พม.จัดเชิดชูเกียรติคุณให้กับสตรี ในวันสตรีสากล ปี 62
วันนี้ (8 มี.ค. 2562) เวลา 13.30 น. ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2562 และปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “การเสริมพลังสตรีและเด็กหญิง สู่การพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับสตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรที่มีผลงานดีเด่นที่ดำเนินงานด้านการพัฒนาศักยภาพสตรีและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยมี พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร พม. ให้การต้อนรับ ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้แทนของบุคคลดีเด่นที่เข้ารับการประกาศเกียรติคุณ แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน รวมจำนวน 1,000 คน พลเอก ฉัตรชัย กล่าวว่า ตนรู้สึกชื่นชมและขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2562 ซึ่งผู้ที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณในวันนี้ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนในสังคมหันมาตระหนักถึงการส่งเสริมศักยภาพของสตรี และการสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในเรื่องสตรีและเด็กหญิง จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ “ส่งเสริมและสร้างสังคมเสมอภาค ปราศจากการเลือกปฏิบัติ สตรีมีคุณภาพชีวิตที่ดี มั่นคงปลอดภัย ร่วมสร้างชาตินำสมัย” และได้กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) เพื่อพัฒนาศักยภาพของสตรี และเด็กหญิงให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคม ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค เพื่อให้สตรีมีบทบาทร่วมในการพัฒนาประเทศ และสามารถยกระดับบทบาทสู่เวทีระดับสากล พลเอก ฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ อาทิ ส่งเสริมด้านการศึกษาเด็กและเยาวชนให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้โครงการ “อินเทอร์เน็ตประชารัฐ” ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในเรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น การเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังปัญหาความรุนแรงตามโครงการ “ชมรมริบบิ้นขาว” และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรี เช่น โครงการ startup เป็นการเปิดโอกาสให้สตรีได้มีโอกาสเริ่มธุรกิจและการช่วยเหลือทางด้านการเงิน เป็นต้น ซึ่งจากการส่งเสริมของรัฐบาลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบว่า บทบาทของสตรีในการเป็นผู้บริหาร (จากข้อมูลการสำรวจของ Grant Thornton, 2018) ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้บริหารสตรีประจำปี 2561 ขยับสูงขึ้น ที่ร้อยละ 42 ถือเป็นอันดับ 3 ของโลก (เพิ่มจากปี 2560 ซึ่งร้อยละ 31) เป็นรองจากฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 47) และอินโดนีเซีย (ร้อยละ 43) พลเอก อนันตพร (รมว.พม.) กล่าวว่า "กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ในฐานะหน่วยงานหลักในการพัฒนาศักยภาพสตรี ได้กำหนดจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2562 ขึ้น โดยชูแนวคิด “การเสริมพลังสตรีและเด็กหญิง สู่การพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อหลักในการประชุมของคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (Commission on the Status of Women - CSW) สมัยที่ 63 และเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals –SDGs) เป้าหมายที่ 5 เพื่อบรรลุความเท่าเทียมทางเพศ พัฒนาบทบาทสตรีและเด็กผู้หญิง ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรีที่สำคัญของรัฐบาลในการเสริมพลัง เพิ่มบทบาท และพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่สตรีทุกกลุ่มและทุกระดับ เพื่อส่งเสริมให้สตรีมีความเข้มแข็ง และสามารถพึ่งพาตนเองได้" ด้านนายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดี สค. กล่าวถึงการจัดงานวันสตรีสากลในปีนี้ว่า "สำหรับปีนี้ มีสตรี บุคคล หน่วยงาน และองค์กรที่มีผลงานดีเด่น เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณเนื่องในวันสตรีสากล จาก พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี จำนวน 15 สาขา รวม 45 รางวัล ซึ่งท่านเหล่านี้ได้ผ่านเกณฑ์และกระบวนการคัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่าเป็นบุคคลที่มีผลงานการทำงานเพื่อสังคมและเป็นผู้ที่มีส่วนในการพัฒนาศักยภาพสตรี เครือข่ายซึ่งจะเป็นแบบอย่างในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับสตรี บุคคล และองค์กรอื่นๆ ในการสร้างสรรค์สังคมที่มีความเสมอภาค เป็นธรรม เท่าเทียม และสร้างสังคมไทยให้มีความปรองดอง สมานฉันอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การสัมมนาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อการพัฒนาสถานภาพสตรี มีหัวข้อเสวนาต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้ 1) หัวข้อ “สตรีไทยในสังคมยุคใหม่ : ความท้าทาย” โดย สมาคมติดตามการพัฒนาสตรีในประเทศไทย 2) หัวข้อ “สังคมไทยไร้ความรุนแรงได้จริงหรือ” โดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และ 3) การหัวข้อ “ระบบการคุ้มครองทางสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดย สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยมี นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวง พม. เป็นวิทยากรร่วมแลกเปลี่ยนในหัวข้อนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการเนื่องในวันสตรีสากล ,นิทรรศการบอร์ดวิชาการ หัวข้อ “การดำรงตำแหน่งระดับสูงของผู้หญิง – ผู้ชาย ในสถาบันระดับชาติ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม”, การจัดบูธแสดงผลงานจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว จำนวน 8 ศูนย์ (สังกัด สค.) บูธจากทอฝัน by พม. , บูธสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และบูธจากสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ , กลุ่มอาชีพอิสระสตรีพิการและบูธสมาคมเพื่อความก้าวหน้าอาชีพคนตาบอดแห่งประเทศไทย พม. ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมชื่นชม บุคคล หน่วยงาน และองค์กรดีเด่นที่ได้รับรางวัล เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับคนทำงาน ในการเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนในสังคม และขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายที่สำคัญในการร่วมกันจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2562 ในครั้งนี้"