พาณิชย์ขานรับนโยบายยุทธศาสตร์หุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – จีน ชูธง “ผลไม้” นำร่องสินค้าเกษตร
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11-13 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา กรมในฐานะผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะผู้แทนภาคเอกชน นำโดยหอการค้าเชียงใหม่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และล่าง 1 จันทบุรี ตราด และผู้แทนจากมหาวิทยาลัยเชียงให ม่ สำรวจช่องทางขยายตลาดผลไม้ไทยใน จีนตอนล่าง ตามเส้นทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road)
การเยือนครั้งนี้ มีจุดประสงค์ในการขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าผลไม้ และสำรวจความพร้อมของด่านนำเข้าสินค้าทางบกตามแนวชาย แดนจีน-เวียดนาม ซึ่งกำลังกลายเป็นอีกหนึ่งช่องท างสำคัญในการนำเข้าสินค้าจากอาเ ซียน นอกจากนี้ ยังถือเป็นการสานต่อผลการเยือนเ ขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะ สนับสนุนความร่วมมือด้านผลไม้แล ะโลจิสติกส์ ซึ่งจีนมีความพร้อมในการสนับสนุ นอุตสาหกรรมนี้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเขตปลอดอากรครบวงจร (Integrated Free Trade Zone) ที่มีการจัดระบบโลจิสติกส์อย่าง ดีสอดคล้องต่อเนื่องกัน ด่านนำเข้า ศุลกากร คลังจัดเก็บสินค้า สำนักงานตรวจสอบคุณภาพและกักกัน โรค สำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์ โดยให้บริการในรูปแบบ One Stop Serviceนอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน อาทิ ศูนย์แสดงสินค้า โรงแรม เป็นต้น โดยในวันที่ 11 ธันวาคม 2560 อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศ ได้เข้าร่วมพิธีเปิดงาน China-Vietnam Border Tourism Festival ครั้งที่ 25 ณ ด่านโหย่วอี้กวาน ในเขตโบราณสถานซึ่งมีอายุกว่า 600 ปี ณ อำเภอผิงเสียง เมืองฉงจั่ว เขตกว่างซีจ้วง ซึ่งรัฐบาลอำเภอผิงเสียงจัดขึ้น เป็นประจำทุกปี ร่วมพิธีเปิด China-ASEAN Fruit City ซึ่งเป็นศูนย์รับและกระจายผลไม้ นำเข้าจากอาเซียนอย่างครบวงจร รวมถึงการร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษใ นหัวข้อ “Play the Role Of Southward Channel to Promote the Development of China-Thailand Fruit Trade” ในงานประชุมสุดยอดตลาดผลไม้จีน- อาเซียน ปัจจุบันด่านโหย่วอี้กวาน ณ อำเภอผิงเสียง เป็นด่านสากลที่มีปริมาณการนำเข้ าผลไม้ไทยมากเป็นลำดับต้นๆ ของจีน โดยในปี 2559 จีนนำเข้าผลไม้จากไทยกว่า 5 แสนตัน คิดเป็นปริมาณการนำเข้าผ่านอำเภ อผิงเสียง กว่า 3 หมื่นตัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเ นื่อง โดยการเดินงานเยือนจีนในครั้งนี้ ภาคเอกชนระหว่างไทย – จีน ยังได้มีการลงนาม MOU ด้านผลไม้ระหว่างหอการค้าเชียงใ หม่ และ ASEAN Fruits Import Commerce Chamber ซึ่ง MOU ดังกล่าวจะส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายมี ความมั่นใจในการซื้อ-ขาย รวมถึงสนับสนุนให้เกิดความร่วมมื อระหว่างกันต่อไปในอนาคต นอกจากภารกิจ ณ อำเภอผิงเสียงแล้ว คณะฯ ยังได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมท่าเรื อชินโจว ณ เมืองชินโจวเขตกว่างซีจ้วง พร้อมทั้งหารือกับผู้บริหารท่าเ รือฝ่ายต่างๆ ซึ่งท่าเรือชินโจวนี้จะเป็นอีกท างเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการไทย ในการกระจายสินค้ามายังประเทศจี น เนื่องจากเป็นเขตปลอดภาษีครบวงจ ร เป็นจุดรับและกระจายสินค้า มีหน่วยคัดแยกและตรวจสอบสินค้า คลังจัดเก็บสินค้า รวมทั้งมีศูนย์แสดงสินค้าเช่นกั น ซึ่งอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระห ว่างประเทศได้เชิญชวนให้ผู้แทนจ ากท่าเรือชินโจวเข้าร่วมงาน TILOG-LOGISTIX 2018 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเท ค บางนา เพื่อประชาสัมพัน ธ์ศักยภาพของท่าเรือแห่งนี้ให้แ ก่ภาคเอกชนไทยได้รับทราบอีกด้วย อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศ กล่าวเสริมว่า “ตามยุทธศาสตร์หุ้นส่วนเศรษฐกิจ ที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ได้มอบนโยบายให้กับผู้บริหารกระ ทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะงานเร่งด่วนงานแรกในเดื อน ม.ค. 2561 ที่จะมีการเจรจาในระดับรองนายกรั ฐมนตรีเศรษฐกิจไทย-จีนนั้น กรมได้ให้สำนักงานส่งเสริมการค้ าในต่างประเทศ ที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน ทั้ง 8 แห่ง ระดมสมองเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์กา รค้า ซึ่งจากการเดินทางเยือนนครหนานห นิงในครั้งนี้ จะเห็นได้ชัดว่า จีนได้กำหนดเมืองนี้ให้เป็นเมือ งศูนย์กลางการค้าผลไม้ระหว่างจี นกับอาเซียน ด้วยความพร้อมทางภูมิศาสตร์ที่มี ความเชื่อมโยงกันตามนโยบายหนึ่ง แถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) ของจีน โดยเส้นทางการขนส่งทางบกระหว่าง ไทย เวียดนาม จีน จะเอื้อประโยชน์ต่อภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ ที่ไทยมีความได้เปรียบในด้านคุณ ภาพ รสชาติ และความหลากหลาย เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวจี น นอกจากนี้ จีนยังเพิ่มทางเลือกในการขนส่งท างเรือ คือ ท่าเรือชินโจว โดยผู้ส่งออก ผลไม้ของไทยต้องคำนึงถึง 3 จุดสำคัญ คือ 1) เปรียบเทียบระยะเวลาในการขนส่งกั บบริษัทโลจิสติกส์ 2) การรักษาคุณภาพ ความสดของผลไม้ 3) การผลิตสินค้าที่ปลอดสารพิษ เพราะจีนให้ความเข้มงวดกับสินค้ าที่จะนำเข้าไปขาย ซี่งจากการเดินทางเยือนจีนในครั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยและผู้นำเข้าจาก จีนได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่ างกัน เป็นการเปิดโอกาสให้เราเห็นแนวท างในการต่อยอดพัฒนาสินค้าได้ สำหรับกรมในฐานะผู้แทนภาครัฐ ก็ได้ร่วมเจรจากับผู้แทนของจีนใ นการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ ส่งออกไทย โดยเฉพาะด้านโลจิสติกส์ ซึ่งทางการจีนก็ยินดีให้ความร่ว มมือ กรมเชื่อว่าสินค้าผลไม้จากไทยจะ สามารถส่งออกไปยังจีนผ่านเส้ นทางการค้านี้ได้มากขึ้นในอนาคต ”