“อ.ขวด มนตรี” มือสะบัดแปรงแสงส่องหน้า ชีวิตการทำงานที่ “วัดละเอียด” ทุกกระเบียดนิ้ว
“ที่มีภาษิตบอกว่า...ยี่งสูง ยิ่งหนาว...สำหรับตัวเองแล้วไม่เคยคิดอย่างนั้น...ยิ่งสูง ยิ่งอบอุ่น...ต่างหาก เพราะชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยถือทิฐิ ไม่เคยสร้างศัตรู ด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น หรือเหยียบหัวใคร เพื่อให้ได้มาซึ่งลาภ ยศ สรรเสริญ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่หัวโขนที่เขาเอามาสวมใส่ให้ ไม่นานมันก็เปลี่ยนแปลงไปตามกฎพระไตรลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ ทุกวันนี้เรามีความสุขและความอบอุ่นกับการใช้ในทำงานกับเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ทุกคน” “อ.มนตรี วัดละเอียด” หรือที่เรียกติดปากกันในวงการช่างแต่งหน้าว่า “พี่ขวด” ในวัย 58 ปีหัวเรือใหญ่แห่งโรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI เปิดใจภายหลังจากงานรับรางวัลเกียรติคุณแห่งความสำเร็จ ในงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม ครั้งที่ 26 จัดโดยชมรมวิจารณ์บันเทิง ณ สโมสรทหารบก เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมี คุณทิพาภรณ์ โชควัฒนา รองประธานกรรมการ,อ.พรรณอร แสงอาทิตย์ รองประธานกรรมการ และ คุณสุวรรณี อรรถคำภีวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) ร่วมแสดงความยินดี อ.ขวด ผู้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดใจภายหลังจากได้รับรางวัลว่า ถือว่าเป็นรางวัลที่มอบให้เฉพาะกับตัวบุคคลที่ทำงานด้านการแต่งหน้าเป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีการมอบรางวัลทางด้านวงการบันเทิง ที่ผ่านมาจะให้ในนามค่ายหรือองค์กรหรือหน่วยงานเป็นหลัก ขอขอบคุณชมรมวิจารณ์บันเทิงที่ได้มองเห็นถึงความสำคัญของรางวัลในสาขานี้ จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้สร้างสรรค์วิชาชีพและอาชีพการแต่งหน้าของไทยให้ก้าวหน้า พร้อมทั้งมีความทัดเทียมในระดับสากลมากยิ่งขึ้น สำหรับเส้นทางชีวิตการเป็นช่างแต่งหน้า ซึ่งหันเหมาจากการเป็นว่าที่นักกฎหมาย ของ อ.ขวดนั้น เริ่มจากการที่ทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพด้านแฟชั่น วันหนึ่งไม่มีช่างแต่งหน้า อ.ขวด จำเป็นต้องออกโรง ด้วยการเปิดหนังสือแฟชั่นแล้วลองแต่งหน้านางแบบตามนั้น เนื่องจากไม่มีต้นทุนทางด้านการแต่งหน้ามาก่อนเลยแม้แต่น้อยนิด ปรากฏว่า ผลงานออกมาสวยแล้วได้รับคำชื่นชม จากเหตุการณ์ในวันนั้นได้จุดประกายให้ อ.มนตรี เลือกที่จะเดินทาง “ทำในสิ่งที่ชอบและรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ” ในที่สุดได้มาเป็นนักเรียน รุ่นที่ 8 ของโรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI ศึกษาเริ่มจากหลักสูตรพื้นฐานไปจนกระทั่งถึงหลักสูตรแอดวานซ์ เอฟเฟกต์ สะสมองค์ความรู้มากมาย ทั้งแต่งหน้าละครทีวี ละครเวที ภาพยนตร์ แฟชั่นโชว์ ทำเอฟเฟกต์ ผลจากความมุ่งมั่นตั้งใจทำให้ อ.ขวด คว้าแชมป์แต่งหน้าแฟนซีแห่งประเทศไทยในปี 2529 จากนั้น MTI ได้สนับสนุนให้เดินทางไปประกวดการแต่งหน้าระดับเอเชียที่ประเทศฮ่องกง ไม่ทำให้คนไทยทั้งประเทศผิดหวัง เมื่อเขาสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้สำเร็จ นับเป็นการเริ่มต้นที่ถึงแม้จะเหนื่อย แต่เป็นก้าวแรกที่ทำให้ผลงานของ อ.ขวด เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง “สุริโยไท” นับว่าเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจของ อ.ขวด อีก 1 ชิ้น เนื่องจากสุริโยไท เป็นงานที่รวบรวมศาสตร์ทั้งหมดของการแต่งหน้าไว้ด้วยกัน รวมถึงการย้อมผิว ด้วยความที่เป็นหนังแนวพีเรียดดังนั้นจึงต้องค้นคว้าหาข้อมูลมาประกอบ เพื่อจะได้เกิดความเข้าใจและตอบโจทย์ในการทำงานอย่างถูกต้อง สร้างฝันของผู้กำกับการแสดงให้เป็นจริง “การเป็นช่างแต่งหน้าในวงการบันเทิงนั้น ต้องตั้งใจทำงาน ปฏิบัติตาม กฎ กติกาของอาชีพนี้ งานแต่งหน้าไม่ได้จบลงหลังจากแต่งหน้าให้คนอื่นเสร็จ แต่จะเสร็จสิ้นก็ต่อเมื่อถ่ายทำจบแล้วต่างหาก ต้องคอยเพิ่มหรือซับเมคอัพให้ตลอดการถ่ายทำและการทำงานนี้ต้องมีสมาธิ เพราะเป็นการทำงานท่ามกลางคนมากมาย ไม่เช่นนั้นจะยิ่งเสียเวลาล่าช้าไปอีก โดยถ้าหากงานเสร็จตามกำหนดได้จะเป็นความภาคภูมิใจของตนเองด้วย ในการทำงานนั้นบางครั้งผู้จ้างยังไม่พอใจ ต้องการเพิ่มนั่นปรับนี่ ก็ต้องน้อมรับ เพราะเขาเป็นคนจ่ายเงิน เป็นความต้องการของเขา แล้วผลงานของเราจะเป็นเอกลักษณ์เป็นที่จดจำต่อผู้ชมตลอดไป” นอกจากนี้ อ.ขวด ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องโซเชี่ยลมิเดียกับวงการช่างแต่งหน้าว่า ยอมรับโซเชี่ยลมิเดียในยุคนี้เป็นสื่อที่มีความทันสมัย รวดเร็ว เข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก ตรงเป้าหมาย ทางเอ็มทีไอมีการใช้โซเชี่ยลมิเดีย ทั้งทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ และ ยูทูป ช่างแต่งหน้าหลายคนใช้ช่องทางสื่อประเภทนี้ต่อยอดงานตัวเอง มีการลงผลงาน สามารถติดต่อกันได้โดยตรง แต่ทว่ายูทูปประเภทสอนการแต่งหน้านั้น ตนเองเห็นว่า เป็นการสื่อสารทางเดียว ผู้เรียนไม่สามารถติดต่อสอบถามได้ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ ต้องการความกระจ่าง แต่ก็เข้าใจว่าเป็นการเซฟคอร์ส อ.ขวด กล่าวในฐานะผู้เป็นหนึ่งในเสาหลักของเอ็มทีไอว่า อยากเห็นอนาคตของเอ็มทีไอคือ การไม่หยุดพัฒนาในทุก ๆ ด้าน พร้อมเป็นแบรนด์ไทยก้าวสู่สากลอย่างสง่างามมากขึ้น ให้คนรู้จักเรามากยิ่งขึ้น MTI เป็นทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมาตรฐานและมีความนำสมัย อย่างแป้ง HD LOOSE POWDER และรองพื้น MTI HD foundation ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับกล้อง HD ที่มีความคมชัดมาก เรียกว่า “สวยทะลุกล้อง” รวมถึง MTI เป็นทั้งสถาบันวิชาชีพที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและในระดับนานาประเทศ สำหรับในวงการช่างแต่งหน้าแล้ว ยอมรับว่า ช่างแต่งหน้าไทยเก่งมาก โกอินเตอร์ เช่น ไปทำงานในวงการแฟชั่นหลายประเทศ ในฮอลลีวู้ดก็มี อยากให้ทุกคนทำงานเป็นแมนวล (manual) ใส่จิตวิญญาณลงไปที่มือและปลายพู่กัน แล้วบรรจงสร้างสรรค์ไปที่หน้าของผู้คน ไม่อยากให้ทำตัวเหมือนออโต้ (auto) ดูเป็นโปรแกรมเหมือนหุ่นยนต์ หรือแบบปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) หุ่นยนต์หรือจะสู้ฝีมือของคนได้ คนเรามีความประณีตและละเอียดอ่อน แล้วพูดถึงเรื่องเครื่องสำอางบ้านเรายังมีราคาค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับเครื่องสำอางในต่างประเทศราคาจะถูกกว่า ควรจะมีการควบคุมราคาและคุณภาพ เพื่อให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่ผลิตขึ้นในเมืองไทย รวมถึงมาตรการควบคุมราคาและดูความเหมาะสมสำหรับวัตถุดิบนำเข้าที่ใช้ในการผลิตเครื่องสำอางด้วย “ในการทำงานไม่ต้องคิดว่า เราจะต้องไม่มีใครเหมือนและไม่มีเหมือนใคร แค่ตั้งใจทำให้ผลงานออกมาดีที่สุด ผลงานจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราควรทำอย่างไรต่อไป งานแต่งหน้าเป็นงานที่มีความกดดันสูงและใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เราต้องเปิดใจกว้างยอมรับคำติชมกับผลงาน อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง เมื่อมีรายได้เข้ามาเราก็ควรที่จะเก็บออมไว้อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 คือการคำนึงถึงความพอประมาณ อย่างมีเหตุผล ที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น สำหรับตัวเองแล้วยังคงมีความสุขกับการทำงานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะทำไม่ไหว ซึ่งตอนนี้เราคิดว่าตัวเองเดินไปอย่างช้า ๆ แต่ก็ไม่เคยคิดถอยหลัง” อ.ขวดกล่าวในท้ายที่สุด ปัจจุบัน อ.ขวด-มนตรี วัดละเอียด ยังคงทำงานสร้างสรรค์การแต่งหน้าในวงการบันเทิงตามที่ใจรักพร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นเรือลำใหญ่ส่งลูกศิษย์ให้ถึงฝั่งฝัน(ที่เป็นจริง) ทั้งที่โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI และ สวนขวด จ.จันทบุรี โรงเรียนที่มีบรรยากาศเหมือนบ้านท่ามกลางธรรมชาติ สำหรับผู้สนใจในวิชาชีพช่างแต่งหน้า สอบถามได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โทร.0-2693-2480 ต่อ 131 และ 132