NUSA เตือนนักลงทุน ไม่หลงเชื่อในธุรกรรมอำพรางกับกรรมการเดิมที่ถูกปลดจากการเป็นตัวแทนนิติบุคคล พร้อมร้องกระทรวงพาณิชย์ เร่งรัดเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนให้เสร็จ
บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอแจ้งให้ทราบว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจการบริหารการจัดการในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้าของบริษัทฯ (“บริษัทในเครือ”) และบริษัทฯ ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในเครือ มิได้มีนโยบายที่จะจำหน่าย จ่าย โอน ตลอดจนให้เช่าช่วง หรือก่อภาระผูกพันใด ๆ ในทรัพย์สินใด ๆ ของบริษัทในเครือ โดยบริษัทฯ ได้เร่งทบทวนปรับปรุงแผนธุรกิจและแผนการดำเนินงานให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนนำกระบวนการบริหารงานที่เป็นสากลมาปรับใช้ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง อันจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นโดยรวม และนำความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้น นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแลกลับคืนมาโดยเร็ววัน
นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ย้ำเตือนนักลงทุนว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ออกประกาศแจ้งเตือนนักลงทุนข้างต้น ทำให้บริษัทฯ ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีการเจรจาเพื่อจะทำการเช่ากิจการ ทรัพย์สิน หรือให้สิทธิในการดำเนินการหรือขายทรัพย์สินสำคัญของบริษัท อาทิ ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่ และ พานาซี เมดิคอล เซ็นเตอร์ (โรงพยาบาลพานาซี) ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบอีกครั้งว่า บริษัทฯ ไม่มีนโยบายขาย หรือให้เช่าช่วงกลุ่มธุรกิจดังกล่าว โดยทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของกรรมการเดิมของบริษัทในเครือ ที่ถูกปลดจากการเป็นตัวแทนนิติบุคคลแล้วโดยมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อย และอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงรายชื่อทางทะเบียน ซึ่งถือว่าอำนาจกรรมการในฐานะที่เป็นตัวแทนของผู้ถือหุ้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ตั้งแต่วันที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยในเครือมีมติเปลี่ยนแปลงกรรมการ
อนึ่ง เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา นายประพันธ์ เย็นสุข (คนกลาง) ทนายความรับมอบอำนาจจากบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นหนังสือต่อนายประมวล พงศ์ถาวราเดช (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้นายทะเบียน ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งรัดให้มีการจดทะเบียนตามคำขอจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยเร็วที่สุด เพื่อยับยั้งความเสียหายจากกรรมการที่ถูกถอดถอนมีพฤติการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยรวม ส่งผลให้บริษัทฯ เกิดความเสียหายหลายด้าน และขัดขวางการเดินหน้าตามแผนธุรกิจของบริษัทฯ พร้อมทั้งขอเตือนมิให้นักลงทุนหลงเชื่อทำธุรกรรมหรือซื้อที่ดินหรือทรัพย์สินต่าง ๆ ของบริษัทในเครือจากกลุ่มกรรมการชุดเก่าดังกล่าว โดยบริษัทฯ ถือว่า เป็นการกระทำโดยไม่ชอบ และขอสงวนสิทธิเอาทรัพย์คืน โดยไม่จ่ายค่าเสียหาย รวมทั้งจะฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญากับบุคคลหรือบริษัทใดที่เข้ามามีส่วนร่วม