เที่ยวใต้สุดใจ วันที่ 3 #สุขทันทีที่เที่ยวนราธิวาส

นายกรัฐมนตรีและคณะ พบปะประชาชนในจังหวัดนราธิวาส ส่งท้ายทริป “เที่ยวใต้ สุดใจ” เดินหน้าผลักดันผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของจังหวัดนราธิวาส รองรับการท่องเที่ยวในอนาคต

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูง ออกเดินทางในกิจกรรม “เที่ยวใต้ สุดใจ” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ณ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อศึกษาศักยภาพและกำหนดนโยบายพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวแบบองค์รวม ทั้งในด้านศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยว บุคลากรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพัฒนานโยบายศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) คาดว่าการพัฒนาดังกล่าว จะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความเข้าใจ และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีในพื้นที่ปลายด้ามขวานของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน





 

 

 

 

 

 

 

โดยในวันที่สาม (29 กุมภาพันธ์ 2567) ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะฯ ลงพื้นที่ทำกิจกรรมในจังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะประชาชนและผู้นำชุมชน โดยเริ่มต้นการเดินทางด้วยการสักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล และกราบนมัสการพระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 ณ วัดเขากง ในอำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น เดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน ในอำเภอยี่งอ ในการนี้ ได้ชมการแสดงต้อนรับที่งดงาม อาทิ กลองกรือโต๊ะ ศิลปะการตีกลองเป็นทีม ที่มีท่วงทำนองสนุกสนาน และ ซิละ ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวอย่างหนึ่งของชาวไทยมุสลิม 

ต่อมา นายกรัฐมนตรีและคณะฯ ร่วมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของจังหวัดนราธิวาส ณ การจัดแสดง “นวัต...วัฒนธรรม” ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม” (Culture, Creativity, and Innovation) ในงานประกอบไปด้วยบูธที่หลากหลาย เช่น บูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าบาติก บูธหัตกรรมงานจักรสาน บูธแปรรูปอาหาร เครื่องดื่มและสมุนไพร บูธ Art Space บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในพื้นที่ และบูธศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น จากนั้น เข้าเยี่ยมชมห้องจัดแสดงพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัลกุร-อาน ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมคัมภีร์โบราณกับเอกสารทางประวัติศาสตร์อายุนับพันปี เพื่อรับชมวิดีทัศน์บรรยายสรุปความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ฯ ก่อนปิดท้ายด้วยการประชุมมอบนโยบาย

การลงพื้นที่ในครั้งนี้เผยให้เห็นว่า จังหวัดนราธิวาสมีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่รุ่มรวยหลากหลายและสวยงาม ของผู้คน เชื้อชาติและศาสนา ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์การท่องเที่ยวภาคใต้ที่น่าสนใจ โดยรัฐบาลพร้อมเดินหน้าสนับสนุนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ แก่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่า สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและเป็นมรดกอันล้ำค่า ที่สมควรแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่ และผลักดันเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวในแถบประเทศอาหรับ มลายู หรือผู้ที่สนใจ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย



#ครมสัญจร
#สุขทันทีที่เที่ยวนราธิวาส
#ททท