Update Newsสังคมสังคม/CSR

พส. จัดอบรมยกระดับบุคลากรด้าน Financial Officer Empowerment รุ่นที่ 1

วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ น. นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการ “Financial Officer Empowerment” รุ่นที่ ๑ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชีได้รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดเครือข่ายในการทำงานด้านการเงินและบัญชี ณ ห้องเจริญเมือง ชั้น ๒ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร







นางนภา กล่าวว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเกี่ยวกับการเงิน การคลัง การงบประมาณและการบัญชีของส่วนราชการ ไม่ว่าจะเป็นเงินงบประมาณ หรือเงินนอกงบประมาณ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะต้องถือปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบที่กำหนดในเรื่องนั้นอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การใช้จ่ายเงินราชการเกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อป้องกันมิให้เกิด ความผิดพลาดในการใช้จ่ายเงิน หรือปล่อยให้ผู้ใดอาศัยโอกาสหรือช่องทางกระทำการทุจริต โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในการปฏิบัติงานด้านการเงินนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านจะต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว เช่น วิธีการเบิกเงิน วิธีปฏิบัติในการจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินของส่วนราชการ การนำเงินส่งคลังและฝากคลังจะต้องระบุได้ว่ากระบวนการที่ทำไปนั้น มีระเบียบ มีกฎหมาย หรือข้อบังคับใดรับรอง เพื่อเป็นการทบทวนตัวเองด้วยว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นถูกต้องหรือไม่ สามารถที่จะตอบข้อสงสัยให้แก่ผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีหลักการ

นางนภา กล่าวต่อไปว่า โครงการ “Financial Officer Empowerment” รุ่นที่ ๑ เป็นโครงการที่ยกระดับบุคลากรในด้านการเงิน การบัญชี โดยกิจกรรมประกอบด้วย การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนงานด้านการเงินและบัญชี จากกรมบัญชีกลาง และความรู้ในเรื่องพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชี จากหน่วยงานในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาค จำนวน ๓๐ คน

กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ มุ่งหวังให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่การเงินและบัญชี สามารถปฏิบัติการเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างถูกต้อง ตามกฎ ระเบียบ และข้อบังคับที่กำหนด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เกิดการยอมรับจากสังคม นางนภา กล่าวในตอนท้าย