผลให้แฮชแท็ก #เที่ยวจีน #ฟรีวีซ่าจีน #วีซ่าจีน #เศรษฐาทวีสิน #เศรษฐา #เพื่อไทย #พรรคเพื่อไทย ขึ้นเทรนด์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยเฉพาะหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศข่าวดี! หลังปีใหม่ว่า วีซ่าฟรีไทย-จีน พำนักไม่เกิน 30 วัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 1 มี.ค. 2567

5 มณฑลยอดฮิตจากทัวร์ท่องเที่ยวจีน

จากข้อมูลการโปรโมตของบริษัททัวร์ท่องเที่ยว พบว่ามณฑลของจีนที่เป็นที่นิยมมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ เสฉวน (Sichuan) 15.95%, ยูนนาน (Yunnan) 14.27%, ปักกิ่ง (Beijing) 12.32%, หูหนาน (Hunan) 12.06%, เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) 9.08% และ อื่น ๆ โดยจุดเด่น หรือ ไฮไลท์ของแต่ละมณฑลมีดังนี้

 อันดับ 1 มณฑลเสฉวน เป็นที่รู้จักดีจากชื่อเสียงของอาหารเสฉวนที่มีรสชาติเผ็ดร้อน นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นในด้านวัฒนธรรม และ ธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเมืองเฉิงตูเป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่บริษัททัวร์นำมาโปรโมตในโปรแกรมท่องเที่ยวมากที่สุดในมณฑลเสฉวน คือ



อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว                     29.70%

อุทยานหวงหลง หรือ หุบเขามังกรเหลือง   19.39%

หมีแพนด้ายักษ์ปีนตึก                           17.58%

วัดต้าฉือ                                            9.09%

ภูเขาสี่ดรุณี                                        6.35%

อื่น ๆ                                               17.89%

อันดับ 2 มณฑลยูนนาน มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ถูกเรียกว่าเป็นเส้นทางมรดกโลก เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจำนวนมาก มีเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเด่น เช่น เมืองคุนหมิง เมืองลี่เจียง เมืองต้าหลี่ โดยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่บริษัททัวร์นำมาโปรโมตในโปรแกรมท่องเที่ยวมากที่สุดในมณฑลยูนนาน คือ

ภูเขาหิมะมังกรหยก         43.53%

เมืองโบราณลี่เจียง         16.81%

ทะเลสาบไป๋สุ๋ยเหอะ       13.36%

ช่องแคบเสือกระโจน       12.50%

เมืองโบราณแชงกรีล่า      6.03%

อื่น ๆ                           7.77%

อันดับ 3 นครปักกิ่ง หรือภาษาจีนเรียกว่า เป่ยจิง (Beijing) เมืองแห่งศูนย์กลางทั้งด้านการปกครอง เศรษฐกิจ การคมนาคม การศึกษา และวัฒนธรรมของประเทศจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่บริษัททัวร์นำมาโปรโมตในโปรแกรมท่องเที่ยวมากที่สุดในปักกิ่ง คือ

กำแพงเมืองจีน                   24.01%

จัตุรัสเทียนอันเหมิน             15.86%

พระราชวังต้องห้าม             14.43%

หอฟ้าเทียนถาน                 12.98%

วัดลามะ                             10.02%

Universal Studios Beijing 10.02%

อื่น ๆ                                12.68%

อันดับ 4 มณฑลหูหนาน อยู่ทางภาคกลางของจีน มีเมืองเอกชื่อฉางชา เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์บนเส้นทางสายไหมทางทะเล และโดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงมีอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศจีนที่อยู่ในเมืองจางเจียเจี้ยอีกด้วย จึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมได้เป็นจำนวนมาก โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่บริษัททัวร์นำมาโปรโมตในโปรแกรมท่องเที่ยวมากที่สุดในมณฑลหูหนาน คือ

 อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย                     32.72%

เขาเทียนเหมินซาน หรือ ประตูสวรรค์         27.55%

หุบเขาอวตาร                                     10.72%

เมืองโบราณเฟิ่งหวง                              9.43%

ล่องเรือแม่น้ำถัวเจียง                              7.76%

อื่น ๆ                                               11.82%

อันดับ 5 นครเซี่ยงไฮ้ เป็นมหานครที่เจริญที่สุดในประเทศจีน มีความทันสมัย มีแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และสมัยเก่าอย่างลงตัว สะดวกต่อการแวะไปท่องเที่ยวต่อที่เมืองต่าง ๆ เช่น ปักกิ่ง หังโจว อู๋ซี ทำให้แพ็กเกจท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักขายควบคู่พร้อมกับเมืองอื่น ๆ ด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ในนครเซี่ยงไฮ้ที่บริษัททัวร์นำมาโปรโมตในโปรแกรมท่องเที่ยวส่วนใหญ่ คือ

Shanghai Disneyland                          32.78%

หอไข่มุก                                            26.70%

ทะเลสาบซีหู                                       25.28%

หาดไว่ทาน หรือ หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้         9.24%

ล่องเรือทะเลสาบหนานหู                         3.69%

อื่น ๆ                                                2.31%

แพ็กเกจท่องเที่ยวจีนไม่เกิน 3 หมื่น ได้รับความสนใจสูงสุด

จากการสำรวจวิเคราะห์ข้อมูลการเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวในประเทศจีนทางโซเชียลมีเดีย พบว่า บริษัททัวร์ส่วนใหญ่มักนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวใน 2 ช่วงราคา คือ ระดับช่วงราคาตั้งแต่ 16,000 - 20,000 บาท และ ช่วงราคา 26,000 - 30,000 บาท 



นอกจากนี้ ยังมีราคาโปรไฟไหม้ที่บริษัททัวร์สามารถลดราคาให้เหลือต่ำกว่า 10,000 บาทได้ และ ทัวร์ไพรเวตที่มีราคามากกว่า 50,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการโปรโมตผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียมากนักโดยจะเน้นการสื่อสารในช่องทาง LINE Official เนื่องจากเป็นระดับ Exclusive ที่มักเสนอขายให้แก่ผู้ติดตามมากกว่า

 ทริป 5 วัน 4 คืน แผนเดินทางยอดฮิต

ทริปท่องเที่ยวในประเทศจีนยอดนิยมที่บริษัททัวร์ส่วนใหญ่จัดทำแพ็กเกจทัวร์เสนอขายนักท่องเที่ยวไทย พบว่า ส่วนใหญ่จะจัดแผนการเดินทาง 5 วัน 4 คืน รองลงมา 4 วัน 3 คืน และ 6 วัน 5 คืน ตามลำดับ ซึ่งราคาแพ็กเกจจะผันแปรไปตามจำนวนคืนที่เข้าพักในโรงแรม

สายการบิน Air China เป็นแบรนด์ที่บริษัททัวร์เลือกใช้และจัดอยู่ในแพ็กเกจทัวร์มากที่สุด 

         ปัจจัยในการกำหนดราคาแพ็กเกจทัวร์ หรือ แพ็กเกจท่องเที่ยว ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ สายการบิน โดยพบว่า แบรนด์ของสายการบินที่ถูกเรียกใช้บริการ โดยเหมารวมกับแพ็กเกจทัวร์มากที่สุดคือ แอร์ ไชนา (Air China) คิดเป็นสัดส่วน 21.9% จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด รองลงมาคือ ไทย เวียตเจ็ท (Thai Vietjet) 16.2% และ ไทย แอร์เอเชีย (Thai AirAsia) 11.4%



Air China (CA)                            21.9%

Thai Vietjet (VZ)                         16.2%

Thai AirAsia (FD)                        11.4%

China Eastern Airlines (MU)          11.1%

Thai Airways (TG)                         6.7%

9 AIR (AQ)                                  4.7%

Lucky Air (8L)                              3.7%

China Southern Airlines (CZ)          3.4%

Urumqi Air (UQ)                           3.4%

Thai Lion Air (SL)                         3.0%

Others                                      14.5%

ทั้งนี้ เมื่อเจาะลึกถึงดีเทลของแพ็กเกจท่องเที่ยวจะพบว่า แพ็กเกจทัวร์ที่ได้รับการโปรโมตมากที่สุดอยู่ในช่วงราคาตั้งแต่ 16,000 - 20,000 บาท และ 26,000 - 30,000 บาท โดยถ้าเป็นแพ็กเกจทัวร์ช่วงราคา 16,000 - 20,000 บาท ส่วนใหญ่จะเป็นทริปเดินทาง 4 วัน 3 คืน หรือ 5 วัน 4 คืน เดินทางด้วยสายการบิน ไทย เวียตเจ็ท (Thai Vietjet) และ พักในโรงแรมระดับ 4 ดาว ส่วนแพ็กเกจทัวร์ที่มีช่วงราคาเสนอขายระหว่าง 26,000 - 30,000 บาท ส่วนใหญ่ออกทริป 5 วัน 4 คืน หรือ 6 วัน 5 คืน เดินทางโดยสายการบินแอร์ ไชนา (Air China) และ พักในโรงแรมระดับ 4 ดาว เช่นเดียวกัน

ลงร้าน” VS “ไม่ลงร้านจุดต่างราคาทัวร์

การ “ลงร้านคือการพาลูกทัวร์ชอปปิงซื้อสินค้าจากร้านค้าที่เป็นพันธมิตรกับบริษัททัวร์ ซึ่งสังเกตได้จาก ถ้าโปรแกรมท่องเที่ยวมีการระบุพาไปเที่ยวชมศูนย์ผลิตภัณฑ์สินค้าไฮไลท์ประจำเมือง มักเรียก การลงร้าน ไม่ลงร้าน คือ ทัวร์ที่เน้นพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่พาเข้าร้านขายสินค้า ซึ่งหากนักท่องเที่ยวเลือกแพ็กเกจแบบทัวร์ลงร้าน ก็จะทำให้ได้ราคาทัวร์ที่มีราคาไม่สูงมากนัก แต่ถ้าต้องการซึมซับประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ก็อาจต้องเลือกแพ็กเกจทัวร์ที่มีราคาสูงขึ้น โดยจากข้อมูล พบว่าค่าเฉลี่ยแพ็กเกจราคาทัวร์ที่ลงร้านจะอยู่ที่ 16,673 บาท ซึ่งต่ำกว่าแพ็กเกจที่ไม่ลงร้านที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 28,658 บาท

ดังนั้น หากนักท่องเที่ยวอยากได้รับประสบการณ์ที่ตรงใจมากขึ้น การอ่านรายละเอียดและโปรแกรมทัวร์จะสามารถช่วยตัดสินใจได้ดีขึ้น

ข้อมูลทั้งหมดที่นำมาวิเคราะห์หา Insight รวบรวมผ่าน DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด (dataxet:infoquest) โดยเก็บข้อมูลระหว่าง 1 .. – 20 .. 67

จากการลงนามความตกลงยกเว้นการลงตราซึ่งกันและกัน สำหรับนักท่องเที่ยวไทยและจีน หรือวีซ่าฟรี (Visa Free) ไทย-จีน อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 .. 67 ซึ่งความตกลงดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.. 67 เป็นต้นไปนั้น พบว่าเป็นการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เห็นได้จากนักท่องเที่ยวจาก 2 ประเทศต่างค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มขึ้นกว่าปกติ แต่ในบทความชิ้นนี้ผู้เขียนขอหยิบยกเฉพาะประเด็นความสนใจของนักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการไปเที่ยวจีนมากล่าวถึงเท่านั้น