“รองนายกฯ สมศักดิ์” เคาะ 10 มาตรการรับมือฝนปี 67 ก่อนเสนอ ครม. สั่งหน่วยงานเร่งทำแผนปฏิบัติการ เตรียมพร้อมรับลานีญา
"รองนายกฯ สมศักดิ์" นั่งเก้าอี้ประธานการประชุม กนช. เห็นชอบ (ร่าง) 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 67 ก่อนเตรียมเสนอ ครม. พร้อมสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการรองรั บมาตรการฯ คาดไทยเข้าสู่สภาวะลานีญาช่วง มิ.ย.-ส.ค.นี้ วันนี้ (27 มี.ค. 67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุ มคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 1/2567 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ขณะนี้สภาวะเอลนี โญในประเทศไทยอ่อนกำลังลง และมีโอกาสจะเปลี่ยนไปสู่ สภาวะลานีญาในช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณฝนมากกว่ าค่าเฉลี่ย ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมื อสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน ที่ประชุมจึงได้เห็นชอบ (ร่าง) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 67 จำนวน 10 มาตรการ ตามที่ สทนช. เสนอ พร้อมทั้งเห็นชอบโครงการเพิ่ มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรั พยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 67 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี 67/68 โดยให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่ งรัดจัดทำแผนปฏิบัติการรองรั บมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 67 พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนิ นการต่อ สทนช. เป็นประจำทุกเดือนจนกว่าจะสิ้ นสุดฤดูฝน เพื่อให้การขับเคลื่ อนมาตรการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการบริหารจัดการน้ำในช่ วงฤดูแล้ง ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการตาม 9 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 66/67 อย่างเคร่งครัด พร้อมเร่งป้องกันและแก้ไขปั ญหาด้านน้ำแบบเชิงรุกเพื่ อลดผลกระทบให้ประชาชนในทุกพื้ นที่ โดย สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่ วมกันประชุมติดตามและประเมิ นสถานการณ์น้ำเป็นประจำทุกสั ปดาห์ ทั้งนี้ กรมชลประทานได้เสนอปรับแผนการจั ดสรรน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง จากแผนเดิม 5,600 ล้าน ลบ.ม. ปรับแผนเป็น 7,700 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรปลู กข้าวรอบที่ 2 (นาปรัง) มากกว่าแผนที่กำหนด โดยจากการประเมินแผนที่ เสนอขอปรับแผนฯ ใหม่ พบว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำต้นทุ นและมีเพียงพอต่อการบริหารจั ดการน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 67 และฤดูแล้ง ปี 67/68 ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็ นชอบการปรับแผนดังกล่ าวและมอบหมายให้ กรมชลประทานเสนอแผนฯ ต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำที่เกี่ ยวข้อง รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้ องติดตามสถานการณ์การจัดสรรน้ำ และการเพาะปลูกข้าวนาปรังอย่ างใกล้ชิด และงดส่งเสริมการเพาะปลูกข้ าวนาปรังครั้งที่ 2 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อปริ มาณน้ำต้นทุนในช่วงฤดูฝนนี้ต่ อเนื่องช่วงฤดูแล้งหน้า ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง 12 ลุ่มน้ำ (ร่าง) แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม 22 ลุ่มน้ำ และ(ร่าง) แผนแม่บทการบริหารจัดการทรั พยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำ ตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำเสนอ โดยเมื่อ กนช. เห็นชอบแล้วคณะกรรมการลุ่มน้ำ จะต้องนำแผนป้องกันและแก้ ไขภาวะน้ำแล้งไปดำเนินการร่วมกั บมาตรการรองรับฤดูแล้งที่ ครม. ได้เห็นชอบแล้ว เพื่อให้การบริหารจัดการทรั พยากรน้ำในพื้นที่มีประสิทธิ ภาพและสามารถลดผลกระทบ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกั บประชาชนได้ตามเป้าหมายที่ วางไว้ ส่วนแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำ ท่วม ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำนำไปดำเนิ นการร่วมกับมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 67 เพื่อเตรียมการรองรับภาวะน้ำท่ วมในช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้ ในส่วนของแผนแม่บทการบริหารจั ดการทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำ เป็นแผนที่สอดคล้องกับแผนแม่ บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566–2580) ซึ่งใช้เป็นกรอบทิศทางการพั ฒนาด้านทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำ และใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนปฏิ บัติการด้านทรัพยากรน้ำในเขตลุ่ มน้ำ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ และทิศทางการพัฒนาในเชิงพื้นที่ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็ นชอบแผนงานโครงการด้านทรั พยากรน้ำที่หน่วยงานเสนอ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำ ประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่ า (จากแหล่งน้ำลำตะคองมายั งโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า) เทศบาลนครนครราชสีมา จ.นครราชสีมา การปรับปรุงวงเงิ นงบประมาณและขยายระยะเวลาดำเนิ นการโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จ.อุตรดิตถ์ และการปรับปรุงวงเงิ นงบประมาณและขยายระยะเวลาดำเนิ นการโครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชัยภูมิ สำหรับ (ร่าง) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 67 ตามที่ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ประกอบด้วย 1.คาดการณ์ชี้เป้าและแจ้งเตื อนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและพื้ นที่เสี่ยงฝนทิ้งช่วง 2.ทบทวน ปรับปรุง เกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ อาคารควบคุมบังคับน้ำอย่างบู รณาการในระบบลุ่มน้ำและกลุ่มลุ่ มน้ำ 3.เตรียมความพร้อมเครื่องจั กรเครื่องมือ อาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ โทรมาตร บุคลากรประจำพื้นที่เสี่ยง และศูนย์อพยพให้สามารถรองรั บสถานการณ์ในช่วงน้ำหลากและฝนทิ้ งช่วง 4.ตรวจสอบพร้อมติดตามความมั่ นคงปลอดภัย คันกั้นน้ำ ทำนบ พนังกั้นน้ำ 5.เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ของทางน้ำอย่างเป็นระบบ 6.ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟู สภาพให้กลับสู่สภาพปกติ 7.เร่งพัฒนาและเก็บกักน้ำในแหล่ งน้ำทุกประเภทช่วงปลายฤดูฝน 8.สร้างความเข้มแข็งเครือข่ ายภาคประชาชนในการให้ข้อมู ลสถานการณ์ 9.การสร้างการรับรู้ ศูนย์บริการข้อมูลสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์ และ 10.ติดตามประเมินผลปรั บมาตรการให้สอดคล้องกั บสถานการณ์ภัย ซึ่ง สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องจะดำเนินการตามที่ได้รั บมอบหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ในช่ วงฤดูฝนอย่างมีความพร้อมสูงสุด