Update Newsสาธารณสุข

บุหรี่ไฟฟ้านิโคตินมากกว่าบุหรี่มวน 180 เท่า หมอแนะอย่าลองจะทำให้ติดทั้งสองอย่าง

หมอระบุธุรกิจยาสูบพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสูบไฮบริด หากำไรบนความเสี่ยงด้านสุขภาพ ย้ำบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายกว่าบุหรี่มวน มีนิโคตินมากกว่า 180 เท่า ไม่ควรใช้เพื่อเลิกบุหรี่เพราะจะทำให้ติดทั้งสองอย่าง

ปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้ากำลังแพร่ระบาด ด้วยมีความเชื่อว่ามีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่มวนและเป็นหนทางหนึ่งในการเลิกบุหรี่ แต่ในงาน การประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 13 – 16 มีนาคม 2561 ณ อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี ในวงสนทนาหัวข้อ Change 4 Health: “เปลี่ยน” ด้วยคุณภาพ เพื่อสุขภาพ เปี่ยมคุณธรรม รศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์ ได้ชี้แจงว่าความเชื่อข้างต้นเป็นเรื่องที่ผิด

รศ.นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ยาสูบมีพัฒนาการไปไกลมากเพื่อหาผลกำไรบนความสุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพของผู้ใช้ โดยสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์ยาสูบออกเป็น 3 กลุ่มคือ หนึ่ง-บุหรี่ก้นกรอง สอง-บุหรี่ไฟฟ้า และสาม-บุหรี่ไฮบริด

“ยาสูบประเภทนี้มีศัพท์เฉพาะว่า Heat not Burn Device” รศ.นพ.สุทัศน์ ขยายความ “บุหรี่แบบเดิมใช้ไฟแช็คจุดที่ปลายมวน บุหรี่ไฟฟ้าไม่ต้องพกไฟแช็ค แค่ชาร์จไฟ แล้วเกิดความร้อนไประเหิดน้ำยาที่อยู่ในอุปกรณ์ออกมาเป็นไอ แต่แบบไฮบริดหมายความว่าสามารถใช้บุหรี่แบบมวนได้ แต่ไม่ต้องซื้อไฟแช็ค แค่ซื้ออุปกรณ์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Heat not Burn Device แล้วเสียบปลั๊กชาร์จอุปกรณ์ แล้วเอามวนบุหรี่ธรรมดาเสียบเข้าไปในฐานของอุปกรณ์นี้ กดสวิชต์ สิ่งที่อุปรกรณ์ทำคือจะใช้ความร้อนประมาณ 350 องศาเซลเซียสให้ความร้อนไปที่มวนบุหรี่จนเกิดไอแบบบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่จุดไฟเผา ปกติถ้าจุดไฟจะเกิดความร้อนประมาณ 800 องศาเซลเซียสที่ปลายมวน แล้วดูดเอาควันที่มีความร้อนสูงเข้าไป

“แต่ Heat not Burn Device จะเหลือแค่ 350 องศาเซลเซียส แล้วสูดเอาสารระเหยในใบยาสูบเข้าไปในปอด ได้ทุกอย่างครึ่งๆ กลางๆ ระหว่างการสูบบุหรี่และการใช้บุหรี่ไฟฟ้า จึงเรียกว่าไฮบริด มวนจะหดสั้นลงเรื่อยๆ มีขี้เถ้านิดหน่อยในอุปกรณ์ ดึงทิ้ง แล้วเอามวนใหม่มาจุด นี่คือลูกครึ่ง”

ย้อนกลับมาที่ประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า รศ.นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ปลอดภัยดังที่ผู้ผลิตพยายามป้อนข้อมูลด้านเดียว โดยยกตัวอย่างว่าในบุหรี่มวนมีปริมาณนิโคติน 1 มิลลิกรัม แต่น้ำยาที่ใช้เติมบุหรี่ไฟฟ้า 1 ซีซี มีปริมาณนิโคตินสูงถึง 180 มิลลิกรัม สูงกว่าบุหรี่มวนถึง 180 เท่า เขาจึงตั้งคำถามว่า

“เมื่อเป็นแบบนี้ การใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วจะสามารถเลิกบุหรี่ได้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่านิโคตินเป็นสารที่ก่อให้เกิดการเสพติดสูงสุดมากกว่าเฮโรอิน ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่โดยหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้ามักลงเอยเป็น Dual User คือสูบทั้งสองอย่างและเลิกไม่ได้เลยสักอย่าง”

สอดคล้องกับธามัน เต้พันธ์ อดีตสมาชิกวงดราก้อน ไฟว์ ที่เล่าประสบการณ์ใกล้ตัวว่า เพื่อนของตนที่หวังจะเลิกบุหรี่ด้วยการหันไปใช้บุหรี่ไฟฟ้า ปัจจุบัน 28 คนจาก 30 คนติดทั้งสองอย่าง

“ผมว่าบุหรี่ไฟฟ้าน่ากลัว มันเริ่มจากการตลาด บอกว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย ที่เห็นอยู่คือไอน้ำ ทั้งที่หน่วยงานทางการแพทย์ก็บอกแล้วว่า อะไรที่เผาแล้วมีควันก็มีพิษหมด สองคือมีกลิ่น มีการเติมสาร บางทีอาจมีการใส่แอมเฟตามีนลงไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกหวือหวาในการสูบมากยิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ธามันกล่าวด้วยความเข้าใจวัยรุ่นว่า การจะห้ามวัยรุ่นไม่ให้สูบบุหรี่ในยุคนี้ ซึ่งมีความคิดเป็นของตัวเองและชอบทดลองสิ่งใหม่ถือเป็นเรื่องยาก เขาเห็นว่าการที่วัยรุ่นชอบทดลองไม่ใช่เรื่องผิด สิ่งที่สังคมควรทำคือการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ขณะที่ผู้ใหญ่จะต้องเข้าหาเยาวชนเพื่อทำความเข้าใจและไม่ตีตรา เพื่อดึงเยาวชนเหล่านี้กลับมา

ด้านศรสุทธา กลั่นมาลี หรือถั่วแระ เชิญยิ้ม ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของตนว่า“ในอดีตผมเคยสูบบุหรี่ ตอนนี้เลิกมาแล้ว 30 ปี ตอนที่เล่นตลก เป็นบรรยากาศที่ไม่มีใครไม่สูบบุหรี่ สาเหตุที่ติดเพราะเพื่อนฝูงเยอะ ขึ้นรถก็สูบ ก่อนขึ้นเวทีก็สูบ เราอยู่ในสังคมแบบนี้ เราจึงเลิกบุหรี่ได้ยากมาก ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเราจะติดบุหรี่ แต่มันมีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ทำให้ผมต้องเลิกบุหรี่ ผมเห็นคนอื่นสูบตลอดเวลา ผมถามตัวเองว่าตื่นขึ้นมาเราสูบหรือเปล่า ไม่สูบ กินข้าวเสร็จก็ไม่ต้องสูบ ไปเจอผู้หลักผู้ใหญ่เราก็ไม่กล้าสูบ นี่แสดงว่าเราติดหรือเปล่า เราถามตัวเอง เราก็ไม่ติด ถ้าไม่ติด แล้วทำไมเราไม่เลิก”

ช่วงนั้นธุรกิจคาเฟ่เริ่มซบเซาทำให้ศรสุทธาเริ่มห่างจากกลุ่มเพื่อนฝูง เขาจึงสามารถเลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น จากประสบการณ์ทำให้เขาเรียนรู้ว่า สิ่งแวดล้อมมีผลต่อการสูบหรือเลิกสูบบุหรี่ แต่เขาก็เชื่อว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ

“คนที่เลิกบุหรี่จะมีอาการหงุดหงิด น้ำหนักขึ้นหรือไม่ มันอยู่ที่ใจ ถ้าใจอยากเลิก ผมไม่เชื่อว่าอดบุหรี่แล้วจะต้องกินของหวานเพิ่มขึ้น ต้องหาอะไรมาทดแทนบุหรี่ เพราะตัวผมเอง พอตัดแล้วตัดเลย น้ำหนักก็ไม่เพิ่ม แล้วถ้าใครอยากเลิกผมแนะนำให้ไปออกกำลังกาย”