รมว.พม. รุดช่วยผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ในซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 23
วันนี้ (13 ส.ค. 63) เวลา 13.00 น. ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสันติธรรมาราม เขตธนบุรี กทม. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมให้ความช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวง พม. แก่ผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 23 เขตคลองสาน กทม.นายจุติ กล่าวว่า เมื่อคืนวานนี้ (12 ส.ค. 63) เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 23 เขตคลองสาน กทม. โดยมีบ้านถูกไฟไหม้เสียหาย จำนวน 81 หลังคาเรือน และขณะนี้ ผู้ประสบภัยได้มาอยู่รวมกันเพื่อรอรับความช่วยเหลือที่ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสันติธรรมาราม เขตธนบุรี กทม. ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) สายด่วน พม. โทร. 1300 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ได้ลงพื้นที่ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ เพื่อสำรวจกลุ่มเป้าหมายพร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวง พม. โดยพบว่า ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้สูงอายุและป่วยติดเตียง อายุประมาณ 80 ปี ขณะนี้ได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตากสินเรียบร้อยแล้ว
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งและคงไม่มีอะไรมาทดแทนความสูญเสียของทุกท่านจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้ ซึ่งวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานถุงพระราชทานแก่ทุกท่าน และกระทรวง พม. ในนามตัวแทนรัฐบาลโดยความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี ได้มาลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้สิ่งที่เราต้องเร่งดำเนินการคือ การช่วยหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวในโครงการของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า การจัดตั้งศูนย์ดูแลเด็กเล็กพร้อมผู้ดูแล และการมอบเงินช่วยเหลือค่าเช่าบ้านสำหรับผู้ประสบปัญหาที่อยู่อาศัย ครัวเรือนละ 18,000 บาท โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สำหรับเด็กที่ย้ายที่อยู่อาศัยและไม่สามารถเรียนที่โรงเรียนเดิมได้ รัฐบาลจะช่วยหาโรงเรียนใหม่ พร้อมทั้งดูแลเรื่องเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังมีการเจรจากับผู้ให้เช่าตึกเพื่อขอเงินมัดจำให้กับผู้ประสบภัย การจัดทีมแพทย์สำหรับดูแลผู้ประสบภัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อ และการจัดหางาน โดยความร่วมมือจากกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน อีกทั้งกระทรวง พม. จะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลกลุ่มเปราะบางเป็นประจำทุกวัน เพื่อสำรวจและรับฟังปัญหา ความต้องการ เพื่อรัฐบาลจะได้เร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด
