พม. ร่วมมือเครือข่ายสังคมสงเคราะห์ จัดงาน “World Social Work Day 2025”
นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านสังคมสงเคราะห์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจัดงานวันสังคมสงเคราะห์โลก ประจำปี 2568 โดยได้รับเกียรติจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานผ่านวีดิทัศน์
ซึ่งมีนางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ รองปลัดกระทรวงฯ กล่าวต้อนรับ และมี Ms. Michaela Friberg-Storey ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNRC) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ความก้าวหน้าด้านการพัฒนาสังคมและความท้าทายทางสังคมในปัจจุบันและอนาคต: แรงผลักดันในการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี พ.ศ. 2573 (2030)” Prof. Machiko OHARA ประธานสมาพันธ์นักสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (IFSW Asia-Pacific) Prof. Antoinette Lombard ประธานสมาคมสถาบันการศึกษาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ระหว่างประเทศ (IASSW) และ Dr. Sergei Zelenev ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ (ICSW) กล่าวต้อนรับ ณ Conference Room 3 ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร
การเฉลิมฉลองวันสังคมสงเคราะห์โลกครั้งนี้ จัดขึ้นในรูปแบบ “การประชุมวิชาการสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2568 และระดับภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ครั้งที่ 8” ถือเป็นการนำเสนอต่อภูมิภาคให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการส่งเสริมและพัฒนางานสังคมสงเคราะห์ผ่านบริการ กิจกรรม และโครงการด้านสังคมสงเคราะห์ สวัสดิการสังคม และการพัฒนาต่าง ๆ รวมถึงเครือข่ายการขับเคลื่อนงานสังคมสงเคราะห์ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน การประชุมนี้จึงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนทัศนะเชิงวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมสงเคราะห์และการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูมิภาคและประเทศไทย ตามแนวคิด “เสริมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างคนทุกช่วงวัยเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน” (Strengthening Intergenerational Solidarity for Enduring Wellbeing) ผู้ทรงคุณวุฒิเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการแนวคิดต่าง ๆ ในการทำงานสังคมสงเคราะห์ งานสังคมสงเคราะห์เป็นงานเสริมพลังแก่บุคคล ครอบครัว ชุมชน ให้มีความสามารถในการฟื้นฟูและรับมือกับสถานการณ์และความท้าทายที่เกิดขึ้น โดยย้ำว่าความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนทุกช่วงวัย มีส่วนสัมพันธ์และสอดคล้องกับ “ข้อตกลงเพื่ออนาคต” สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและรับมือกับความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดในอนาคต (Pact for the Future)
นอกจากนี้ ในระดับภูมิภาคยังชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาศักยภาพของนักสังคมสงเคราะห์เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นประเด็นร่วมในเรื่องการพัฒนาผู้ปฏิบัติงานด้านสังคม (Social Service Workforce) ซึ่งการพัฒนาในบริบทนี้ครอบคลุม
การสนับสนุน การพัฒนาหรือเสริมสร้างระบบเพื่อปรับปรุง และรักษาประสิทธิภาพของผู้ปฏิบัติงานด้านสังคม การพัฒนาเครื่องมือ และทรัพยากรการทำงาน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานคงอยู่ในงานวิชาชีพ เราจึงมีเป้าหมายร่วมกันในท้ายที่สุดเพื่อการยกระดับผู้ปฏิบัติงานและบริการทางสังคมสงเคราะห์ให้ผู้คนในสังคม
นายกันตพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีนักสังคมสงเคราะห์และผู้ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์กว่า
๓,๑๐๐ คน เมื่อพิจารณาถึงเงื่อนไขความเปลี่ยนแปลงทางสังคมของไทย เป็นการย้ำเตือนกับพวกเราว่างานสังคมสงเคราะห์เป็นกลไกการสร้างสวัสดิการให้ประชาชนและนักสังคมสงเคราะห์มีบทบาทสำคัญในการดำรงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนทางสังคม สร้างสรรความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหรือความสัมพันธ์ระหว่างช่วงวัยของผู้คน สอดคล้องกับคำกล่าวของ นายวราวุธ (รมว.พม.) ที่ได้กล่าวในพิธีเปิดงานว่า ภายใต้แนวคิดของวันสังคมสงเคราะห์โลกในปีนี้ มีพลังที่แฝงอยู่อย่างมหาศาลในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ตอกย้ำถึงพลังของความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนทุกช่วงวัยในการขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนแปลง โดย “นักสังคมสงเคราะห์” มีบทบาทเป็นผู้เชื่อมประสานทางสังคม เปรียบเสมือนกลไกที่มีความสำคัญให้เกิดการเชื่อมโยงความต้องการของคนทุกช่วงวัย สนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างวัย และเสริมพลังให้ทุกกลุ่มคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมสู่ความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การสร้างความเข้าใจต่อบทบาทของงานสังคมสงเคราะห์ในสังคมไทย
มีความเชื่อมโยงกับการปรับแนวคิดเชิงนโยบายและการบริหารงานสวัสดิการสังคม โดยเฉพาะการมองระบบสวัสดิการสังคมแบบองค์รวมแทนที่การมองแยกส่วนเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย การขับเคลื่อนและพัฒนาสังคมเพื่อสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความเข้มแข็งให้แก่คนทุกช่วงวัยจึงเป็นแนวคิดที่สะท้อนและย้ำถึงความสำคัญของเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ขอขอบคุณเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ตระหนักถึงความสำคัญของงานสังคมสงเคราะห์ พร้อมใจร่วมกันจัดงานสังคมสงเคราะห์โลกขึ้นเป็นประจำทุกปี และขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยังนักสังคมสงเคราะห์ทั่วโลก ผู้อุทิศตนสร้างประโยชน์แก่ประชาชน ชุมชน และประเทศชาติ รวมถึงการสนับสนุนนโยบายที่ครอบคลุมคนทุกช่วงวัย เพื่อให้ทุกคนได้รับโอกาสที่เท่าเทียม และสามารถรับมือกับความท้าทายในอนาคตอย่างมั่นคง มุ่งสู่สังคมที่ยั่งยืนได้ต่อไป