Update Newsสังคมสุขภาพไลฟ์สไตล์

เตือน! อย่าหลงเชื่อแพทย์ที่อ้างตัวเองว่าเป็น “แพทย์วิทยากร” ทั้งที่คุณสมบัติไม่ถึง

ในยุคสมัยที่สถานเสริมความงามนั้นเกิดขึ้นใหม่กันแทบทุกวัน และเหล่าแพทย์ที่ทำด้านเสริมความงามนั้นมีอยู่กันอย่างมากมาย ยิ่งทำให้เราต้องมีการตรวจเช็คประวัติของแพทย์ รวมถึงฝีมือในการให้บริการ เพราะเราอาจจะตกเป็นเหยื่อของแพทย์ที่ไม่มีความสามารถมากพอก็ได้ นอกจากนี้แพทย์เสริมความงามด้วยกันเองยังต้องระวัง แพทย์ที่โฆษณาสวมรอยยกระดับตัวเองว่าเป็น “อาจารย์แพทย์-แพทย์วิทยากร-แพทย์ผู้สอน ผู้บรรยายให้ความรู้ทางด้านการเสริมความงาม” ทั้ง ๆ ที่คุณสมบัติของตัวเองนั้นไม่ถึง จึงอาจเป็นการส่งต่อความรู้ทางการแพทย์ในแบบผิดๆ 



ซึ่งอันที่จริงแล้วการที่จะแทนตัวเองว่า อาจารย์แพทย์ ได้นั้น จะต้องเป็นแพทย์ที่รับราชการทำงานในโรงเรียนแพทย์ต่างๆ เช่นโรงพยาบาลศิริราช หรือโรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นต้น ส่วนจะแทนตัวเองว่าแพทย์วิทยากร แพทย์ผู้สอน ครูแพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ หรือครูแพทย์ผู้สอนผ่าตัดความงามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูก เสริมหน้าอก ทำตา 2 ชั้น ได้นั้น จะต้องเคยถูกรับเชิญให้ไปบรรยายและสอนในหน่วยงาน หรือสถาบันทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ ไม่ใช่เป็นการรวมกลุ่มแพทย์ 4-5 คน แล้วฝึกสอนกันเอง แบบนี้ถือว่าไม่มีคุณสมบัติในการแทนตัวเองว่าแพทย์วิทยากรแต่อย่างใด 



โดยการที่แพทย์ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติที่ถูกต้อง แต่อ้างว่าตัวเองนั้นเป็นถึงระดับอาจารย์แพทย์ เป็นแพทย์วิทยากร แพทย์ผู้สอนแพทย์อื่น แล้วนำความรู้ที่มีไปเผยแพร่ต่อแบบไม่ถูกต้องตามหลักการ อาจจะเป็นการโฆษณาที่เกินจริง และทำให้ผิดกฎหมายทางการแพทย์ได้ อีกทั้งยังจะเป็นการส่งต่อข้อมูลผิดๆ ทำให้แพทย์ท่านอื่นได้รับการถ่ายทอดความรู้ที่ไม่ถูกต้อง อันอาจส่งผลให้การรักษาเกิดข้อผิดพลาดและส่งผลกระทบตามมากับคนไข้ได้ เช่นข่าวที่ได้ยินบ่อยครั้งว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด เกิดการอักเสบเนื้อตาย หรือผ่าตัดแล้วผิดพลาดทำให้เสียโฉม เป็นต้น



ทั้งนี้ทางทีมงานได้ไปขอความเห็นจาก นายแพทย์พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ผู้อำนวยการแพทย์ AIC Clinic ซึ่งเป็นแพทย์วิทยากร ตำแหน่ง Country Mentor Trainer หรือแพทย์ผู้สอนฉีดสารเติมเต็ม (Filler HA) ระดับประเทศ ของบริษัทกัลเดอร์มา ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายฟิลเลอร์รายใหญ่ของโลก และคุณหมอเองก็เคยได้รับเชิญไปบรรยาย และสอน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ อินโดนิเชีย เกาหลี ใต้หวัน จีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง มาตั้งแต่ปี 2013 แล้วนั้น ว่าการเป็นแพทย์วิทยากรได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติอะไร

“การที่จะแทนตัวเองได้ว่าเป็นแพทย์วิทยากร หรือแพทย์ผู้สอนทางด้านการฉีดสารเติมเต็มได้นั้น จะต้องมีคุณสมบัติที่จำเป็นนั่นก็คือมีประสบการณ์ในการฉีดสารเติมเต็มมามาก เป็นระดับหลายพันเคส แต่ถึงจะทำมาหลายพันเคสก็ยังไม่พอ ถ้าหากไม่มีการพัฒนาความรู้ทางการแพทย์ ก็ไม่สามารถจะแทนตัวเองว่าเป็นครูแพทย์ได้ อีกทั้งยังต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างดีทางด้านของกายวิภาคศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อต่อยอดและพัฒนาด้านการให้บริการให้กับผู้ที่เข้ามาฉีดสารเติมเต็มให้เห็นผลลัพธ์ได้ดี มีความปลอดภัยสูง ซึ่งอันที่จริงแพทย์วิทยากรด้านอื่น ๆ เช่นการผ่าตัดเสริมงามงามต่าง ๆ ก็ต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้เช่นกัน” 


“นอกจากนี้แพทย์จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในด้านศิลปะความงาม ในการตกแต่งและปรับรูปหน้า มีการอัพเดทความรู้ใหม่ๆ ทางด้านเทรนด์ความงาม รวมถึงวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ควบคู่กัน” 


และสิ่งสำคัญเลยในการที่จะแทนตัวเองว่าเป็นแพทย์วิทยากร หรือแพทย์ผู้สอนได้นั้นจะต้องมีความสามารถในการบรรยาย และพูดบนเวที เพื่อเผยแพร่ถ่ายทอดความรู้ของตัวเองที่มีสู่แพทย์ท่านอื่น ๆ ได้โดยถูกต้อง "