MDPC เปิดทำเลทองคอนโดฯ เพื่อการอยู่อาศัยและลงทุนยุค New Normal ชี้ “ทองหล่อ-เอกมัย” ขึ้นแท่นทำเลศักยภาพน่าจับตามอง หลังโควิด-19 เอื้อผู้ซื้อได้สินค้าราคาคุ้มค่ากว่าช่วงปกติ ขณะที่ปัจจัยหนุนเอื้อการเติบโตของราคาในอนาคตยังเพียบ แนะผู้ซื้อดูหลากองค์ประกอบนอกเหนือจากราคาก่อนตัดสินใจซื้อ
นายธนา ต่อสหะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC Expertise Meets Excellence ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในเครือบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลโดยตรงต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการฟื้นตัวของราคาคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง แต่สำหรับคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ขึ้นไป ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์มากนัก เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคใน เซ็กเมนท์ดังกล่าวยังมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่ง โดยทำเลที่ยังคงมีความน่าสนใจสำหรับผู้บริโภคทั้งกลุ่มเพื่อการอยู่อาศัยเองและเพื่อการลงทุน ยังคงเป็นทำเลที่มีความแข็งแกร่งดั้งเดิมเป็นต้นทุนอย่างทองหล่อ-เอกมัย
ที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ-เอกมัย มีราคาปรับตัวขึ้นทุกปี ทั้งยังปรับตัวในอัตราที่สูงกว่าย่านอื่นๆ ของกรุงเทพฯ หากสถานการณ์เศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติและเริ่มมีการเปิดประเทศ เชื่อว่าการปรับขึ้นของราคาคอนโดในย่านทองหล่อ-เอกมัยจะกลับมาปรับขึ้นในอัตราสูงมากกว่าเดิมอีกครั้ง ขณะนี้จึงเป็นจังหวะที่ผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้อจะได้ซื้อสินค้าในราคาที่คุ้มค่ากว่าปกติ และมีโอกาสที่สินทรัพย์จะกลับมามีราคาเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“ภาพรวมตลาดขณะนี้ ดีเวลลอปเปอร์ ต่างเร่งขายโครงการพร้อมอยู่ด้วยการอัดฉีดราคาพิเศษ โปรโมชั่นที่ดี กระตุ้นยอดขาย เพื่อตุนเงินสดสำหรับซื้อที่ดินแปลงใหม่ไว้พัฒนาในช่วงปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 ขณะเดียวกัน หากคนไทยได้รับวัคซีนต้านไวรัสมากเพียงพอ จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้โอกาสในการเปิดประเทศ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีโอกาสกลับมาได้เร็วขึ้น ทองหล่อ-เอกมัยซึ่งเป็นย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ที่ทำเลไหนก็ทดแทนไม่ได้ จะได้อานิสงส์จากทั้ง 2 ปัจจัยดังกล่าวและราคากลับมาร้อนแรงอย่างมากอีกครั้ง” นายธนา กล่าว
อย่างไรก็ดี แม้ผู้พัฒนาโครงการจำนวนหนึ่งจะใช้กลยุทธ์การแข่งขันด้านราคา เพื่อเร่งช่วงชิงกำลังซื้อที่ยังมีศักยภาพ ตอบสนองสถานการณ์ที่ตลาดค่อนข้างเป็นตลาดของผู้บริโภค แต่อสังหาริมทรัพย์นับเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง การพิจารณาเลือกซื้อจึงไม่ควรดูที่เรื่องราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ร่วมด้วย โดยสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรกคือ ทำเลที่ตั้งโครงการต้องอยู่ในพื้นที่ศักยภาพ มีคุณภาพงานก่อสร้าง การออกแบบ วัสดุที่ใช้ในโครงการ เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ดีและได้มาตรฐาน ความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้พัฒนาโครงการ ตลอดจนงานบริการหลังการขายที่ต้องบริหารงานโดยมืออาชีพ
นายธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ทำเล “ทองหล่อ-เอกมัย” เป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นทำเลที่มีหลายปัจจัยเอื้อต่อการเติบโตในอนาคต อาทิ เป็นทำเลตลาดเช่าขนาดใหญ่ของชาวต่างชาติ อีกทั้งธุรกิจในพื้นที่ยังตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ปัจจุบัน ทองหล่อ-เอกมัย ถือเป็นย่านที่มีสินค้าคอนโดมิเนียมหลากหลายสไตล์การตกแต่ง และมีฟังก์ชั่นที่พร้อมสำหรับการอยู่อาศัยในยุค New Normal เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับไฮเอนด์และลักชัวรี่ขึ้นไป จึงมีการใส่ฟังก์ชั่นที่ล้ำสมัยและ มีขนาดห้องที่กว้างขวางกว่าห้องในเซ็กเมนท์อื่นๆ พัฒนาโดยผู้พัฒนาโครงการชั้นนำทั้งของไทยและต่างประเทศ มีโครงการที่น่าสนใจหลายโครงการ
ซึ่ง MDPC ในส่วนงาน Sole Agent ได้บริหารโครงการอยู่ในย่านนี้จำนวน 2 โครงการที่เป็นโครงการพร้อมอยู่ คือ โครงการ High-Rise อย่าง The FINE Bangkok Thonglor-Ekamai ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 180,000 บาทต่อ ตร.ม. และโครงการ Low- Rise อย่าง Bless Residence Ekkamai ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 110,000 บาทต่อ ตร.ม. ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยในย่านทองหล่อ-เอกมัย อยู่ที่ 150,000 – 250,000 บาทต่อ ตร.ม.
ซึ่งยังสามารถทำผลงานการขายและโอนได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในขณะนี้ อาจมีผลกับยอดขายของโครงการอยู่บ้าง แต่ด้วยความแข็งแรงและศักยภาพของทำเลทองหล่อ-เอกมัย ทำให้ยังสามารถรักษาระดับยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
Post Views: 33