หนาวนี้ไปเที่ยวเชียงราย: ตามรอย 5 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จากความสนพระราชหฤทัยในความเป็นอยู่ของผู้คนในชนบท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริริเริ่มโครงการเพื่อพัฒนาพื้นฐานทางการเกษตร อันเป็นสิ่งที่ประเทศไทยเรามีอยู่มาแต่เดิม ให้มีรากฐานมั่นคงจนชาวบ้านสามารถพึ่งพาเป็นวิถีในการดำรงชีวิตได้อย่างสุขสบาย ด้วยพระปรีชาสามารถได้นำไปสู่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือที่เรียกกันในแบบลำลองว่า ‘โครงการหลวง’ จำนวนมากกว่า 300 โครงการ ดำเนินการจนถึงปัจจุบันในหลากหลายภูมิภาค ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ เราจึงขอชวนทุกคนมาตามรอยเท้าพ่อ ศึกษาข้อมูลเชิงการเกษตรและเรียนรู้การอยู่แบบพอเพียงที่จังหวัดเชียงราย กับ 5 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หนาวนี้เรายังอบอุ่นหัวใจ
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสะโง๊ะ
ขอบคุณภาพจาก http://royalprojectthailand.com/sango
‘ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะโง๊ะ’ เริ่มต้นในรูปแบบงานอาสาพัฒนาชาวเขาตามพระราชดำริ โดยมูลนิธิโครงการหลวงและมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งอยู่ที่บ้านดอยสะโง๊ะ ซึ่งในพื้นที่โครงการมีความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งชาวอีก้อ ไทลื้อ คนเมือง และไทยลื้อ ที่ต่างอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัย ด้วยลักษณะเฉพาะของศูนย์นี้เองจึงทำให้นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้มาเยือนศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสะโง๊ะแห่งนี้จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีที่ไม่สามารถหาชมได้จากที่อื่น สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองที่นับถือพุทธศาสนา ศึกษาวิถีชีวิตของชาวอาข่า ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์อาข่า ประเพณีปีใหม่ (กินวอ) พิธีกรรมไล่ผีร้าย และงานฝีมือศิลปะการเย็บผ้าอาข่าให้ได้ชม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยกับการเที่ยวชมตำนานดอยช้างและดอยงู ชมร่องรอยป้อมปราการสมัยโบราณบนยอดดอย เก็บวิวดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ วิวเทือกเขาดอยนางนอน และชมทะเลหมอกยามเช้า หรือชมวิวสายน้ำโขงอันยิ่งใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในท้องถิ่นมาช้านาน
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน
ขอบคุณภาพจาก http://royalprojectthailand.com/huainamrin
เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาการทำไร่เลื่อนลอยและการสูญเสียแหล่งน้ำอันเป็นปัจจัยสำคัญในการเกษตร ‘ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน’ จึงได้ริเริ่มโครงการตามพระราชดำริเพื่อพัฒนาพื้นที่ ทั้งการลงไปพูดคุยและให้ความรู้โดยเชิญชวนให้ชาวบ้านท้องถิ่นที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มูเซอหันมาทำการปลูกพืชไร่ ผักและผลไม้เมืองหนาว เสริมกับการปลูกข้าวและข้าวโพดที่ทำอยู่เดิม ทั้งมีการจัดแนวทางการอนุรักษ์แหล่งน้ำและการทำมาหากินที่ให้ผลคุ้มค่ากว่า หากนักท่องเที่ยวได้ไปเยือนศูนย์ห้วยรินที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูง จะได้พบกับธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์และสวยงามของพื้นที่สูง ชมแปลงเกษตรชาวบ้าน อาทิ แปลงสตรอว์เบอร์รี่ ที่จะออกผลในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ประเพณีปี๋ใหม่ของชนเผ่ามูเซอ พิธีการเลี้ยงชาที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์เท่านั้น พิธีเลี้ยงขวัญใต้เตียน การตำข้าวโดยใช้ครกกระเดื่อง งานศิลปวัฒนธรรมการทอผ้ากี่เอวแบบกระเหรี่ยงของกลุ่มแม่บ้านขะต๋าน การผลิตไม้กวาดดอกหญ้าของกลุ่มแม่บ้านเมืองน้อย เรียกได้ว่าคุ้มค่าแก่การมาเยือนอย่างแน่นอน
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง
ขอบคุณภาพจาก http://royalprojectthailand.com/huailang
จากคำขวัญท่องเที่ยว ‘สัมผัสลมหนาว เฝ้าชมทะเลหมอก ไม้ดอกตระการตา’ รับรองได้ว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือน ‘ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง’ แห่งนี้โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสดชื่นและยังคงความบริสุทธิ์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม ท่ามกลางวิถีความเป็นอยู่แบบธรรมชาติ นอกจากการเที่ยวชมแปลงเกษตรตามวิถีใหม่แล้ว ต้องไม่พลาดกับวนอุทยานภูชี้ฟ้าที่เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศทะเลหมอกภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า และเมื่อหมอกจากลงก็จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับภูมิทัศน์อันสวยงามของประเทศลาวที่อยู่เบื้องหน้า นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวผาตั้งและประตูสยามที่มีหินงอกตลอดจนโขดหินขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ตามสันเขา ตรงรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว แค่คิดภาพตามก็เหมือนเห็นหมอกเย็นๆ มาลอยอยู่ตรงหน้าแล้ว หนาวนี้ต้องไปสัมผัสด้วยตนเองให้ได้
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ปูนหลวง
ขอบคุณภาพจาก http://royalprojectthailand.com/maepoonluang
เช่นเดียวกับโครงการหลวงต่างๆ ที่ ‘ศูนย์พัฒนาโครงการแม่ปูนหลวง’ แห่งนี้ก็ดำเนินงานตามพระราชดำริที่ทรงมุ่งมั่นพัฒนาความเป็นอยู่ที่สุขสบายให้กับชาวบ้านท้องถิ่น ที่นี่มีจุดชมวิวที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องประทับใจไปกับความเขียวขจีของเหล่าแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะความงดงามที่พลาดไม่ได้ของดอกสะแตติส แคสเปียร์ (Statice Caspears) ที่จะออกดอกตลอดปีที่นี่ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ มีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีขึ้นปีใหม่ (กินวอ) ของชาวเขาเผ่าลีซูที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี หรือร่วมพิธีกินข้าวใหม่ของชาวเผ่าลีซูที่จะจัดขึ้นประมาณเดือนสิงหาคม หนาวนี้ต้องลองไปเก็บประสบการณ์และความทรงจำดีๆ กับวิถีชีวิตแบบชาวบ้านของแท้
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง
ขอบคุณภาพจาก http://royalprojectthailand.com/phatung
นอกจากจะเป็นโครงการหลวงที่ประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์ดินและน้ำตามพระราชประสงค์แล้ว ‘ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง’ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงดงามอย่างมากอีกด้วย ที่พักรับรองที่ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับวิวทิวทัศน์อันเขียวขจีให้บรรยากาศที่สุดแสนจะผ่อนคลายและหาที่ไหนไม่ได้ นักท่องเที่ยวสามารถยืนชมทิวทัศน์เทือกเขาเขียวชอุ่มท่ามกลางเมฆหมอกสีขาวและอากาศหนาวเย็นที่ทั้งบริสุทธิ์และสดชื่น ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจนลืมเวลากันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังไม่ควรพลาดการเดินชมแปลงผักวิถีอินทรีย์ที่ปลอดสารพิษ พร้อมศึกษาเรียนรู้วิธีรักษาและนำทรัพยากรน้ำมาใช้อย่างพอเพียง ซึมซับการอยู่ร่วมกันระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ที่ต่างเกื้อกูล อันเป็นวิถีที่โลกในยุคปัจจุบันควรต้องหันมาให้ความสำคัญ
หนาวนี้อยากให้ลองไปสัมผัสการท่องเที่ยวที่อิงทั้งกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรมที่จังหวัดเชียงรายกัน การเดินทางง่ายและสะดวกสบายด้วยสายการบินต่างๆ ที่พร้อมให้บริการ อาทิ นกแอร์ แอร์เอเชีย ไทยไลออน ไทยสมายล์ บางกอกแอร์เวย์ ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็ถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ทั้งยังมีที่พักแนวใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ราคาไม่แพงและให้บริการแบบเป็นกันเองเหมือนคนในครอบครัว
.....หนาวนี้เราจะยังอบอุ่นหัวใจด้วยโครงการหลวงที่เกิดจากน้ำพระราชหฤทัยของพ่อหลวงของเรา.....
* เช็คราคาตั๋วเครื่องบินไปจังหวัดเชียงราย ตรวจสอบการเดินทางและจองเที่ยวบินด้วย Traveloka คลิก
* เช็คที่พักราคาไม่แพงในจังหวัดเชียงราย เลือกวันเข้าพักและดูรีวิวห้องพักที่ Traveloka คลิก