บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืน ดาวโจนส์ ประเภทกลุ่มดัชนีโลก (World Index) และ ประเภทดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) ประจำปี 2562 ในอันดับที่ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในกลุ่ม Beverages industry ทำให้ปีนี้ไทยเบฟได้รับคัดเลือกให้เป็น Industry Leader, DJSI World Member, และ DJSI Emerging Market โดย ไทยเบฟ ถือเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของอาเซียนเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับการประเมินให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอันดับที่สูงที่สุดของโลกต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน นำความภาคภูมิใจในระดับโลกมาสู่ภูมิภาคอาเซียนได้เป็นอย่างยิ่ง
เกี่ยวกับรายละเอียดดังกล่าว คุณโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง กล่าวว่า “Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI เป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของบริษัทชั้นนำระดับโลก จัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือของ S&P Dow Jones Indices และ RobecoSAM โดยเชิญบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ทั่วโลก เข้าร่วมการประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ครอบคลุม 3 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจระดับโลก รวมทั้งเป็นดัชนีที่กองทุนต่างๆ จากทั่วโลกใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงในการพิจารณาการลงทุน และมั่นใจว่าบริษัทที่ได้รับการรับรอง DJSI จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี และยั่งยืนให้กับผู้ลงทุนได้
สำหรับไทยเบฟการได้รับการคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม 2 ปีซ้อน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขับเคลื่อนองค์กรภายใต้วิสัยทัศน์ 2020 ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต ที่ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ไทยเบฟให้ความสำคัญเพื่อสร้างความยั่งยืน เราให้ความสำคัญตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ ตลอดจนการบริการจัดการซัพพลายเชน รวมถึงแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่มีกระบวนการการจัดการของเสียอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม ที่จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
การวางแผนหรือกลยุทธ์ในการดำเนินงานจะต้องสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน และอีกหนึ่งปัจจัยที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งคือการพัฒนาไปถึงเนื้อแท้ของการพัฒนากระบวนการภายในองค์กร เพราะเราเชื่อมั่นว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืน ต้องเกิดจากภายในองค์กร เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำมันจะตอบโจทย์ เพื่อนำไปปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานขององค์กรเรา เพื่อให้สามารถตอบสนองความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนของเราให้ได้
ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจในระดับโลก ที่นำมาสู่ภูมิภาคอาเซียนที่ ไทยเบฟได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีโลก (World Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) เป็นปีที่ 4 โดยในปีนี้ยังได้รับเลือกให้เป็น Industry Leader, DJSI World Member, และ DJSI Emerging Market ซึ่งมีเพียง 60 บริษัทระดับโลกจาก 60 ประเภทอุตสาหกรรม ที่จะได้รับการคัดเลือก อีกทั้งยังสามารถครองความเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทั้งหมดของอาเซียนเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับการประเมินให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอันดับที่สูงที่สุดของโลกต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน
ข้อดีของการเป็นสมาชิก DJSI คือการเรียนรู้การจัดการธุรกิจที่เป็นระบบมาก ๆ สิ่งที่สำคัญในการบริหารงานอย่างยั่งยืนเป็นข้อบังคับให้บริษัทเน้นเรื่องการโปร่งใสในการดำเนินงานของธุรกิจ และผู้ลงทุนสามารถเชื่อมั่นได้ว่าบริษัทที่มีนโยบายการบริหารบริษัทจัดการที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะสะท้อนถึงศักยภาพความแข็งแกร่งที่มีความมั่นคง และการเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มี DJSI ที่จะสามารถให้ความเชื่อมั่นได้มากกว่าบริษัททั่วไป
ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของไทยเบฟ และสะท้อนให้เห็นว่าไทยเบฟ มุ่งมั่นเพื่อการบรรลุวิสัยทัศน์ และพันธกิจขององค์กรที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำเครื่องดื่มครบวงจรของอาเซียน พร้อมจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ที่ใส่ใจด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก ไทยเบฟ ได้ก้าวเข้าสู่เป้าหมายความสำเร็จที่ตั้งไว้ในวิสัยทัศน์ 2020 อย่างชัดเจน และพร้อมที่จะเดินหน้ารุกเต็มกำลัง เพื่อครองความเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรของภูมิภาคอาเซียนได้อย่างยั่งยืน”
ทั้งหมดนี้ เป็นการตอกย้ำความพร้อมถึงศักยภาพทางธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจร และองค์กรแห่งความเป็นเลิศในทุกมิติของไทยเบฟ เพื่อตอบสนองความต้องการในทุกช่วงเวลาอันมีค่าของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างยั่งยืน สู่กลไกการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของการเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก
Post Views: 30