Asean MovementUpdate Newsการตลาดต่างประเทศธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เซินเจิ้น จัดมหกรรมแสดงสินค้าไฮเทค China High-Tech Fair ครั้งที่ 23 (CHTF2021) 

เซินเจิ้น, จีน--29 ธันวาคม 2564 มหกรรม CHTF 2021 จัดงานทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ตลอดระยะเวลา 5 วัน และ 3 วันตามลำดับ โดยบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 1,900 แห่งได้มารวมตัวกันในวันแรกของการจัดงานออนไลน์ ครอบคลุมหลากหลายภาคส่วนของอุตสาหกรรมไฮเทค เช่น เทคโนโลยีการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ ซึ่งรวมถึงคลาวด์คอมพิวติ้งและ 5G ตลอดจนอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงกลยุทธ์ เช่น การปกป้องสิ่งแวดล้อม ยานยนต์พลังงานใหม่ และอวกาศ เป็นต้น

แบรนด์ชั้นนำมากมายในประเทศจีนเข้าร่วมงานในปีนี้ เช่น หัวเว่ย, แซดทีอี, ออเนอร์ และฉางหง กรุ๊ป ร่วมด้วยสถานศึกษาแถวหน้าของประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยชิงหัวและมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ และหน่วยงานรัฐอีกหลายหน่วยงาน ได้เข้าร่วมจัดแสดงภายในงานด้วย

ในฐานะมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับนานาชาติ มหกรรม CHTF ถือเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการใหม่ในตลาด เทคโนโลยีแห่งอนาคต และเทรนด์ใหม่ในการพัฒนาอุตสาหกรรม มหกรรม CHTF ให้ความสำคัญกับหัวข้อต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจในจีนและมีความเชื่อมโยงกับทั่วโลก เช่น “ยุคใหม่” “เศรษฐกิจใหม่” “การปล่อยคาร์บอนสูงสุดและการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน” และ “การผลิตอัจฉริยะของจีน” ขณะเดียวกัน คำยอดนิยมในขณะนี้อย่าง “ยุคหลังโควิด” และ “เมตาเวิร์ส” ก็ได้รับการสรุปอย่างครอบคลุมผ่านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีการจัดแสดงภายในงาน

นอกจากนี้ การจัดแสดงจากต่างประเทศก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยการแลกเปลี่ยนและการสร้างความร่วมมือระหว่างจีนกับต่างประเทศยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องแม้เกิดสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก ทั้งนี้ บริษัทจาก 25 ประเทศได้ร่วมจัดแสดงออนไลน์ ขณะที่ตัวแทนจาก 11 ประเทศ เช่น เบลเยียม บราซิล และโปแลนด์ ได้ร่วมจัดแสดงในสถานที่จริง ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ Shenzhen World Exhibition and Convention Center

หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของมหกรรม CHTF คือการประชุม China High-Tech Forum ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการแบ่งปันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การทำความเข้าใจเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือทางเทคนิคและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยการประชุมในปีนี้มีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และนักธุรกิจเข้าร่วมเกือบ 50 คน