สทนช. กรมเจ้าท่า สสน. ชมรมเรารักษ์แม่น้ำท่าจีน ลงเรือสำรวจสถานการณ์น้ำแม่น้ำท่าจีน เร่งแก้อุปสรรคขวางการระบายน้ำ
สทนช.กรมเจ้าท่า สสน. กองทัพเรือ และผู้แทนชมรมเรารักษ์แมม่น้ำท่าจีน ลงเรือสำรวจสถานการณ์น้ำแม่น้ำท่าจีน หลังพบระดับน้ำยังทรงตัว เพิ่มจุดติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำจากกองทัพเรือรวม 30 เครื่องเร่งระบายน้ำออกทะเล พร้อมเริ่มติดตั้งชีทพาย-บิ๊กแบ๊คปิดคลองบางแก้วลดท่วมพื้นที่ชุมชน-เขตเศรษฐกิจพรุ่งนี้ วันนี้ (8 พ.ย. 65) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังลงเรือสำรวจติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำท่าจีนบริเวณอำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี และอำเภอสามพราน จ.นครปฐม ร่วมกับผู้แทนกรมเจ้าท่า สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน.และนายประเชิญ คนเทศน์ ที่ปรึกษาชมรมเรารักษ์แม่น้ำท่าจีน ว่า จากการลงเรือสำรวจสภาพน้ำในแม่น้ำท่าจีนพบว่าระดับน้ำยังคงทรงตัว เนื่องจากมีปริมาณน้ำที่ระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำและจากลำน้ำสาขา อาทิ คลองพระพิมล คลองโยง ที่ไหลเข้ามาสมทบเพิ่มเติมเข้าสู่แม่น้ำท่าจีน ประกอบกับน้ำทะเลที่หนุนสูงในช่วงเวลานี้ ซึ่งจะหนุนสูงสุดอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่สำคัญยังพบว่า เรือขนสินค้าก็เป็นอุปสรรคสำคัญกับการระบายน้ำด้วยส่วนหนึ่ง โดย สทนช.ภาค 2 จะมีการประสานกรมเจ้าท่า และจังหวัดนครปฐม เพื่อพิจารณาดำเนินการประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการจัดระเบียบเรือขนส่งในช่วงที่เร่งระบายน้ำในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน “ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ สทนช.ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการเร่งด่วนโดยการวางบิ๊กแบ๊คปิดคลองบางแก้วเพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าคลองบางแก้ว พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากคลองบางแก้วลงสู่แม่น้ำท่าจีน ซึ่งกรมชลประทานได้ดำเนินการสำรวจและวางเครื่องจักรเครื่องมือพร้อมแล้ว ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเริ่มวางโครงสร้างกำแพงเหล็ก หรือชีทพาย ก่อนวางบิ๊กแบ๊คเพื่อปิดคลองบางแก้วซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันคลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วตามข้อสั่งการ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ. กอนช.”ดร.สุรสีห์ กล่าว ขณะเดียวกัน ศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้าฯ ภาคกลาง ได้ประสานกองทัพเรือเพิ่มจุดติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำสะพานวัดเทียนดัดอีกจำนวน 30 เครื่องซึ่งจะติดตั้งแล้วเสร็จทั้งหมดภายในคืนนี้ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลได้เร็วขึ้น ซึ่งสถานการณ์น้ำแม่น้ำท่าจีนปัจจุบันระดับน้ำที่ อ.นครชัยศรี ยังคงสูงกว่าระดับตลิ่งประมาณ 30 เซนติเมตร ขณะที่อ.สามพราน ปัจจุบันระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 85 เซนติเมตร แต่ยังต้องเฝ้าระวังในช่วงวันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่อาจจะส่งผลกระทบที่น้ำจะเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำได้ ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางกระสอบทรายเพื่อป้องกันผลกระทบแล้วเช่นกัน สำหรับสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาระดับน้ำยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,094 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการน้ำ เร่งระบายน้ำ สูบน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังทำให้ระดับน้ำลดลงเร็วกว่าแผนได้ถึงประมาณสองสัปดาห์ รวมถึงการเร่งแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำที่ท่วมขัง ควบคู่กับการเร่งมาตรการฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วตามระเบียบราชการโดยเร็วต่อไป.