Update Newsสังคม

พม.จัดประชุม 21st ASCC Council ปลื้มได้รับการตอบรับดี บรรลุผลตามที่ตั้งเป้าไว้

           เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2562  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 21 (21st ASCC Council)  ซึ่งเป็นการประชุมลำดับสุดท้ายของการประชุมอาเซียนที่จัดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 – 18 พฤษภาคม 2562 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกระทรวง พม. เป็นเจ้าภาพ ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของประเทศไทย โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ในฐานะหัวหน้าคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ในฐานะประธานคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (Chair of SOCA) และนางสาวอุษณี กังวารจิตต์ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) รวมทั้ง คณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน คณะเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน รองเลขาธิการอาเซียนสำหรับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน คณะผู้แทน และผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียน จำนวนกว่า 60 คน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องลานนาบอลรูม 2-3 โรงแรมแชงกรี – ลา จังหวัดเชียงใหม่

            นายวีระ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ปี 2562 นับเป็นปีแห่งโอกาสอันดี ที่ประเทศไทยได้รับตำแหน่งประธานอาเซียน ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter) เรื่อง การกำหนดให้การเป็นประธานอาเซียนหมุนเวียนทุกปีตามลำดับอักษรชื่อภาษาอังกฤษของรัฐสมาชิก ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศแนวคิดหลักการเป็นประธานอาเซียน คือ “Advancing Partnership for Sustainability” หรือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” อีกทั้งได้ประกาศให้การเป็นประธานอาเซียนของประเทศในปี 2562 เป็นวาระแห่งชาติอีกด้วย

            สำหรับการจัดประชุมอาเซียนครั้งนี้ เป็นการประชุมที่สำคัญของประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC) ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของประเทศไทยในปี 2562 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อพิจารณาและให้การเห็นชอบต่อแผนงานและเอกสารผลลัพธ์สำคัญภายใต้ ASCC ก่อนจะมีการนำเสนอต่อการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34  ซึ่งประกอบด้วยการประชุมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องกัน จำนวน 4 รายการ ดังนี้ 1) การประชุมคณะทำงาน เรื่องวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน ครั้งที่ 2  2)การประชุมประสานงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 14  3) การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 26 และ 4) การประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 21 รวมทั้งการศึกษาดูงานทางวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

            นายวีระ กล่าวต่อว่า การประชุมอาเซียนในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จด้วยดีตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยสามารถสรุปผลการประชุมที่สำคัญ ดังนี้ 1ด้านการจัดการประชุม มีผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย คณะผู้แทนระดับรัฐมนตรี คณะผู้แทนระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส รองเลขาธิการอาเซียนสำหรับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน คณะผู้ติดตามจากประเทศสมาชิกอาเซียน คณะผู้แทนจากหน่วยงานในระดับภูมิภาคและผู้แทนองค์การสหประชาชาติ ผู้แทนหน่วยงานของประเทศไทยที่เกี่ยวข้อง บุคลากรของกระทรวง พม. และผู้มีเกียรติฝ่ายไทย จำนวนทั้งสิ้น กว่า 500 คน

         รมว.วธ.กล่าวอีกว่า ด้านผลลัพธ์การประชุม ประเทศไทยประสบผลสำเร็จในการผลักดันแผนงานหลักประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนในฐานะประธานอาเซียนในปี 2562 (ASCC Priority Areas 2019) และมีกรอบการดำเนินงาน “3/4/14” ดังนี้  “3 แนวทางหลัก” ได้แก่ ความเชื่อมโยงภาคประชาชน (People – to – People Connectivity) และหุ้นส่วนความร่วมมือ (Partnerships) ความยั่งยืน (Sustainability) การเตรียมความพร้อมและวางแผนด้านความมั่นคงของมนุษย์สำหรับอนาคต (Future – Oriented Actions for Human Security) โดยมีตัวอย่างความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม คือ ข้อริเริ่ม “ปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน 2562”  ภายใต้แนวคิด “หลากหลาย สร้างสรรค์ ยั่งยืน”  เพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ผสานจนเป็นอัตลักษณ์ของอาเซียน และนำไปสู่สายตาผู้คนทั่วโลก ด้วยการผนึกกําลังของประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมในเวทีนานาชาติร่วมส่งเสริมให้เห็นถึงความเข้มแข็ง และสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง “4 ศูนย์อาเซียน” ที่จะมีการจัดตั้งหรือปรับปรุงพัฒนา ได้แก่ คลังสิ่งของช่วยเหลือและระบบโลจิสติกส์เพื่อช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินของอาเซียนในประเทศไทย ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม ศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน และศูนย์ฝึกอบรมอาเซียนด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม และ “14 เอกสารผลลัพธ์สำคัญ”

               นายวีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับรองร่างแบบสอบถามและขอบเขตอำนาจหน้าที่ (TOR) ของคณะผู้แทนประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนในการเยือนติมอร์-เลสเต เพื่อศึกษาสำรวจความพร้อมเกี่ยวกับการเข้าเป็นประเทศสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ทั้งนี้ การประชุมต่างๆ ในการประชุมอาเซียน ครั้งนี้ นอกเหนือจะเป็นการดำเนินการตามบทบาททางนิตินัยที่กำหนดไว้ในกฎบัตรอาเซียนที่ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียนต้องปฏิบัติตามแล้ว ยังเป็นโอกาสอันสำคัญยิ่งในการแสดงบทบาทนำทางพฤตินัยในเวทีอาเซียนของประเทศไทย และผลักดันให้ประเทศไทยมีบทบาทนำและเป็นศูนย์กลางของการดำเนินงานสำคัญในด้านต่างๆ ของอาเซียน อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป สำหรับประโยชน์ในภาพรวมในมิติด้านสังคมและวัฒนธรรม  ประเทศไทยและประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ จะได้รับประโยชน์โดยตรงทั้งด้านรายได้และการส่งเสริมการท่องเที่ยว จากการที่ผู้นำประเทศ คณะผู้แทน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวนมาก จากประเทศสมาชิกอาเซียน ได้ร่วมเดินทางเข้ามาประชุมยังประเทศไทย นอกจากการเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเป็นประชาคมอาเซียนผ่านการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ประเทศไทย ยังจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน อาทิ ด้านสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ด้านราชการพลเรือน ด้านการศึกษา ด้านแรงงาน และด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา อันเป็นผลจากการนำเอกสารผลลัพธ์สำคัญ ซึ่งผู้นำอาเซียนให้การรับรองและรับทราบ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนไปสู่การปฏิบัติ

            นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้การสนับสนุนผู้นำเยาวชนอาเซียนที่พบปะผู้นำในคราวที่ประเทศไทยจะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนมิถุนายน 2562 ที่ประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการเปิดโอกาสและเวทีให้ผู้นำเยาวชนได้มีปฏิสัมพันธ์ และเสนอข้อคิดเห็นต่อผู้นำของประเทศอาเซียนอีกด้วย