Update Newsสังคมสังคม/CSRสาธารณสุข

รพ. กรุงเทพ จัดอบรม CPR การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ SIBA College เสริมทักษะการช่วยชีวิต

โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ จัดการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานสำหรับประชาชน ภายใต้โครงการ “BDMS อบรมการช่วยชีวิต” เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) รณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการช่วยเหลือชีวิตขั้นพื้นฐานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้คนมีความสามารถในการช่วยชีวิตกันได้มากขึ้น โดยมุ่งหวังต่อการเพิ่มอัตราการรอดชีวิต และลดอัตราพิการของผู้ป่วยฉุกเฉิน พร้อมกระตุ้นให้ประชาชนสร้างเครือข่ายอาสาภายในชุมชนของตัวเอง ในการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน และผู้ประสบเหตุก่อนถึงมือแพทย์ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับ SIBA College วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในการฝึกอบรมและฝึกทักษะให้นักศึกษา บุคลากรครู อาจารย์ ได้ปฏิบัติจริง เพื่อรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินในอนาคตได้



 

 

พญ.สมจินตนา เอี่ยมสรรพางค์ ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินโดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นนั้น ทุกวินาทีมีค่าสำหรับผู้ป่วยมากๆ การรับรู้ภาวะฉุกเฉิน การขอความช่วยเหลือ และการช่วยชีวิตทันทีที่พบเหตุโดยประชาชนระหว่างรอบุคลากรการแพทย์นั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้ผู้ป่วยได้ ในปัจจุบันมีหน่วยงานต่าง ๆ ได้ออกมาให้ความรู้แก่ประชาชนมากขึ้น แต่ก็ยังมีผู้ป่วยฉุกเฉินอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และเสียโอกาสที่จะรอดชีวิต




โครงการ “BDMS อบรมการช่วยชีวิต” มีความมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการ สร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย โดยทีมวิทยากรที่มีจิตอาสา และมีประสบการณ์ ในการให้ความรู้เกี่ยวกับการกู้ชีพระดับพื้นฐาน (BLS Instructor) มาบรรยาย และให้ประชาชนได้ฝึกปฏิบัติกับหุ่นในการปั๊มหัวใจ การช่วยคนที่สำลัก การใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น“ขอเพียงเรามีมือสองมือ เราทุกคนก็มีโอกาสช่วยให้คน ๆ นึงรอดชีวิตกลับไปหาคนที่รักได้

 

 

 

ในการอบรมเราจะมุ่งเน้นให้ผู้เข้าอบรมซึ่งไม่ใช่บุคลากรการแพทย์ ไม่มีเครื่องมือพิเศษใด ๆ สามารถที่จะใช้มือสองมือของตนในการช่วยชีวิตผู้อื่นได้ รวมถึงการให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันภาครัฐ และเอกชนได้เริ่มมีการติดตั้งเครื่องไว้ตามที่สาธารณะต่างๆ เช่น สนามบิน รถไฟฟ้า ทำให้ประชาชนไทยมีโอกาสเข้าถึงเครื่องมือช่วยชีวิตได้เร็วขึ้น เช่นเดียวกับในต่างประเทศ


โดยที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลได้ทำการสอนอบรมมาอย่างต่อเนื่อง และเรามีความตั้งใจที่จะทำต่อไปเรื่อย ๆ “เพราะการช่วยชีวิต รอไม่ได้” และคนที่สำคัญที่สุด คือคนที่อยู่กับผู้ป่วย ณ เวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉินนั้น  ประชาชนทุกคนจึงเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยดูแลครอบครัว และชุมชนของตน


พิริยาภรณ์ ธรรมมารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร SIBA วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กล่าวว่า วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ ในพระอุปถัมภ์ฯ  เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนาสมรรถนะของนักศึกษาเต็มศักยภาพ บูรณาการสู่มาตรฐานสากล เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพและหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง โดยทางวิทยาลัยมีความต้องการให้บุคลากรของทางวิทยาลัยที่นอกจากจะเสริมความรู้ ทักษะในการเรียนสายอาชีพ การสร้างรายได้แล้ว เราต้องการส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ ความสามารถในด้านอื่น ๆ 


โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข การปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตเบื้องต้นอย่างถูกต้องและปลอดภัย ครั้งนี้ทางวิทยาลัยจึงได้คัดเลือกบุคลากร อาจารย์ และนักศึกษา เพื่อเข้าร่วมอบรมเสริมทักษะการช่วยชีวิต รวมไปถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ โดยได้ร่วมมือกับ โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่มีความพร้อมทางด้านบุคลากร อุปกรณ์ และ ประสบการณ์ที่สามารถถ่ายทอดให้ความรู้กับทางบุคลากรของทางวิทยาลัยได้


เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำบริการด้านสุขภาพเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีบนวิถีของความยั่งยืน พร้อมส่งคืนคุณค่าสู่สังคมด้วยการยกระดับการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ผ่านการส่งมอบความรอบรู้ด้านสุขภาพในประเด็นการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ตลอดจนส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพแก่ชุมชนและสังคมเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี โดยสนับสนุนให้โรงพยาบาลในเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศได้จัดทำการอบรม ตั้งเป้า 10,000 คน ที่จะเป็นผู้มีความสามารถในการช่วยชีวิตในปีนี้