นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว
นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมหน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 นอกโรงพยาบาลแห่งแรกของ กทม. รองรับกลุ่มบุคลากรด่านหน้าและอาชีพเสี่ยง ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร ตั้งเป้าฉีดวันละ 1,000 คน วันนี้ (12 พฤษภาคม 2564) ที่บริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อม การจัดสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะร่วมให้การต้อนรับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในวันนี้นายกรัฐมนตรีมาตรวจเยี่ยมความพร้อมในการให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ตามแผนการขยายหน่วยบริการ โดยสนับสนุนให้องค์กร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดบริการฉีดวัคซีนเช่น ในห้างสรรพสินค้า ในชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึง
ซึ่งในวันนี้กรุงเทพมหานครร่วมกับสภาหอการค้าไทย โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการครั้งแรก แก่บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อาสาสมัคร และกลุ่มอาชีพเสี่ยง ใช้พื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ให้บริการฉีดวัคซีนได้ 1,000 คน /วัน เป็นไปตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้จัดหาวัคซีนและฉีดให้กับผู้อาศัยอยู่ในประเทศทุกคนอย่างรวดเร็วและครอบคลุม เน้นฉีดในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งภาครัฐและเอกชน และกลุ่มผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่บุคลากรด่านหน้า รวมทั้งในพื้นที่ระบาด รวมถึงเตรียมความพร้อมเมื่อมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมากในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ “ขอขอบคุณความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมกระจายวัคซีน สู่ประชาชนได้รวดเร็วและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น การบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลในวันนี้พบว่ามีความพร้อมให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ มีความปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก” นายอนุทิน กล่าว สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลของเอกชนแห่งแรก ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีระบบที่เป็นไปตามมาตรฐาน อาทิ จุดลงทะเบียน จุดวัดน้ำหนักส่วนสูง จุดวัดความดัน จุดฉีดวัคซีน และจุดพักสังเกตอาการหลังการฉีด กลุ่มเป้าหมายแรกของการให้บริการจะเป็นกลุ่มบุคลากรด่านหน้าและกลุ่มที่มีอาชีพเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจำนวนมากซึ่งได้ลงทะเบียนแล้ว เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. และเตรียมเปิดหน่วยบริการในพื้นที่กทม. ให้ครบ 25 แห่ง ต่อเนื่อง 7 เดือน แต่ละแห่งจะมีศักยภาพให้บริการฉีดที่ 1,000-3,000 คน /วัน รวมสามารถให้บริการได้ 38,000-50,000คน/วัน