Update Newsการตลาดธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เดซติเนชั่น อีทส์ ส่ง ‘BIG BOY’ แฟรนไชส์แบรนด์ดังแดนมะกัน บุกตลาดเดลิเวอรี่ในไทย

กรุงเทพฯ -เดซติเนชั่น อีทส์ สำนักงานกรุงเทพ ประกาศความสำเร็จปักธงแฟรนไชส์ใหม่เสริมธุรกิร้านอาหารอเมริกันในไทยกว่า 30 ปี ในชื่อ ‘บิ๊กบอย’ รุกบุกตลาด เดลิเวอรี่ในกรุงเทพฯ ตามด้วย ซุ้มสะดวกซื้อ (Kiosk) และ รถขายอาหาร (Food Truck) สะดวกรวดเร็วเป็นมิตร โดยปรับตัวตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การบริโภคคนไทยในยุคนี้ ก่อนปูพรมขยายสู่ภูมิเอเชียต่อไป

นายแกรี่ เมอร์เรย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดซติเนชั่น อีทส์ เปิดเผยว่า “ทางกลุ่มธุรกิจได้ประกาศความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารอเมริกันในไทยกว่า 30 ปี เห็นโอกาสของธุรกิจร้านอาหารแฟรนไชส์อเมริกันในไทยยังเติบโตต่อเนื่อง จึงเซ็นสัญญาแบรนด์ใหม่ล่าสุด บิ๊กบอย (Big Boy) ได้รับสิทธิ์การบริหารร้านแฟรนไชส์ในภูมิภาคเอเชีย (Master License Agreement) โดยมีโมเดล 2 รูปแบบคือ ลงทุนเอง และหาพันธมิตรแฟรนไชส์ โดยตั้งเป้าหมายขยายสาขาให้ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ประกอบด้วย ไทย ออสเตรเลีย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ฟิลิปปินส์ และในประเทศอื่นที่มีโอกาสในภูมิภาคเอเชีย”



สำหรับ บิ๊กบอย ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นสัญลักษณ์ชาวอเมริกัน ที่ก่อตั้งในปี1936 มีเครื่องหมายการค้าเป็นเอกลักษณ์น่าจดจำ โลโก้เด็กผู้ชายใส่ชุดเอี๊ยมลายตารางสีแดงขาว ในมือถือแฮมเบอร์เกอร์  

ปัจจุบัน บิ๊กบอย เริ่มต้นเปิดให้บริการเดลิเวอรี่ ในกรุงเทพฯ จากนั้นจะมีหน้าร้านแบบคีออส (Kiosk) และรถบรรทุกเคลื่อนที่ (Food truck) ส่วนร้านอาหารเต็มรูปแบบจะเปิดตัวในต้นปี 2021

ทั้งนี้ กลุ่มคนรักแฮมเบอร์เกอร์ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ชื่นชอบบิ๊กบอย เพราะมีเอกลักษณ์น่าจดจำ โดยเฉพาะเมนู ‘Big Boy’s Signature American Cheeseburger’ มีส่วนผสมจาก เนื้อวัวพันธุ์ดี ชีสจากอเมริกัน มะเขือเทศ และขนมปังอบเนยคลาสสิคสีเหลือง หอม นุ่ม ราคา 169 บาท และเมนู เดอะ ซูเปอร์ บิ๊กบอย ‘Super Big Boy’ แซนวิชขนาดใหญ่รสคลาสสิค ราดซอสสูตรเฉพาะของร้าน.

นอกจากนี้ บิ๊กบอย ยังได้พัฒนาเมนูใหม่ให้สอดคล้องกับวิถีการบริโภคของไทย จึงได้เปิดตัวเมนูพิเศษที่มีรสชาติถูกปากคนไทย อาทิ ไก่ทอดกรอบรสเผ็ด (Thai Spiced Crispy Chicken), ปีกไก่ทอดน้ำปลา (Kai Tod Nam Pla Chicken Wings), ข้าวหน้าไก่กรอบราดซอส (Thai Sweet Chili Chicken Pops & Rice, Jaew Chicken Pops & Rice) และข้าวหน้าต้มยำไก่ป๊อบ (Tom Yum Chicken Pops & Rice).

“เรารู้สึกตื่นเต้น ที่นำแบรนด์ แฟรนไชส์แฮมเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดจากอเมริกา เข้ามาในเมืองไทย และขยายไปสู่ภูมิภาคเอเชีย โดยเริ่มต้นบริการแบบเดลิเวอรี่ และจะมีร้านอาหารเต็มรูปแบบเปิดตัวในต้นปี2021” แกรี่ เมอร์เรย์ กล่าวถึงแผนธุรกิจ



นายแกรี่ เมอร์เรย์ ยังกล่าวต่อว่า แบรนด์วางจุดยืนเป็น ‘ศูนย์กลางความสุขเพื่อครอบครัว’ ตัวแทนกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มองหาอาหารรสชาติดีมีคุณค่า และราคาเข้าถึงได้ จึงตกแต่งร้านด้วยบรรยากาศสนุกสนานและมีความเป็นมิตร.

โดยทุกประเทศที่ทางบริษัท เดซติเนชั่น อีทส์เข้าไปเปิดแฟรนไชส์จะนำแนวคิด (Concept) โมเดลธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และปรับสูตรอาหารให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ของผู้บริโภคคนเอเชีย โดยมีเมนูหลักๆ คือ ไก่ทอด (Fried Crispy Chicken), แฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger) และเครื่องดื่มไอศกรีมปั่นกับนม (Milk shake)

เดซติเนชั่น อีทส์ ถือเป็นธุรกิจที่มีการปรับตัวให้สอคดล้องวัฒนธรรมของทุกประเทศ ทั้งด้านรสชาติ และบรรยากาศตกแต่งร้าน ทำให้แบรนด์ระดับโลกเข้ามาอยู่ในใจคนไทย และคนเอเชียได้ในที่สุด.

ทางด้าน นายเทเมอร์ อัฟร์ (Tamer Afr) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิ๊กบอย เรสเตอร์รองท์ (Big Boy Restaurants) กล่าวว่า “เดซติเนชั่น อีทส์ เป็นบริษัทผู้นำทางด้าน การท่องเที่ยวและร้านอาหารมาหลายสิบปี อีกทั้งมีศักยภาพพร้อมในการส่งต่อคุณค่าอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลกสู่ผู้บริโภคในแถบเอเชีย ด้วยความชำนาญของทางบริษัทผนึกกับพันธมิตรธุรกิจที่เข้มแข็งอย่าง เดซติเนชั่น อีทส์ ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการปักธงแบรนด์ของเราที่มีเรื่องราวและประวัติยาวนาน อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินหน้าสานต่อวิสัยทัศน์ของการสร้างแบรนด์สู่เวทีอาหารระดับโลก”