อธิบดี สค.ลงพื้นที่เปิดโครงการพัฒนาทักษะอาชีพ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปาง
ในวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปาง นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สู่การมีรายได้ เพื่อชุมชนเข้มแข็ง (ฝึกทักษะอาชีพ ๒๐ วัน) พร้อมเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ สค. ให้การสนับสนุน โดยมี นายชาลี สมมาตร ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปาง กล่าวรายงาน โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพให้มีประสบการณ์และศักยภาพฝีมือ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประจำกลุ่มอาชีพที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันผลิตภัณฑ์เข้าสู่โครงการทอฝัน by พม.ต่อไป นายเลิศปัญญา กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) มีภารกิจในการพัฒนาศักยภาพให้แก่กลุ่มเป้าหมายด้านอาชีพ เพื่อเป็นพื้นฐานการมีรายได้ให้กับสตรีและครอบครัว กลุ่มเป้าหมายที่ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน ขาดโอกาสและประสบปัญหาทางสังคมไม่มีงานทำ ส่งผลต่อการย้ายภูมิลำเนาออกไปทำงานนอกพื้นที่ หรือกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ที่อาจเป็นเป้าหมายของการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จากสื่อต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นายเลิศปัญญา กล่าวต่ออีกว่า สค. มีความมุ่งมั่น และตระหนักที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความเป็นอยู่ที่ดี มั่นคง ไม่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ มีความปลอดภัย ตลอดจนด้านสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง จึงเร่งพัฒนาทักษะความรู้ ให้กลุ่มเป้าหมายมีอาชีพเป็นก้าวหนึ่งของชีวิต ให้สามารถนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ตลอดจนพัฒนาเป็นอาชีพ เป็นธุรกิจในชุมชน ภายใต้พื้นฐานของบริบทเชิงพื้นที่ สำหรับในวันนี้ ได้มีกลุ่มอาชีพที่ได้รับการสนับสนุนในพื้นที่จังหวัดลำปาง จำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอาชีพเย็บหมวกคาวบอย ตำบลบ้านแลง กลุ่มอาชีพเย็บผ้าพื้นเมือง บ้านต้นต้อง ตำบลพิชัย อำเภอเมือง และบ้านผึ้ง ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา กลุ่มอาชีพเสื้อซาฟารี บ้านเมืองยาว ตำบลเมืองยาว อำเภอห้างฉัตร และกลุ่มอาชีพเย็บกระเป๋าเอนกประสงค์บ้านหัวทุ่ง ตำบลทุ่งกว๋าว อำเภอเมืองปาน นำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดง ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับการผลักดีนเข้าสู่โครงการทอฝัน by พม.ด้วย นายเลิศปัญญากล่าวในตอนท้าย