รพ.ราชวิถี เปิดหอไอซียูส่วนต่อขยาย 10 เตียง รองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการเพิ่มหอไอซียูส่วนต่อขยาย โรงพยาบาลราชวิถี 10 เตียง รองรับผู้ป่วยวิกฤตโควิด 19 กลุ่มสีเหลือง-แดง ในเขต กทม. เริ่มเปิดให้บริการ 11 พฤษภาคมนี้ วันนี้ (10 พฤษภาคม 2564 ) ที่โรงพยาบาลราชวิถี กทม. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และนพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ติดตามความคืบหน้าการเปิดหอไอซียูส่วนต่อขยายรองรับผู้ป่วยวิกฤตโควิด 19 ของโรงพยาบาลราชวิถี โดย ดร.สาธิต ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ระลอกเมษายนนี้ มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น โดยในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลมีผู้ติดเชื้อมากร้อยละ 50-70 ของการติดเชื้อทั้งประเทศ และพบผู้ติดเชื้ออาการปานกลางจนถึงอาการหนักรุนแรงเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังและผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ในพื้นที่ กทม.กระทรวงสาธารณสุขได้มอบให้กรมการแพทย์ รับผิดชอบในการบริหารจัดการเตียงร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ โรงเรียนแพทย์ กทม. กองทัพ เอกชน ได้มีแผนเพิ่มจำนวนเตียงให้เพียงพอกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้โรงพยาบาลราชวิถีเป็นต้นแบบในการขยายเตียงไอซียู ได้รับความร่วมมือจากบริษัท เอสซีจี จำกัด มหาชน ออกแบบและก่อสร้างหอผู้ป่วยไอซียูส่วนขยาย ขนาด 10 เตียง โดยใช้เวลาก่อสร้างและจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยอาการวิกฤต อาทิ เครื่องช่วยหายใจการไหลเวียนออกซิเจนสูง เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด เป็นต้น ภายในเวลารวดเร็ว 7-10 วัน พร้อมระดมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการทำงานในหอผู้ป่วยไอซียู ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทำงาน เปิดให้บริการวันที่ 11 พฤษภาคม นี้ “ขอขอบคุณบริษัท เอสซีจี จำกัด มหาชน ที่ช่วยออกแบบและก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วและต้องขอชื่นชมโรงพยาบาลราชวิถีที่มีการเตรียมความพร้อมใช้พื้นที่ในโรงพยาบาลเพิ่มห้องไอซียูส่วนต่อขยาย จะช่วยให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มสีแดงเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที เป็นตัวอย่างให้แก่สถานพยาบาลอื่นๆ ”ดร.สาธิต กล่าว ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับโรงพยาบาลราชวิถีมีเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด ทั้งหมด 62 เตียง ใช้ไปแล้ว 58 เตียง เฉพาะเตียงไอซียูมีอยู่ 21 เตียงใช้ไปแล้ว 18 เตียง และการเพิ่มเตียงไอซียูส่วนต่อขยายครั้งนี้จะช่วยให้การหมุนเวียนการใช้เตียงทำได้ดีขึ้น ซึ่งมีระบบการทำงานเหมือนไอซียูปกติ โดยจัดแบ่งพื้นที่การใช้งาน และระบบการกำจัดขยะติดเชื้อที่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีระบบการจัดการอากาศปลอดเชื้อแยกระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้ติดเชื้อ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ทั้งนี้ สามารถควบคุมแรงดันอากาศได้ทั้งระบบความดันบวก (POSITIVE PRESSURE ROOM) กำจัดเชื้อโรคและฝุ่น พร้อมระบบความดันลบ (NEGATIVE PRESSURE ROOM) จำกัดการแพร่กระจายและลดการติดเชื้อไวรัสภายนอกอาคารได้ตามมาตรฐาน