Update Newsสังคม/CSRสิ่งแวดล้อม

เซ็นทรัลกรุ๊ปจับมือพันธมิตรรักษ์สิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรม“เทิด ด้วย ทำ : CENTRAL GREEN Project@Vibhavadi”

    


บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัดร่วมกับ สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร, มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์, มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R), สำนักระบายน้ำ, สำนักงานเขตจตุจักร, สำนักเทศกิจ, สำนักจราจร, การรถไฟแห่งประเทศไทย, กรมทางหลวง, การทางพิเศษ ร่วมด้วย ชมรมหน่วยงานย่านวิภาวดีรังสิต นำโดย ปตท, การบินไทย, บางกอกแอร์เวยส์, อีซูซุ, กลุ่มมหาวิทยาลัยเซ็นต์จอห์น, โรงเรียนหอวัง เป็นต้น จัดกิจกรรม "เทิด ด้วย ทำ: CENTRAL GREEN Project@Vibhavadi ภายใต้โครงการ Central Group Loves The Earth เพื่อร่วมสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริด้านการจัดการคุณภาพน้ำและการบำบัดน้ำเสียมาปฏิบัติ ร่วมบูรณาการพื้นที่ในการบำบัดน้ำเสียคูคลองเลียบถนนวิภาวดีรังสิต, ปลูกต้นไม้, ปรับสภาพแวดล้อมความสะอาดบริเวณคูคลองเลียบถนนวิภาวดีรังสิต ตลอดจนการบริหารจัดการขยะ และปรับปรุงสวนสมเด็จย่า 84 พรรษา



โครงการ “เทิด ด้วย ทำ: CENTRAL GREEN Project @ Vibhavadi” นำโดย สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการและประธานคณะที่ปรึกษา และพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา และประธานกรรมการ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี โดยมีดาราจิตอาสา โอ๊ด-สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์, ดิว The Star 9-นัทธพงศ์ พรมสิงห์, เอมี่-อาเมเรีย จาคอป, จอร์จ-ฐปนัท สัตยานุรักษ์ และเมทัล สุขขาว ร่วมกิจกรรม

นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวถึงโครงการ “เทิด ด้วย ทำ” ว่า เป็นการเรียนรู้สู่การลงมือทำ ตามแนวพระราชดำริ กลุ่มเซ็นทรัลขับเคลื่อนภาระกิจด้านสิ่งแวดล้อม โดยใช้องค์ความรู้จากทุกภาคส่วน นำมาพัฒนาและลงมือปฏิบัติ โดยโครงการนี้มีระยะเวลาการจัดกิจกรรมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2560 และดำเนินโครงการต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 ปีนำร่องด้วยกิจกรรมกลุ่มเซ็นทรัลรักษ์สิ่งแวดล้อม : CENTRAL GREEN Project@Vibhavadi”

ดำเนินกิจกรรมรอบบริเวณถนนวิภาวดี 6 จุด ได้แก่ ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว จัดแสดงนิทรรศการนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มเซ็นทรัลและภาคีเครือข่าย เช่น มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (3R) และ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ตัวอย่างความสำเร็จระบบการบำบัดน้ำเสีย จากเครือข่ายเยาวชนโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ เขตประเวศ, ชุมชนบ้านศาลาดิน อ.พุทธมลฑล จ.นครปฐม และ ชุมชนคลองลัดมะยมตั้งแสดงไว้ตลอดทั้งวัน, การทำเวิร์คชอป ถังดักไขมัน จากมูลนิธิอุทกพัฒน์จำนวน 100 ถัง, เก็บกวาดขยะ ทำความสะอาดถนน ทางเดินเท้า ป้ายรถเมล์ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

บริเวณคลองเลียบถนนวิภาวดีรังสิตทำความสะอาด กวาดเก็บขยะ และปลูกต้นไม้บริเวณริมคูคลอง เพื่อดูดซับมลพิษทางอากาศและสารพิษในดินเช่น พุทธรักษา ธูปฤๅษีกก แว่นแก้ว ฯลฯ จัดทำแพพืชน้ำบำบัด (Bio Box) และติดตั้งเครื่องเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 เครื่อง สวนสมเด็จย่า 84 พรรษาปรับระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์ ทำสวนหย่อม ปลูก “ต้นรวงผึ้ง” ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ทาสีรั้วน้ำพุ ศาลาที่นั่งพักภายใน และซุ้มการะเวก ทั้ง5 ซุ้ม ทำความสะอาดด้านหน้าสวน เช่น ป้ายรถเมล์ ทางเดินเท้า ติดป้ายประกาศกฎระเบียบการใช้สวนอันใหม่ ถนนด้านข้างศูนย์การค้าThe Oneทำการลอกท่อระบายน้ำ ดูดไขมัน, ทำความสะอาดถนน ทางเดินเท้า พื้นที่เกาะกลาง 

และถนนทางโค้งที่เชื่อมต่อจากพหลโยธินออกไปถนนวิภาวดี ถนนพหลโยธิน บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวและถนนหอวัง บริเวณด้านข้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าวและบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เก็บกวาดขยะ ทำความสะอาดถนน ทางเดินเท้า ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แจกถังดักไขมันให้ร้านค้าแผงลอย

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา และประธานกรรมการ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า การดำเนินงาน เทิด ด้วย ทำ เป็นหนึ่งในโครงการภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ริเริ่มขึ้นเพื่อร่วมกันฟื้นฟู พัฒนา บริหารจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างเครือข่ายเยาวชน และประชาชน เรียนรู้จากตัวอย่างความสำเร็จของการจัดการทรัพยากรน้ำ ตามแนวพระราชดำริ นำมาร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม 

และตระหนักถึงความสำคัญในการจัดการ ดิน น้ำ ป่า พร้อมทั้งถ่ายทอดความรู้จากตัวอย่างความสำเร็จใน 60 แกนนำเครือข่าย โดยเฉพาะเยาวชน จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง เป็นพลังขับเคลื่อนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเยาวชนและประชาชนจะมีส่วนร่วมในการรณรงค์ ฟื้นฟู และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาในชุมชนของตน

   

ด้าน ดร.วิฑูรย์  สิมะโชคดี ประธานกรรมการ มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (3R) เผยถึง การสนับสนุนองค์ความรู้ในด้านการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืนว่า “มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน จัดตั้งขึ้นโดยพระธรรมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก โดยดำริของดร.สุเมธ ตันติเวชกุล มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและให้ความรู้การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนและดูแลสิ่งแวดล้อม โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงนำ และหลัก 3R ซึ่งประกอบด้วย Reduce - การลดการใช้  Reuse - เพิ่มการใช้ซ้ำ และ Recycle - การนำกลับมาใช้ใหม่ ให้แก่ ภิกษุสามเณร ประชาชน  ภาครัฐ และภาคเอกชน  ส่งเสริมให้เกิดสังคมรีไซเคิลและอุตสาหกรรมสีเขียว 

มูลนิธิ 3R มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติในการร่วมเป็นภาคีเครือข่ายเข้าร่วมกิจกรรม “CENTRAL GREEN Project@Viphavadi” ในครั้งนี้ ซึ่งมูลนิธิจะได้นำองค์ความรู้ตามที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ร่วมขับเคลื่อนโครงการ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรให้บรรลุผลสำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไป”

นางสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ได้เล่าถึงการเป็นภาคีในการร่วมให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรม “CENTRAL GREEN Project@Vibhavadi" ครั้งนี้ว่า “กรุงเทพมหานคร ได้ให้การสนับสนุนยานพาหนะ ได้แก่ รถฉีดน้ำแรงดันสูง จำนวน 10 คัน รถบรรทุกน้ำ จำนวน 25 คัน รถดูดเลน จำนวน 2 คัน รถกระบะบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 10 คัน รถแบคโฮ จำนวน 1 คัน รถเก็บขนมูลฝอยแบบอัด 2 ตัน จำนวน 7 คัน รถดูดไขมัน จำนวน 2 คัน และระดมเจ้าหน้าที่ จำนวนทั้งสิ้น 490 คน ทั้งจากสำนักสิ่งแวดล้อม  สำนักการระบายน้ำ และกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ จำนวน 7 เขต ได้แก่ จตุจักร, สายไหม, บางซื่อ, บางเขน, หลักสี่, ดอนเมือง และลาดพร้าว ร่วมพัฒนาทำความสะอาดภายในสวนสมเด็จย่า และบริเวณโดยรอบ ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมถนนวิภาวดีรังสิต รวมถึงล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำถนนคู่ขนานวิภาวดีรังสิตบริเวณหลังสวนสมเด็จย่าระยะทาง 300 เมตร

นอกจากนั้น สำนักงานเขตจตุจักรได้ประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้า จัดระเบียบผู้ค้าบริเวณทางเท้าและถนนโดยรอบศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคัดแยกขยะ และการรณรงค์การเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ และเป็นมหานครแห่งสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”

   

   

คุณปณิตา สุขศรีดากุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า นอกจากโครงการ CENTRAL GREEN Projectจะจัดกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมรอบบริเวณ วิภาวดี-รังสิต-ลาดพร้าว แล้วกิจกรรมนี้ยังได้กระจายไปยังศูนย์การค้าของซีพีเอ็นสาขาอื่นๆแบ่งเป็น4 แห่งในกรุงเทพมหานคร คือ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ 

และอีก 12 สาขา 9 จังหวัด ได้แก่ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลแอร์พอร์ต เชียงใหม่, เซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก, เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช, เซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี,เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา, เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย,เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี และเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช รวมทั้งสิ้น 16 สาขา

สำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมของชมรมหน่วยงานย่านวิภาวดีรังสิต มีการดำเนินงาน ดังนี้ 1.การร่วมปรับปรุงสวนสมเด็จย่า ซึ่งจะเป็นโครงการในระยะยาว ภายใต้การดูแลของสำนักสิ่งแวดล้อม ที่มีนโยบายจะปรับปรุงสวนแห่งนี้ให้เป็นศูนย์รวมกิจกรรมนันทนาการอันก่อประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมและชุมชน 2.การร่วมสนับสนุน การปรับปรุงแผ่นป้ายประกาศของกรุงเทพมหานคร ให้เป็นป้ายถาวร โดยมีโลโก้ของชมรมฯ ร่วมสนับสนุน 3.การร่วมสนับสนุนติดตั้งเครื่องเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ในคลองเลียบถนนวิภาวดีรังสิต ด้านหน้าโรงเรียนหอวังโดยติดป้ายสนับสนุน โดยชมรมหน่วยงานย่านวิภาวดีรังสิต 4.การจัดพนักงานจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมฯ 5.การจัดกิจกรรมบริเวณคลอง ถนน และสะพานลอยด้านหน้าของแต่ละหน่วยงาน  

นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการและประธานคณะที่ปรึกษา บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวเสริมว่าวันนี้เป็นฤกษ์ดีที่ได้ทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน ปกติก็ทำอยู่แล้วแต่ไม่ได้ทำในวันเดียว หลักๆ คือ เรื่องของมลภาวะ โลกร้อน เราต้องการให้กรุงเทพฯ น่าอยู่  คือกรุงเทพฯ สวยงามอยู่แล้ว แต่ขาดความสะอาด โดยเฉพาะโลกร้อนที่ทุกคนพูดถึงวันนี้ เป็นเรื่องอันตราย

ผมเองก็เดินทางไปต่างประเทศในแต่ละแห่ง ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน คนรุ่นหนึ่งไม่ได้ทำไว้และไม่คิดว่าปัญหาจะเกิดขึ้นได้เร็วขนาดนี้ กิจกรรมวันนี้เราทำเป็นส่วนหนึ่งที่กลุ่มเซ็นทรัลโดยเฉพาะผมได้ทำมา 20-30 ปีมาแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องน้ำเสีย ที่ต้องกำจัดให้ดีจากโรงแรมที่เราทำอยู่ คูคลอง แต่ทั้งนี้คนเดียวคงทำไม่ได้ ต้องมีความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ผู้ที่อยู่ตามริมคลอง ริมคู ต้องร่วมกันทำ จึงจะเป็นได้ตามที่เราอยากจะได้เป็น

โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้บางอย่างที่จะช่วยให้คูคลองสะอาด ดูดซึมซับของสกปรก การทำสวน การทำความสะอาด โดยปลูกจิตสำนึกของพนักงานในเซ็นทรัลทุกแห่งให้รู้ว่า ถ้าคนละไม้คนละมือ เราเป็นผู้เริ่มก็จะมีผู้ตาม 

ต่างประเทศก็มีปัญหาเรื่องโลกร้อน ฤดูกาลที่ไม่เคยตรงเลย บางทีเอาเสื้อหนาวไปแต่ร้อน เป็นเรื่องที่เกิดจากการที่มนุษย์ได้ทำไปทั้งนั้น ก็ไม่สายเกินรอที่จะช่วยกัน ก็ขอให้สื่อช่วยกระจายเรื่องนี้ให้ทุกๆ คนทราบ เราต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน


นายสุทธิธรรม กล่าวถึงกิจกรรมในวันนี้หลักใหญ่คือ " ทำความสะอาดท้องถนน คู บำบัดน้ำเสีย มีวิธีการที่ทำให้ออกซิเจนขึ้นมา ใสขึ้น ปลูกพืชข้างคู ปลูกต้นไม้ในสวน ซึ่งทำมากว่านานแล้วที่สวนสมเด็จย่า หลังจากนี้จะมีหน่วยงานติดตามผลที่รับผิดชอบ คู คลอง ของโรงแรมก็จะดูแล ตอนนี้ทำพร้อมกันทั่วประเทศที่ทางเซ็นทรัลได้ไปมีธุรกิจอยู่ 

วันนี้ถือเป็นการนำร่อง แต่ในที่สุดคื ทำทั้งประเทศและเราอยากเป็นหนึ่งในผู้นำที่รับผิดชอบ โดยมีการดึงเครือข่าย ผู้ที่อยู่ตามคลอง ตามคู ต้องทำด้วยกัน โดยมีพันธมิตรที่หลายหน่วยงาน ทั้ง กทม. ปตท.เครือเซ็นทรัลทั้งหมด การรถไฟ

กิจกรรมนี้ถือเป็นหนึ่งในซีเอสอาร์ของบริษัท นอกจากนี้ก็มีเรื่องการศึกษาซึ่งเรามุ่งมั่นมาก อยากให้มีความเท่าเทียม จะได้เติบโตไปด้วยกัน รวมถึงเรื่องของศิลปวัฒนธรรม ทำนุบำรุงสถานที่ โบราณสถาน สถานที่สำคัญต่างๆ ก็เป็นสมบัติสำคัญ"