Update Newsสังคม

รมว.พม. หารือร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการกิจการสตรี เน้นย้ำเร่งส่งเสริมศักยภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่เด็กและสตรี

    
 วันนี้ (2 ส.ค. 60) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วย นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวง พม. และนายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ให้การต้อนรับและประชุมหารือร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการกิจการสตรี นำโดย นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ 2 และประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการสตรี พร้อมด้วย พลเอก วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล กรรมาธิการและที่ปรึกษา ในประเด็นการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 5 ความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก และการค้าประเวณี 

ในโอกาสนี้ รมว.พม. ได้นำคณะอนุกรรมาธิการกิจการสตรีเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ชั้น 2 และร้านทอฝัน By พม. ณ วังสะพานขาว ชั้น 1 กระทรวง พม. 
 

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้กำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสตรี ตั้งแต่ในเชิงป้องกัน จนถึงการเสริมพลังสตรี เริ่มจากประเด็นความรุนแรงในครอบครัว โดยกระทรวง พม. ได้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา สร้างเครือข่ายในพื้นที่ การจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 รับแจ้งเหตุ และส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาทันที

สำหรับด้านการค้ามนุษย์ กระทรวง พม. ได้แก้ไข พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ส่วนการป้องกัน การค้าประเวณี กระทรวง พม. ได้พัฒนาทักษะการประกอบอาชีพให้แก่ผู้ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการผลิต การตลาด และการบริหารจัดการ การสร้าง Brand และการสร้างช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมทั้งการตั้งร้านทอฝัน By พม. เพื่อจำหน่ายสินค้าดังกล่าว ณ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลอีสต์วิลล์ และร้าน ณ วังสะพานขาว รวมทั้งทางออนไลน์ และจะมีการจัดจำหน่ายที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลรามอินทรา เร็วๆนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพสตรีในด้านเศรษฐกิจให้สามารถพึ่งพาตนเองได้

    

   

นอกจากนี้ กระทรวง พม. ยังได้ส่งเสริมบทบาทของสตรีและความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยทำ MOU ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันผลักดันการดำเนินงานตาม พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 และยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้หญิงไทยที่ประสบปัญหาในต่างประเทศ ด้วยการเตรียมความพร้อมของผู้หญิงก่อนเดินทาง และการมีกลไกช่วยเหลือ อาทิ 1) เว็บไซต์ yingthai.net 2) แอพพลิเคชั่น หญิงไทย 3) ศูนย์ช่วยเหลือสังคมสายด่วน 1300 และ 4) อาสาสมัครให้คำปรึกษาหญิงไทยในต่างประเทศ ตลอดจนส่งเสริมให้เครือข่ายในต่างประเทศ รวมตัวช่วยเหลือและจัดตั้งเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ เพื่อให้สามารถขอรับการสนับสนุนจากกองทุนต่าง ๆ ในประเทศไทยได้


   

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการประชุมหารือกับคณะอนุกรรมาธิการกิจการสตรีในวันนี้ นับเป็นความร่วมมือกันในการขับเคลื่อนประเด็นการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 5 ความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก และการค้าประเวณี ในการพัฒนากลไกศูนย์ประสานงานด้านความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย ซึ่งจะมีการส่งเสริมการจัดทำงบประมาณที่มีมุมมองมิติหญิงชาย การดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี การดำเนินการตาม Roadmap เป้าหมายที่ 5


และผลักดันการเก็บข้อมูลแยกเพศ ตลอดจนการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ การจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ตามกลุ่มเป้าหมาย การขับเคลื่อนกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ การดำเนินการเรื่องร้องเรียน และเผยแพร่ข้อวินิจฉัย เพื่อสร้างความเข้าใจแก่สังคมเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศ และการขับเคลื่อนการยุติความรุนแรงในครอบครัว 

ซึ่งได้ดำเนินการรณรงค์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อพัฒนาศักยภาพกลไกในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาโดยชุมชน การดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ ยังเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี ซึ่งกำหนดให้มีการดำเนินงานผ่านคณะกรรมการในระดับจังหวัด การจัดทำโครงการและกิจกรรมที่เน้นกลุ่มเสี่ยงและพื้นที่ที่มีปัญหาสูง โดยจะมีการติดตามและประเมินผลการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการในระดับจังหวัดต่อไป 
 

“อย่างไรก็ตาม การประชุมหารือครั้งนี้ จะนำไปสู่การบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนงานเกี่ยวกับสตรีในด้านต่าง ๆ โดยกระทรวงจะนำข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมาธิการกิจการสตรี มาปรับใช้ในการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสตรีให้มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย