gadget / ไอทีUpdate Newsธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ทีแอนด์บีฯ เปิดตัวยิ่งใหญ่!! อนันตจักรวาล ทรานส์ลูเซีย ประกาศตัวเป็นศูนย์รวมแห่งเหล่าจักรวาล “เมตาเวิร์ส” แห่งความสุขที่แรกของโลก!!

14 มีนาคม 2023, กรุงเทพฯ : บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตซีรีส์แอนิเมชั่นและคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงชั้นนำของประเทศไทย จัดงาน “The Universe of Happiness” เปิดตัวโครงการใหญ่ศูนย์รวมแห่งเมตาเวิร์ส ทรานส์ลูเซีย (Translucia) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Infinite Universe of Interconnected Metaverses” ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำหน้าของโลกอย่าง Web3 มาใช้เพื่อพัฒนา ทรานส์ลูเซียให้เป็นแพลตฟอร์มใหญ่รองรับเมตาเวิร์สจำนวนมหาศาลให้เข้ามาอยู่ร่วมกันและสามารถเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมดได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมนำพาธุรกิจบันเทิงของ ทีแอนด์บีฯ เข้าสู่ธุรกิจโลกเสมือนอย่างเต็มตัวในยุคเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านธุรกิจบันเทิงระดับโลก


ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ หรือ ดร.แตน ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) และผู้ก่อตั้ง ทรานส์ลูเซีย กล่าวว่า “ทรานส์ลูเซีย กำลังถูกพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มที่ไร้รอยต่อและเชื่อมถึงกันได้ระหว่างโลกเสมือนและโลกจริง ซึ่งจะปลอดภัยสำหรับการสร้างโอกาสในการทำธุรกิจที่ไม่มีที่สิ้นสุดบนโลกอินเทอร์เน็ต” 
การพัฒนาทรานส์ลูเซียจะเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับโปรเจ็กต์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ของทีแอนด์บี 

ซึ่งจะช่วยขยายมูลค่าตลอดชีพของ IP ของทีแอนด์บี ในขณะที่เป็นการสร้างแพลตฟอร์มซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับเรื่องราวที่พวกเขาชื่นชอบได้ และยังคงช่วยสร้างโลกที่พวกเราเฝ้าฝันถึง คืออาณาจักรเมตาเวิร์ส ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ อนันตจักรวาลแห่งความสุข หรือ “Infinite Universe of Interconnected Metaverses” ซึ่งหมายถึงแพลตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลกมาผสมผสานกันให้สามารถรองรับเมตาเวิร์สหลาย ๆ แห่งเข้ามาอยู่ร่วมกันและเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไร้รอยต่อในอนันตจักรวาล ทรานส์ลูเซียแห่งนี้ 


“คอนเซ็ปต์นี้เกิดจากการที่เราต้องการจะรวบรวมจักรวาลเมตาเวิร์สหลาย ๆ จักรวาลเข้าด้วยกัน โดยเมตาเวิร์สเหล่านี้ต้องมีเป้าหมายและวิธีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับเรานั่นคือการทำความดี เพื่อให้โลกเมตาเวิร์สของเราเป็นโลกที่ขับเคลื่อนด้วยกิจกรรมที่มีเป้าหมายสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในทุก ๆ มิติ รวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ เมื่อหลาย ๆ เมตาเวิร์สที่มีเป้าหมายเหมือนกันมาทำงานร่วมกัน เราก็จะสามารถสร้างโลกแห่งความสุข สร้างคุณภาพสังคมที่ดี และกระตุ้นโลกจริงให้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและมาร่วมกันทำความดีไปด้วยกัน” ดร.ชวัลวัฒน์ กล่าว


“ไม่เพียงแค่นั้น ความพิเศษของทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์สนี้ คือเราจะพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่นำโลกเสมือนและโลกจริงเชื่อมเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อผ่านการมอบประสบการณ์ที่หลากหลาย เราจะทำให้สถานที่นี้จะเป็นที่ ๆ ปลอดภัยสำหรับทุกคน รวมถึงจะเป็นสถานที่ที่จะสร้างโอกาสที่ไม่สิ้นสุดให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสังคม องค์กรต่าง ๆ ภาคธุรกิจ และบุคคลทั่วไป”
ซึ่งการพัฒนาโครงการทรานส์ลูเซียนี้ จะเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ ทีแอนด์บี ที่จะได้นำผลงานบันเทิงชั้นนำต่าง ๆ ที่ทางบริษัทเป็นผู้ผลิต รวมถึงงานลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหลายเข้ามาต่อยอดให้ใช้งานเชื่อมโยงได้ทั้งสองโลกอย่างเป็นรูปธรรม 


เมื่อเร็วๆ นี้ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นพันธมิตรรายแรกของ ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส ก็ได้เปิดตัวโครงการ MQDC Idyllias (ไอดิลเลียส์) ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง MQDC Idyllias จะเป็นโลกเมตาเวิร์สแห่งแรกที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ อนันตจักรวาล ทรานส์ลูเซีย มาช่วยสร้างสรรค์โลกใบใหม่ โลกแห่งอนาคต ที่ ๆ โลกแห่งความจริงและโลกเสมือนจะได้เชื่อมผสานกันเป็นหนึ่งเดียว 


นายภาคภูมิ ตันตนันตา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจและการลงทุนของทีแอนด์บี จะมุ่งไปที่สามธุรกิจหลัก ได้แก่ การลงทุนในคอนเทนต์ (ซีรีส์แอนิเมชั่นและภาพยนตร์) ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง การลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อทำให้การเข้าถึงคอนเทนต์ของผู้ชมมีประสิทธิภาพและได้รับประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น และส่วนสุดท้าย คือ การลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนา ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส


ทั้งนี้ ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2559 เป็นที่รู้จักในผลงานสร้างสรรค์โดยบริษัทในเครือ บริษัท เชลล์ฮัท เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เรื่อง เชลล์ดอน (Shelldon) ซีรี่ส์แอนิเมชั่นทางโทรทัศน์ไทยเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ออกอากาศทางช่อง NBC ในสหรัฐอเมริกา และออกอากาศไปแล้วกว่า 180 ประเทศทั่วโลก รวมถึงได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 35 ภาษา

“การเข้ามาสู่โลกเทคโนโลยีและลงทุนครั้งใหญ่สร้างศูนย์รวมแห่งเมตาเวิร์สนี้ เป็นอีกวิวัฒนาการครั้งสำคัญของ ที แอนด์บี จากที่ผ่านมา เรามองว่า Digital interruption หรือโลกของดิจิทัล เป็นความท้าทายที่สำคัญของธุรกิจบันเทิง ธุรกิจพัฒนาคอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงแรก ทีแอนด์บี เริ่มต้นจากการลงทุนทำธุรกิจจากการผลิตคอนเทนต์ หลังจากนั้นเราพบว่าเรามีโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของเราได้อีกหลายทาง 

ทั้งจากการปั้นศิลปินอย่าง Last Idol, การสร้างระบบ AI ที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพยนตร์ รวมทั้งนำกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยระบบ Cinelytic มาใช้ เรามีบริษัทต่าง ๆ ในเครือ ตั้งแต่ผลิตคอนเทนต์ อย่าง ภาพยนตร์, ซีรีส์, ซีรีส์แอนิเมชั่น เรามีธุรกิจ talent management, บริษัทจัดอีเว้นท์, streaming platform เราเป็นบริษัทเอ็นเตอร์เทนต์เมนต์ 360 องศา ที่มุ่งมั่นพัฒนาการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภค และเมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ จะเป็นการนำผลงานทั้งหลายจากธุรกิจที่ทำอยู่มาต่อยอดและช่วยให้โลกเสมือนและโลกจริงเชื่อมต่อกันได้อย่างแท้จริง” นายภาคภูมิ กล่าว


ด้าน นายอธิศ นันทวรุณ กรรมการบริหาร ทรานส์ลูเซีย กล่าวว่า “ปัจจุบันนี้หลาย ๆ คนอาจจะมีความรู้สึกว่า เมตาเวิร์ส เป็นเรื่องที่ไกลตัว หรือเป็นเรื่องที่คนจะให้ความสนใจแค่เฉพาะกลุ่ม หรือเป็นแค่เกมส์หรือไม่ มันจะมีคุณค่าหรือมีประโยชน์ให้กับชีวิตประจำวันของพวกเราได้อย่างไร คำถามเหล่านี้คงจะถูกตั้งขึ้นมา ถ้าพวกเรามองว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์ม แต่ ทรานส์ลูเซีย คือการพัฒนาแนวคิดเชิงปรัชญาที่ต้องการให้ผู้คนได้ค้นพบคุณค่าชีวิตผ่านสิ่งที่เรียกว่า ความสุข” 


นายอธิศ เสริมว่า “เมตาเวิร์ส เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่หลากหลายเข้าด้วยกัน และด้วยแนวคิดการพัฒนาของทรานส์ลูเซีย ที่สามารถเชื่อมต่อเมตาเวิร์ส ต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เราได้มีการทำงานในการหาแนวทางการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น Impact District จาก ประเทศไซปรัส ผู้พัฒนา Metaverse มุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนการสร้าง impact 

ในการเปลี่ยนแปลงโลก และ Band Protocol ที่เป็นผู้นำด้านการบริการ cross-chain data oracle (การนำข้อมูลจากเชนหนึ่งข้ามไปยังอีกเชนหนึ่งโดย Oracle) รวมถึง Tonomus ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และ Animoca Brands บริษัทระดับโลกผู้พัฒนาเกมส์และทรัพย์สินดิจิทัลด้านบล็อกเชน และเมตาเวิร์ส ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีที่จะช่วยผลักดันการสร้าง Use case และ Ecosystem ใหม่ ๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทรานส์ลูเซียคือเครื่องมือที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกของเรา 

สิ่งนี้ไม่ได้หมายถึงการที่เราจะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ แต่มันมีการสร้างแรงบันดาลใจพร้อมกับมอบพลังให้กับคนหนึ่งคนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และต่อขยายไปอีกคน และต่อขยายไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สิ้นสุด จนกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนต่อไป 


เราดีใจและมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ที่มีทั้งวิสัยทัศน์และความเชี่ยวชาญในด้าน Web3 อาทิ Tonomus ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก, Animoca Brands ผู้พัฒนาและนักลงทุนระดับโลกใน Web3, Impact District ผู้พัฒนา Metaverse จากประเทศไซปรัส และ Band Protocol ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านบริการเกี่ยวกับ Oracle data แบบ Cross-chain”




 

 
นายพันธบัตร สันติมากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ ทรานส์ลูเซีย กล่าวเสริมว่า จากการใช้แนวคิดเชิงปรัชญาที่ต้องการให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตในสังคมที่ดี มีความสุข และมีความมั่งคั่งนั้นเป็นแนวคิดหลักในการพัฒนา ทำให้ทรานส์ลูเซีย ถูกพัฒนาขึ้นให้เน้นการส่งมอบคุณค่าหลัก 3 ประการแก่ผู้ใช้ โดยคุณค่าสำคัญที่ต้องการส่งมอบให้แก่ทุก ๆ คนนี้จะเป็นแกนหลักที่ช่วยขับเคลื่อนทิศทางการพัฒนาในเชิงกลยุทธ์ของทรานส์ลูเซีย 


ประการแรก ทรานส์ลูเซีย ได้รับการออกแบบมาให้สร้างผลลัพธ์ในเชิงบวก โดยมุ่งเน้นและส่งเสริมผลักดันให้เกิดการทำความดี ผสมผสานไปกับการออกแบบระบบเศรษฐกิจทั้ง economic design และ Tokenomic design ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ผลงาน หรือสร้างธุรกิจเพื่อรองรับเทรนด์ต่าง ๆ ในอนาคต รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่ให้เกิดการพัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม และตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับลูกหลาน ผู้คนในเจนเนอเรชั่นต่อไปที่จะเข้ามาเรียนรู้ในจักรวาลแห่งใหม่นี้ 


ประการที่สอง คือเรื่องระบบเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ความปลอดภัยและรองรับประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อด้วย ได้แก่ Artificial Intelligent หรือ AI พร้อมทั้งสร้างระบบ ecosystem ที่ใช้บล็อกเชนเทคโนโลยีแบบ Ethereum Layer 2 ที่มีชื่อว่า Lightlink เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมานี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับระบบด้วยต้นทุนที่ต่ำ ทำให้เรื่องของความปลอดภัยในด้านข้อมูลของ user และการรองรับด้านความปลอดภัยในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบใหม่ ๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมในโลก Web 3 ได้อย่างสมบูรณ์ 


และประการสุดท้าย คือการเชื่อมประสบการณ์ของทั้งโลกจริง และโลกเสมือนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถขยายการสร้างแบรนด์ และการเข้าถึงการสร้างรายได้ทั้งสองโลก ด้วยการวางแผนในการสร้างโลกด้วยเทคโนโลยี Digital Twin ร่วมกับโลกแห่งจินตนาการที่จะสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองโลกได้อย่างไร้รอยต่อ



คุณจิรญา ทองเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาดและงานขาย บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การทำการตลาดในส่วนคอนเทนต์บันเทิงของ ทีแอนด์บี จะคงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ ซึ่งปีนี้เราได้ลงทุนผลิต ซีรีส์แอนิเมชั่น และภาพยนตร์ ที่กำลังจะทยอยออกสู่สายตาแฟน ๆ 

ได้แก่ Legend of The Two Heroes, Out of The Nest, FriendZspace, Panda series เป็นโปรเจกต์ที่ร่วมทุนกับ CCTV ซึ่งเป็นช่องรายการระดับนานาชาติของประเทศจีน, The Meeps เราได้จับมือกับ ไซมอน ฟูลเลอร์ ร่วมทุนสร้าง Music Video ที่เพิ่งปล่อยออกไป และได้รับความสนใจอย่างมากมียอดรับชมมากกว่า 40 ล้านครั้งภายในหนึ่งเดือน และภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างไทย-จีน เรื่อง Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป (นำแสดงโดย ชานน สันตินธรกุล, โจ๊ก โซคูล – กรภพ จันทร์เจริญ และนักแสดงชาวจีน ปีเตอร์ เซิ่งอี้หลุน ฯลฯ) 

ซึ่งมีคิวเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2566 นี้ นอกจากนี้ ทีแอนด์บี ได้มีการนำเข้าภาพยนตร์จากต่างประเทศมาฉายให้แฟนภาพยนตร์ได้รับชมกันไปแล้ว อาทิ Vanguard, Ne Zha (นาจา), เฮย ภูตแมวมหัศจรรย์, The Misfits, Josee, The Tiger and The Fish, Tokyo Revengers, Dog, Book of Love, Fireheart, Notre Dame on Fire และ Moon Man