อธิบดี พก. ประชุมเตรียมความพร้อมคนพิการ กับกิจกรรมปั่นจักรยาน “BIKE อุ่นไอรัก”
วันนี้ (8 ธ.ค. 61) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมปรินซ์ บอลรูม 1 ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์ พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มอบแนวทางในการประชุมซักซ้อมการดำเนินงาน กิจกรรมปั่นจักรยาน “BIKE อุ่นไอรัก” เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมให้คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมกิจกรรมฯ พร้อมเปิดเวทีเสวนา “เทคนิคการปั่นจักรยาน : ประสบการณ์จาก โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน” โดยอาจารย์ ประหยัด ทรงคำ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ สาขาภาคเหนือ โดยมี คนพิการ และผู้ดูแลคนพิการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 300 คน เข้าร่วมการประชุม นางธนาภรณ์ กล่าวว่า จากพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับอาณาประชาราษฎร์ ทรงมีพระราชดำริที่จะให้ประชาชนได้มีความสุข ความรื่นเริง และรำลึกถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย ผ่านนิทรรศการที่แสดงให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนวิถีชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ฯ ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงานพระราชทานความสุขให้กับประชาชนและเผยแพร่ความงดงามของความเป็นไทยในรูปแบบต่างๆ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช องค์พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักเคารพยิ่งของชาวไทย ภายใต้ชื่องาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561 – 19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า พร้อมพระราชทานพระราชานุญาต ให้จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย เห็นความสำคัญในการรักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย และเสริมสร้างความรักความสามัคคีในครอบครัวและสังคม เริ่มต้นจากพระลานพระราชวังดุสิต – สวนสุขภาพลัดโพธิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ รวมระยะทางไปกลับ 39 กิโลเมตร ทั้งนี้ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ในฐานะหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้นำคนพิการเข้าร่วมกิจกรรมฯ และอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ เพื่อให้คนพิการได้มีส่วนร่วมทางสังคมได้แสดงศักยภาพและร่วมปั่นจักรยานตามขบวนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และให้สังคมมีความรู้ ความเข้าใจและเจตคติเชิงสร้างสรรค์ต่อความพิการและคนพิการ รวมถึงส่งเสริมและบูรณาการเครือข่ายและสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นางธนาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยในวันนี้ จะเป็นการซักซ้อมแนวทางการดำเนินงาน กิจกรรมปั่นจักรยาน “BIKE อุ่นไอรัก” เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมให้คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ ได้ทราบถึงกำหนดการและกิจกรรมต่างๆ เช่น ภาพรวมแผนผังการจัดงาน รูปแบบการตั้งขบวน เส้นทางการปั่น การอำนวยความสะดวก การรักษาความปลอดภัย และการจราจร เป็นต้น โดยในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค. 61) จะเป็นประธานนำคนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด พก. เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยสามารถลงทะเบียนรายงานตัว ได้ตั้งแต่ เวลา 08.00 – 09.00 น. และเริ่มต้นปล่อยตัวจักรยาน ในเวลา 10.00 น. จากหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย - สะพานผ่านฟ้า - ถนนราชดำเนิน - กระทรวงศึกษาธิการ - สิ้นสุดที่ วังปารุสกวัน (พักที่พิพิธภัณฑ์ตำรวจในวังปารุสกวัน โดยให้เข้าทางประตูกองบัญชาการตำรวจนครบาล) ระยะทางรวม 2.6 กิโลเมตร พร้อมนำคนพิการ เยี่ยมชมงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” โดยมี นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายต่อพงศ์ เสลานนท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย คนพิการ และผู้ดูแลคนพิการ องค์กร สมาคมคนพิการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนกว่า 500 คน “ขอขอบคุณกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวก ร่วมให้เกียรติ โอกาส และกำลังใจ ให้คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ได้มีโอกาสร่วมปั่นจักรยานและให้บริการคนพิการอย่างเต็มที่ทุกภาคส่วน พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ พก. และคณะผู้ดูแล (มาร์แชล) อำนวยความสะดวกให้คนพิการ ทั้งในด้านความปลอดภัย การจัดหายานพาหนะรับส่ง บริการตรวจซ่อมรถจักรยาน รถวีลแชร์ รถสุขาเคลื่อนที่ และหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ ตลอดเส้นทางการปั่น นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความตั้งใจจริง การทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจของคนพิการ ในการเข้าร่วมกิจกรรม “BIKE อุ่นไอรัก” พร้อมทั้งขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้คนพิการที่เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม โดยแสดงออกความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” นางธนาภรณ์ กล่าวในตอนท้าย