ททท.ชวนเฟี๊ยว แหล่งเที่ยว @ “ประจวบ…ย๊าว…ยาว”
เมื่อวันที่ 27-29 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง นำโดย ผอ.อัครวิชย์ เทพาสิต ผอ.อาชวันต์ กงกะนันทน์ ผอ.ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นำคณะสื่อมวลชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวร่วมห้าสิบกว่าชีวิต เพื่อเดินทางไปสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวกับกิจกรรม Mega Fam Trip เพื่อตอกย้ำคำพูดที่ว่า … ความสุขง่าย ๆ หาได้ที่ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมค้นหาแหล่งเที่ยวเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ
… จะสุขขนาดไหน …. ร่วมเดินทางกันเลย …
Day 1
วัดอ่าวน้อย
… เช้าตรู่ของวันที่ 27 สิงหาคม 2567 รถตู้ 8 คัน เตรียมพร้อมด้านหน้าอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ หลังเช็คชื่อเสร็จก็ต้องถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกก่อนออกเดินทาง
และแล้วก็ได้เวลาล้อหมุน นำพาขบวนรถตู้ มุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853925_0-1024x565.jpg)
โดยจุดแรกที่แวะทักทายจังหวัดกัน คือ วัดอ่าวน้อย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอ่าวน้อย ตำบลอ่าวน้อย ที่นี่โดดเด่นด้านความงดงามของอุโบสถไม้สัก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวจากเมียนมา ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล มีภาพวาดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนารอบผนังโบสถ์และมีรูปปั้นพญานาคล้อมรอบอุโบสถ
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853940_0-1024x521.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853939_0-1-1024x654.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853935_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853937_0-1024x548.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853934_0-1024x537.jpg)
ส่วนฝั่งตรงข้ามบนภูเขาด้านติดทะเลอ่าวน้อย จะมีถ้ำพระนอน ซึ่งหากจะขึ้นไปสักการะก็เดินขึ้นไปตามขั้นบันไดราว 10-15 นาที ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ศิลปะร่วมสมัยอู่ทอง-รัตนโกสินทร์ ห่มจีวรเหลืองลักษณะเดียวกันเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามและหาชมได้ยาก ในอดีตถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่ชาวเรือมักเข้ามาอาศัยหลบพายุฝนอีกด้วย
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854123-1024x632.jpg)
.. คณะของเราบางส่วนเลือกจะขึ้นไปสักการะองค์พระ ขณะที่บางส่วนก็เลือกที่จะเดินเล่น ถ่ายรูปชื่นชมวิว ทิววิถีของชาวประมง กับภาพของเรือหาปลาจำนวนมากตรงหน้าที่จอดนิ่งสนิท หลังทะเลยามค่ำคืน สีสันตัดกับฟ้าคราม… น่ามอง
“ขออนุญาตนั่งกาบเรือนะคะน้า” หนึ่งในผู้ร่วมทางที่เลือกชื่นชมวิวอยู่ด้านล่างตะโกนขออนุญาตคุณลุงชาวเล เจ้าของเรือประมง
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853933_0-1024x591.jpg)
“ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะมากัน ไม่งั้นผมเอาปูมาขายละ” ฮั่นแน่.. คุณลุงชาวเลเจ้าของเรือประมงตรงหน้ากล่าว ใบหน้าเปื้อนยิ้มเห็นฟันขาวจั๊วะเป็นการเชิญชวน
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853929_0-1024x791.jpg)
“แต่ไม่ทันแล้ว ขายหมดตั้งแต่เช้า” แหมๆ มีบลั๊ฟซะด้วย
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853932_0-1024x538.jpg)
ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ (Prachuap Khiri Khan City Pillar Shrine)
หลังจากทานอาหารมื้อแรกกันที่ อ่าวน้อยซีฟู้ด ก็เดินทางกันต่อไปยัง ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ถนนสละชีพ ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด เป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองประจวบคีรีขันธ์ และยังเป็นศาลหลักเมืองที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853924-1024x657.jpg)
ที่นี่ คุณสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะผู้ดูแลศาลหลักเมืองและผู้บริหารของเมือง ให้การต้อนรับคณะของเราอย่างอบอุ่น พร้อมกับเตรียมข้อมูลประวัติความเป็นมาของศาลหลักเมืองให้ผู้มาเยือนได้รับรู้ถึงความสำคัญของสถานที่
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853922_0-1024x546.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854851.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853920_0.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853921_0-1024x661.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853916_0-1024x505.jpg)
โดยศาลแห่งนี้ ออกแบบเป็นศิลปะแบบลพบุรี มีจตุรมุขยอดปรางค์ 9 ชั้นตามแบบสยามลพบุรี ชั้นสูงสุดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและชั้นที่เหลือประดิษฐานองค์เทพต่าง ๆ ส่วนหน้าบันแรกนั้น เป็นรูปรอยตราพญาราหูอมจันทร์ และหน้าบันที่เหลือประดิษฐานองค์เทพล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วสองชั้น
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853923_0-1024x652.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853907_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853906_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853909_0-1024x768.jpg)
องค์หลักเมืองมีนามว่า “จตุโชค” ทำจากไม้ตะเคียน ส่วนยอดแกะเป็นรูป 4 เศียร 4 พักตร์ ศิลปะศรีวิชัย และลงรักปิดทองด้วยอัญมณีทั้งองค์ ศาลหลักเมืองแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในสมัย ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในขณะนั้น และวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2536 ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์เป็นประธานศาลหลักเมืองแห่งนี้
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853904_0-1024x683.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853912_0-1018x1024.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853913_0-991x1024.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853915_0-1024x768.jpg)
คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์
หลังจากสักการะศาลหลักเมืองเป็นสิริมงคลแก่คณะกันแล้วก็เริ่มเดินทางกันต่อ คราวนี้ไปยังพื้นที่ที่มีการร่อนทองแถบบางสะพาน ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีแหล่งร่อนทองหลายแห่ง แต่ที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งร่อนทองแล้ว ยังพัฒนาสถานที่ผืนดินแห่งนี้ให้เป็นที่กางเต๊นท์ และบริการร่อนทองพร้อมกับเปิดร้านกาแฟเล็กๆ รองรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเข้ามาสัมผัสกับชุมชนวิถีในอดีตด้วย บริหารโดย คุณพัชรินทร์ สุขสุรัตน์ หรือแอปเปิ้ล เจ้าของคาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ อดีตพนักงานแบงค์ที่ผันตัวเองมาเริ่มต้นธุรกิจในบ้านเกิด
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853882_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854857-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854858-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853885_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853903_0-1024x592.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853888_0-1024x675.jpg)
จากข้อมูลตำนานการร่อนทอง… เล่ากันต่อมาว่า มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบรมโกศ ปี 2289 ผู้ตั้งเมืองกุยได้ส่งทองร่อนหนัก 3 ตำลึง ถวายพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์จึงเกณฑ์ไพร่จำนวน 2,000 กว่าคน ไปร่อนทองที่บางสะพานเป็นเวลาปีเศษ ได้ทองคำหนัก 90 ชั่งเศษ คิดเป็นน้ำหนัก 54 กิโลกรัม หรือ 3,600 บาทในสมัยนั้น จากนั้นนำทองทั้งหมดไปแผ่เป็นทองแผ่นใหญ่หุ้มยอดมณฑป พระพุทธบาทสระบุรี
สำหรับคุณสมบัติของทองบางสะพานหรือทองบางตะพานมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘ทองนพคุณ’ หรือ ‘นพคุณเนื้อเก้า’ เป็นทองที่พบในธรรมชาติ ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องถลุงจะเห็นเป็น ‘Nuggest’
“เตรียมอุปกรณ์ร่อนทองเอาไว้ทางนี้เลยคะ” คุณแอปเปิ้ล บอกกับคณะหลังจากกล่าวต้อนรับและบอกเล่าถึงความเป็นมาของ “คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์”
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853900_0-1024x523.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853899_0-1024x533.jpg)
ที่มุมใกล้ริมฝั่งคลอง เจ้าหน้าที่เตรียมดินสำหรับร่อนซึ่งเป็นดินที่ถูกขุดขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์การร่อนทอง
“วิธีร่อน แบบนี้นะคะ” เจ้าของแคมป์คนเดิม เดินลงมาชี้แนะ ให้กับนักท่องเที่ยว ที่ต่างขะมักเขม้นกับการเริ่มร่อนทอง สำหรับการมาร่อนทอง เพียงแค่คุณเตรียมชุด เป็นกางเกงขาสั้น เท่านั้น เรียกว่ามาแต่ตัว อื่นๆ ที่นี่เตรียมไว้ให้ทั้งหมด
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853894_0-1024x574.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853895_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853892_0-1024x797.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853891_0-1024x662.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853897_0-1024x694.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854852-1024x541.jpg)
และเมื่อการร่อนทองผ่านไปสักระยะ เราก็ได้ยินเสียง เฮ
“ได้แล้วครับ เย้ !!!….” “ต้น” สื่อมวลชนหนึ่งในคณะเดินทางประสบความสำเร็จกับการเสียเหงื่อท่วมกาย แต่ได้เห็นทองในภาชนะที่ร่อนขึ้นมาแล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ทั้งที่เพิ่งจะบ่นปวดหลัง
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854853-1024x717.jpg)
ขณะที่อีกหนึ่งสาว เดินยิ้มแก้มปริ พร้อมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากถูกใจกับทองที่ร่อนมาได้
“เล็กและบางมาก ตอนแรกไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า ? พอดีพี่ๆ เขาบอกว่าใช่ แต่…จะปลิวลมมั๊ยคะเนี่ย อย่าหายใจแรงนะคะ 555”
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งพี่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ร่วมเดินทางก็ได้มาเหมือนกัน แต่ที่เด็ดกว่าคือ
“ท่านใดร่อนทองได้ ต้องมาเต้นโชว์ท่าร่อนให้ดูกันด้วยนะคะ”
และแล้วเพลง “เมล่อน… เมล่อน… เลย” ก็เริ่มขึ้น
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853884_0-1-1024x486.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853883_0-1024x478.jpg)
แต่หากใครที่ไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้โชว์ท่าร่อน แต่อยากได้ทองนพคุณไว้ครอบครอง ทางคุณแอปเปิ้ลก็มีให้บริการ โดยเลี่ยมใส่กรอบเอาไว้ให้สำหรับการบูชา เนื่องจากเป็นทองนพคุณ สนนราคาก็ไม่แพง ส่วนจะเท่าไหร่ หรืออย่างไรสามารถติดตามได้ทางเพจ คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 099 702 8068
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853887_0-1024x701.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853886_0-1024x649.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853901_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853902_0-1.jpg)
หลังจากนั้นปิดทริปวันแรกกันด้วย ร้านอาหารหนูโภชนา ก่อนจะเข้าพักผ่อนกันที่ บ้านกรูด อคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา โดยมี คุณ อัจจิมา โชคกิจการ MD บ้านกรูด อคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปาให้การต้อนรับ
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/852240_0-1024x560.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853871_0-1024x662.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/852231_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853867_0-1024x653.jpg)
Day 2
วัดทางสาย
เริ่มเช้าวันใหม่ เดินทางกันต่อไปสักการะ พระพุทธกิติสิริชัย ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปที่ทางคณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้านสร้างขึ้นถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853866_0-1024x632.jpg)
โดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประธานถวายนามว่า “พระพุทธกิติสิริชัย” ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าบนยอดเขาธงชัย เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางสมาธิแบบคันธาระ ศิลปะอินเดีย ลักษณะประทับขัดสมาธิดอกบัว หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853865_0-1024x720.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853864_0-1024x713.jpg)
ใกล้กัน เป็นทางขึ้นสู่ วัดทางสาย วัดสวย ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวสวยห้ามพลาด
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853863_0-1024x525.jpg)
และไฮไลท์คือ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่ในหลวงร.9 ทรงพระราชทานชื่อให้ เป็นสถาปัตยกรรมไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อพระมหากษัตริย์ โดยไม่ใช้เงินของทางราชการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลโดยเฉพาะในวโรกาสครองราชย์ครบรอบ 50 ปี โดยเจดีย์ทรงระฆังนี้ จะตั้งอยู่บนฐานไพที รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีอาคารสูง 5 ชั้น ที่หมายถึง การครองราชย์ครบ 50 ปี หรือมีความหมายถึงขันธ์ 5 และมีเจดีย์หมู่ 9 องค์ ที่หมายถึงวัดประจำรัชกาลที่ 9
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853856_0-1024x683.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853853_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853854_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853852_0-1024x751.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/846623_0-1024x768.jpg)
พิกัด : https://goo.gl/maps/KyUU8qooBH4Ypmzu6
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853851_0-1024x647.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853847_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/846639_0-1024x905.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/846640_0-1022x1024.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853850_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853858_0-977x1024.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853861_0-1024x768.jpg)
วัดเขาถ้ำม้าร้อง (Wat Khao Tham Ma Rong)
หลังจากสักการะองค์หลวงพ่อใหญ่กันแล้ว คณะเราก็เดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ วัดเขาถ้ำม้าร้อง
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854833-1024x677.jpg)
โดยนัดหมายรวมตัวกันที่ ศาลาประชาคมบ้านม้าร้อง ซึ่งเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เนื้อที่กว้างขวางจอดรถสะดวกสบาย
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854834-1024x768.jpg)
วันนี้ นายอำเภอ “สุทิน ประเสริฐศักดิ์” แห่งบ้านม้าร้อง และชาวชุมชนท่องเที่ยวม้าร้องซิตี้หรือบ้านม้าร้อง ร่วมกันต้อนรับขับสู้ทั้งอาหารคาวหวาน กาแฟ และผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านผลิตมาจำหน่ายด้วยตัวเอง นอกจากจะจัดอาหารพื้นถิ่นแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นใบเหลียงผัดไข่ คั่วเคย โดยเฉพาะแกงไก่เหมงมะพร้าว อาหารพื้นบ้านที่ใช้ผลมะพร้าวอ่อน(ซึ่งยังไม่สร้างเนื้อมะพร้าว) นำมาแกงไก่ใส่กะทิ อร่อยเลิศจนต้องขอเพิ่ม
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853836_0-1024x768.jpg)
ยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนเช่นไข่เค็มสมุนไพรบ้านม้าร้อง หมวกถัก น้ำผึ้งป่า บาล์มสมุนไพร น้ำยาอเนกประสงค์ ส่วนด้านการท่องเที่ยวก็มีกิจกรรมเช่น มีรถซาเล้งพานำชมสวนป่าชุมชน มีนำเที่ยวถ้ำม้าร้อง มีฐานผึ้งโพรง กิจกรรมทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ต่างๆ เหล่านี้สามารถสอบถามได้ที่ คุณประวิทย์ รัตนพงศ์ 081 292 8141
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853838_0-1024x636.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853837_0-1024x608.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853793_0-1024x599.jpg)
และแล้วก็ได้เวลา ขึ้นสู่วัดเขาถ้ำม้าร้อง ตื่นเต้น ๆ ด้วยเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ที่แห่งนี้มีความสวยงามของหินงอก หินย้อย บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และหินย้อยที่รูปร่างลักษณะคล้ายหัวม้าอยู่ภายในถ้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อ ถ้ำม้าร้อง
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853830_0-1024x589.jpg)
ที่วัดแห่งนี้เป็นที่พักสงฆ์มาตั้งแต่สมัยชาวศรีลังกาและชาวอินเดียเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในไทยและพม่า ใช้เป็นที่พักพิง ต่อมาในรัชสมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ออกปราบโจรตามหัวเมืองเมื่อราว 2385 ได้นำทัพมาพักที่หนองหัดไทย ปรากฏว่าม้าของท่านหายไปแต่หาไม่พบ ได้ยินแต่เสียงม้าร้อง จึงเรียกภูเขานี้ว่า เขาถ้ำม้าร้อง
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853829_0-1024x527.jpg)
เป็นไง… แค่เรื่องราวก็น่าสนใจแล้วใช่มั๊ยล่ะ
ที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอีกแห่งหนึ่ง ภายในถ้ำด้านหนึ่งเป็นที่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ จำนวนมาก เรียงรายลดหลั่นภายใต้การสาดแสงจากโคมไฟ
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/847252_0-1024x571.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853815_0-1024x576.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853811_0-1024x759.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853823_0-1024x596.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853809_0-1024x667.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853795_0-1024x563.jpg)
ขณะที่บนเพดานถ้ำแลเห็นค้างคาวจำนวนมาก เกาะหัวห้อย สยายปีกผับ ๆ อวดโฉมให้ผู้มาเยือนได้ยลแบบไม่ยี่หร่ะต่อสายตา แต่บางคนอาจจะโชคดีได้ขี้ค้างคาวหล่นใส่เป็นสิริมงคลเพิ่มเติมก็เป็นได้
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/847324_0-1024x507.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853813_0-1024x478.jpg)
บริเวณตรงกลางโถงถ้ำพบโพรงปล่องขนาดกว้างราวเมตรกว่า ทำให้แสงลอดลงมาตามทางสวยงาม เดินถัดขึ้นไปนิดเดียวก็จะพบกับหินย้อยที่มีรูปร่างคล้ายหัวม้าและมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่นำไปใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เมื่อมีพิธีสำคัญ ๆ ทางวัดจะจัดพิธีตักน้ำทิพย์เพื่อนำไปถวายแด่ในหลวง เช่นงานพิธีครบรอบ 60 พรรษา และ 72 พรรษา ที่สำคัญน้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไม่เคยเหือดแห้ง
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853796_0-1024x607.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854826.jpg)
“ใครเห็นบ้างมีหัวกี่หัว” พี่ร่วมทางคนหนึ่งเอ่ยถาม
บ้างก็ว่า… เห็นสอง บ้างก็…สาม บ้างก็…สี่ ขึ้นอยู่กับจินตนาการของผู้มาเยือน แต่ที่ชัด ๆ คือเราเห็นหินย้อยที่ดูแล้วคล้ายกับหัวม้า 3 หัว ขณะที่บางคนบอกว่ามีถึงหินย้อยลักษณะหัวม้าให้เห็นถึงห้าหัว
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854827-1024x652.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854829-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853798_0-1024x478.jpg)
“ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆ เพียงแต่ไม่ควรจะมาเกินห้าโมงเย็น เพราะทางวัดจะปิดไฟ มืดไม่สะดวก” เจ้าหน้าที่บอกกับเรา
บอกเลยว่า .. ถ้ำแห่งนี้ถือว่า อะเมซิ่งอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ แต่หากจะเข้าไปก็ควรจะจุดธูปบอกกล่าวกันก่อน อย่างน้อยก็อุ่นใจไปครึ่งหนึ่ง และเมื่อเข้าสู่ภายใน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นที่ถือศีลของพระสงฆ์ก็ควรเคารพสถานที่ ไม่กระทำการใดอันเป็นการลบหลู่หรือไปหยิบจับสิ่งใดที่ไม่ควร
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854828.jpg)
พิกัด https://g.co/kgs/HmjHFBC
ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด
หลังจากเมื่อวานเราไปเมล่อน เมล่อนกัน วันนี้ได้เดินทางยังศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ที่นี่มี หนุ่มโจ้ –จิรฐกรณ์ อิสระพาณิชย์ ชาวอำเภอบางสะพาน ที่หลงใหลเรื่องราวของทองบางสะพานมานานหลายปี พร้อมกับเริ่มสะสมทองและศึกษาความเป็นมา
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853783_0-1024x567.jpg)
โดยปรับพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่ ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด” มีการนำทองบางสะพานในรูปแบบต่างๆ ทั้งทองผง-ทองเกล็ด-ทองเม็ดและทองอมหิน พร้อมข้อมูลที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของทองบางสะพานมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับทองจำหน่ายให้ผู้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย หากสนใจสอบถามได้ที่โทร 087 556 5697
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853773_0-1024x638.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853770_0-1024x599.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853772_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853774_0-1024x605.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853777_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853780_0-1024x591.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853778_0-1024x559.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853779_0-1024x603.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853767_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853766_0-1024x558.jpg)
วัดกุยบุรี ( Wat Kuiburi )
ด้วยเวลาที่มีไม่มากนัก คณะของเราเริ่มเดินทางกันต่อไปยัง วัดกุยบุรี ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่สวยงาม และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นอย่างมาก
วัดกุยบุรี เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พร้อมกับการสร้างเมืองกุยบุรี เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจในสมัยนั้น ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชน เดิมชื่อว่าวัดกุย ตั้งอยู่ในอำเภอกุยบุรีติดกับแม่น้ำกุยบุรี
ชาวเมืองให้ความเลื่อมใสศรัทธา โดยเฉพาะอดีตเจ้าอาวาสวัดกุยบุรี หลวงพ่อมากหรือบุญมาก หรือชาวมักเรียกว่าท่านว่า “หลวงพ่อในกุฏิ” เนื่องจากเมื่อท่านว่างเว้นจากภารกิจต่างๆของทางวัดแล้ว จะนั่งบำเพ็ญภาวนาเป็นประจำ
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853711_0.jpg)
เล่ากันว่าบางครั้งจะเข้าสมาธิวิปัสสนาอยู่แต่ในกุฏิตลอด 7 วันบ้าง 15 วันบ้าง โดยจะไม่ลุกและออกจากกุฏิไปไหนเลย ด้วยเหตุอันนี้เอง จึงได้มีคำเรียกท่านอีกคำหนึ่งว่า “หลวงพ่อในกุฏิ“
หลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้เคร่งครัดในด้านวิปัสสนากัมมัฎฐาน จนทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าหลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้มีวาจาสิทธิและมีวิชาอาคมแกร่งกล้า เป็นผู้มีเมตตาจิต ช่วยเหลืออนุเคราะห์และสงเคราะห์กับคนทุกเพศ ทุกวัย เป็นที่พึ่งอาศัยของคนทั้งหลาย
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853712_0-1024x676.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853716_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853720_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853714_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853725_0-1024x478.jpg)
หลังจากหลวงพ่อในกุฏิได้มรณภาพไป ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างรูปเหมือนของท่านและบรรจุอัฐิของท่านไว้ภายใน ให้ชาวบ้านได้ระลึกถึงและสักการะบูชา…
หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังที่พักในอำเภอหัวหิน ที่ โรงแรมเวล หัวหิน WHALE HUAHIN โดย คุณธีระเมฆ เศียรศิลาเจริญ หรือคุณบุ๊ค MD ให้การต้อนรับ
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/847764_0-1024x616.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853666_0-1024x674.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853640_0-1024x555.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853644_0-1024x635.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853637_0-1024x763.jpg)
ก่อนจะไปรับประทานอาหารค่ำกันที่ ชิมวิว ซีฟู้ด ชะอำ- หัวหิน ที่ที่ทางททท.ภูมิภาคภาคกลางและททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853647_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/854859-1024x684.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853657_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/847967_0-1024x768.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853654_0-1024x768.jpg)
DAY 3
วนอุทยานปราณบุรี (Pran Buri Forest)
ย่างเข้าสู่วันที่สามของการร่วมทริป สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว Mega Fam Trip กันแล้ว วันนี้ก่อนกลับกรุงเทพมหานคร ทางททท.ได้พาเราไปชมพื้นที่ป่าโกงกางขนาดใหญ่
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853634_0-1024x507.jpg)
ที่นี่ที่ วนอุทยานปราณบุรี (Pran Buri Forest) เป็นโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่มีเส้นทางให้เดินศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นระยะทางยาวกว่า 1,000 เมตร
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853629_0-1024x527.jpg)
ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 50 ปีก่อน ป่าชายเลนด้านทิศเหนือของแม่น้ำปราณบุรี ได้ถูกบุกรุกทำลายกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม ในปี พ.ศ. 2517 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร บริเวณหมู่บ้านปากน้ำปราณบุรี ทรงมีความสนพระทัยเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ป่าชายเลน และทรงมีพระราชเสาวนีย์สนับสนุนให้มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ บริเวณชายทะเลปากน้ำปราณบุรี เพื่อพัฒนาเป็นป่าอเนกประโยชน์ผลิตไม้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ป้องกันลมพายุ และเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงอนุบาลสัตว์น้ำ
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853621_0-1024x629.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/849872_0-1024x532.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853630_0-1024x719.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853627_0-1-1024x478.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853624_0-1024x673.jpg)
กรมป่าไม้ จึงได้จัดทำ โครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น ในปี 2517 ครอบคลุมพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า คลองคอย ประกอบด้วย ป่าชายเลน และมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่ป่า ซึ่งภายหลังได้มีการจัดตั้งเป็น “วนอุทยานปราณบุรี” เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2525
…. ณ ปัจจุบัน ผืนป่าโกงกางที่งดงามแห่งนี้ ถือแหล่งเรียนรู้ด้านระบบนิเวศน์ป่าชายเลนอันสำคัญ ที่เป็นมรดกส่งต่อให้กับลูกหลานคนไทยได้ร่วมกันสืบทอดเจตนารมณ์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรด้านสิ่งแวดล้อมที่ทรงคุณค่านี้ต่อไปตราบนานเท่านาน
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853628_0-1-1024x639.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853619_0-1024x598.jpg)
![](https://www.btripnews.net/wp-content/uploads/2024/09/853626_0-1024x544.jpg)
“ประจวบคีรีขันธ์ เมืองมหัศจรรย์สามอ่าวของท้องทะเลอ่าวไทย เป็นจังหวัดตอนใต้สุดของภาคกลาง มีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้กว่า 212 กิโลเมตรจนได้ชื่อว่า ประจวบย๊าวยาว แต่ยังคงมีสถานที่น่าสนใจและสวยงามซุกซ่อนเอาไว้รอให้นักท่องเที่ยวได้มาค้นหาและรับรู้ว่าประจวบคีรีขันธ์ มีอะไรให้เที่ยว ให้ชม ให้อร่อย”
ข้อมูลจากททท.แนะนำการท่องเที่ยวของทริป Mega Fam Trip ครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากปราศจากซึ่งผู้มาเยือน … ผู้มาร่วมค้นหา… ผู้มาร่วมติดตามรับรู้ความเป็นเมืองมหัศจรรย์ประจวบคีรีขันธ์ ….แล้วคุณล่ะพร้อมหรือยัง ? กับการตามรอย ทริป “ประจวบ…ย๊าว…ยาว”
_______________________
นาริฐา จ้อยเอม เรื่อง / ภาพ
ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ผอ.อัครวิชย์ เทพาสิต
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ผอ.อาชวันต์ กงกะนันทน์
ชาวบ้านชุมชนวัดเขาม้าร้อง นายอำเภอ สุทิน ประเสริฐศักดิ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมคิด จันทมฤก
รองผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ
ทีมงาน ททท. น้องแพค น้องเก้า น้องตั๊กและอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม