เย็นวันนี้ (2 สิงหาคม 2566) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิด “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 256” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนสัมผัสความมหัศจรรย์ของการท่องเที่ยวไทยทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “นวัฒนธรรม” นำนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ร่วมถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคในมุมมองสุดอันซีน ตอกย้ำหมุดหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวไร้ขีดจำกัด เหนือความคาดหมาย และน่าประทับใจ ระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยเป็นกิจกรรมที่สำคัญ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. มุ่งมั่นสร้างสรรค์ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยการท่องเที่ยวในทุกมิติเพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์อันล้ำค่าของแผ่นดินไทย วิถีชีวิตไทย เอกลักษณ์ท้องถิ่น และจิตวิญญาณที่เปี่ยมมิตรไมตรี
ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทุกภาคส่วน ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยเจตจำนงค์ในการสร้างเมืองไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และสะท้อนนิมิตหมายอันดีในการเปิดโลกใหม่ของการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 สู่ปี 2567 ด้วยหัวใจหลักที่คำนึงถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และดำรงรักษารากเหง้าของวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มคุณค่าประสบการณ์ท่องเที่ยวไปสู่นักท่องเที่ยวได้อย่างลึกซึ้งในทุกมิติ และเพื่อก่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
การท่องเที่ยวของไทยให้เจริญเติบโตอย่างมั่งคงและยั่งยืนต่อไป
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวถึงเทศกาลเที่ยวเมืองไทยครั้งนี้ ว่า เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 2566 จะเป็นกิจกรรมการตลาด (Event Marketing) ที่จะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวไทยตลอดทั้งปี จากการสร้างรับรู้ความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคในประเทศไทยผ่านแหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม อาหาร และความร่วมมือของทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมฯ ภายใต้นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model สู่การพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (Sustainable Tourism)
ครั้งนี้ ททท.ยกความมหัศจรรย์ของประเทศไทยมาไว้ด้วยแนวคิด “นวัฒนธรรม” (นวัตกรรม+วัฒนธรรม) หรือ Inno-Cultural for Sustainable Tourism โดยนำเสนอมุมมองแปลกใหม่ของการท่องเที่ยวไทย บอกเล่าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็น (Unseen) เรื่องราวที่ไม่เคยรู้ (Untold) และแกะกล่องการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ๆ (Unbox) สัมผัสกับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบไร้ขีดจำกัด (Unlimited) เหนือความคาดหมาย (Unpredictable) น่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ (Unbelievable) รวมทั้งพบกับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจากทั่วประเทศแบบเกินต้าน จนหยุดเที่ยวไม่ได้ (Unstoppable) และเก็บเกี่ยวความทรงจำอันน่าประทับใจแบบลืมไม่ลง (Unforgettable)
ททท. จัดเต็มกับความมหัศจรรย์ของเมืองไทยผ่าน 9 โซนกิจกรรม ประกอบด้วย 5 โซนหมู่บ้านภูมิภาค และประสบการณ์ท่องเที่ยวใน 4 โซนกิจกรรม รายละเอียดดังต่อไปนี้
ก่อนจะเข้าสู่โซนกิจกรรม ททท. เสิร์ฟไฮไลท์แรกกับความสวยงามของเมืองไทย จุดแลนด์มาร์ก Best Selfie in Thailand สะท้อนการท่องเที่ยวไทย 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก-เกาะขายหัวเราะ จ.ตราด ภาคใต้-หินพับผ้า จ.นครศรีธรรมราช ภาคเหนือ-ผ้าม่อฮ่อม ภาคกลาง-น้ำตก จ.นครนายก และภาคอีสาน-ทะเลบัวแดง จ.อุดรธานี
โซนที่ 1 AMAZING THAILAND พาเริ่มเดินทางท่องเที่ยวที่ Amazing ยิ่งกว่าเดิม ไฮไลท์จุดถ่ายรูป สุดอาร์ต Theme Area : Delightful Destinations รังสรรค์มวลบุปผาเป็นแผนที่ประเทศไทยถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคและแหล่งท่องเที่ยว Unseen new chapters โดย Comm. Arts x RakDok, LED Box พาท่องเที่ยวเสมือนจริงด้วยมุมมองภาพ 360 องศา ,ผจญภัยกับเกม ‘Home Sweet Home’ และพบกับโซน TAT Souvenir of Thailand จัดจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกแบรนด์ Amazing Thailand ก่อนอัดแน่นบริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในโซน อสท., เคาน์เตอร์บริการข่าวสารท่องเที่ยว TAT Contact Center 1672 Travel Buddy
โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก "สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก" ไปกับแนวคิด “Love Ea(s)t All Around” ชูจุดเด่นอาหารถิ่น เช่น ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ข้าวคลุกพริกเกลือ โรตีสายไหมทุเรียน ทอดมันกระวาน หมูชะมวง เส้นจันท์ผัดปู น้ำมะปี้ด ไอติมมะยงชิด พลาดไม่ได้กับจุดแลนด์มาร์กถ่ายภาพ 360 องศา อาทิ เกาะขายหัวเราะ
จ.ตราด สะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง เป็นต้น ทั้งสนุกสนานกับกิจกรรม Soft Adventure เช่น ปีนหน้าผาจำลอง ทดลองเล่น Surf และพัตกอล์ฟ พร้อมยกขบวนศิลปินมาสร้างความสบ๊ายสบายสไตล์ภาคตะวันออก ทุกวัน อาทิ ว่าน วันวาน , เอิ๊ต ภัทรวี , สินเจริญ บราเธอร์ส , ต้น ธนษิต, DOUBLEBAMM
โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง “Trendy C2 ภาคกลาง” ชวน “ความสุขง่ายๆ หาได้ที่ภาคกลาง” แบบ 4HD (4 Happy- Definition) โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์ก "หอมนสิการ" ธรรมะแกลลอรี จ.สระบุรี รูปแบบ Interactive ครั้งแรกในไทย สัมผัสประสบการณ์ Trendy Camping กับคาราวานรถ Air Stream / รถบ้าน
ก่อนชวนดื่มด่ำวัฒนธรรมอันลึกซึ้งในโซนสาธิตของศิลป์แผ่นดินนำเสนองานหัตถศิลป์ที่หาชมได้ยาก โดยช่างฝีมือจากสถาบันสิริกิติ์ และโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) พร้อมเติมความสุขชาร์จพลังกายใจกับสินค้าชุมชนและเกษตรอินทรีย์ ผ่าน TOCA Platform ร่วมกับ สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) และส่งท้ายความสนุกในภาคกลางกับการแสดงจากศิลปิน ซัน และ ฟอร์ม จากยุ้งข้าวเรคคอร์ด , วง PAUSE , บอนซ์ นดล , เบลล์ วริศรา
โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ ชวนต๊ะต่อนยอนสัมผัส “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ” (North Nostalgia) ผสานความร่วมสมัยไปกับ Northern Thailand Soft Power เช็กอินแลนด์มาร์ก แมงสี่หูห้าตา จ.เชียงราย บ้านอาจารย์โกมล จ.แพร่ ประเพณีสลากย้อม จ.ลำพูน และบ้านเหมืองกุง จ.เชียงใหม่ อีกหนึ่งไฮไลท์โซน “เวิ้งแวดเวียง” พาชมสถานที่ท่องเที่ยวและเทศกาลผ่าน Projection Mapping แวะเติมเสบียงแบบลำแต้แต้ใน กาดหมั้ว
ชิมอาหารเหนือหาทานยาก อาหารฟิวชั่น มิชลินเชียงใหม่ พร้อมผ่อนคลายที่ กาดนวด กับกิจกรรมนวดสปา และเพลิดเพลินสินค้า Handicraft และกิจกรรม DIY ที่ ซะป๊ะคราฟท์ นอกจากนี้ยังมี ซุ้มเย็นใจ๋ รวบรวมร้าน ชา กาแฟ โกโก้ คราฟท์โซดา หรือเครื่องดื่มที่ผลิตจากภาคเหนือ ตกแต่งสไตล์ Glamping จำนวน 12 ร้าน และ คัวฮักคัวฮอม OTOP แหล่งรวมสินค้า OTOP ส่งตรงจากภาคเหนือ จัดจำหน่ายสินค้ากว่า 20 ร้าน โดยผู้ประกอบการตัวจริงจากภาคเหนือ
โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ “หรอยแรงแหล่งใต้” ผ่านธีมใหม่ "14 x 24 x 365 หรอยแรง" 14 คือ “เที่ยวใต้ 14 จังหวัด 14 สไตล์” 24 คือ “ความสุขที่คุณสัมผัสได้ 24 ชั่วโมง” 365 คือ “หรอยได้ทุกเดือนตลอดปีทั้ง 365 วัน” สัมผัสธรรชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นสุดอันซีนของภาคใต้ทุกจังหวัดทุกช่วงเวลาผ่านจอ LED ยักษ์ ขนาด 22 x 6 เมตร พร้อมถ่ายรูปกับแหล่งท่องเที่ยว Popular Southern เช่น ซุ้มประตูอุทยานธรรมธรรมเขานาในหลวง จ.สุราษฎร์ธานี , เขาพับผ้า จ.พังงา และลิ้มลองอาหารปักษ์ใต้แท้ๆ ก่อนเพลิดเพลินการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นและประยุกต์ ประกอบฉากสุดอลังการบนจอ LED อาทิ โนรา, มวยไชยา ลิเกฮูลู และพลาดไม่ได้กับ TAT Department Store “ห้างททท.” รวบรวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาให้ได้เลือกซื้อเฉพาะงานนี้
โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคอีสาน “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” ปลดล็อกประสบการณ์ “อีสาน...ไปไสกะแซ่บ” นำเสนอความ “แซ่บ” ของอีสานผ่านนวัฒนธรรมอาหารอีสานทุกมิติ กับไฮไลท์สำคัญ ‘ไห-เทค’ เชิญทดลองเป็นปลา ในไหปลาร้าไฮเทคเรืองแสง เรียนรู้เรื่องราวของปลาร้าตั้งแต่เริ่มต้นจนโกอินเตอร์ และเอาใจสายกินเสิร์ฟความแซ่บ ‘20 จานดัง’ ภาคอีสาน เช่น ตำกระเทย สาเกต จ.ร้อยเอ็ด อังแกบบอบ จ.สุรินทร์ เนื้อแห้ง 100 ปี จ.อำนาจเจริญ , ’20 จานแซ่บ’ แกะกล่องอาหารสุดแซ่บที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เช่น ไก่กระเต็ด จ.นครราชสีมา ข้าวปุ้นน้ำนัว จ.นครพนม , ‘10 นวัตกรรมอาหารอีสาน Go Inter’ เช่น ไก่ไร้เก๊า จากขอนแก่น สบู่หอมแดง จากศรีสะเกษ ส้มตำอบกรอบ พร้อมชอปชม ‘ISAN Arts & Crafts’ ก่อนส่งท้ายความแซ่บกับการแสดงม่วนซื่นโฮแซว อาทิ ขบวนแห่เซิ้งบั้งไฟ การแสดงผีตาโขน หมอลำหุ่นกระติ๊บ หุ่นเต้น ดนตรีโฟล์คอีสาน โปงลางกาฬสินธุ์
โซนที่ 7 พันธมิตรท่องเที่ยวไทย ททท. จับมือกับพันธมิตรท่องเที่ยวสร้างการรับรู้ถึงการท่องเที่ยวในแง่มุมต่างๆ แบบ TAT and the Gangs ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ธนาคารกรุงเทพ กรุงเทพมหานคร การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง (ศปร.) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สมาคมสายการบินประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (FETTA) และชมรมพันธกิจเพื่อคนพิการ
โซนที่ 8 เวทีกลาง จัดเต็มบรรยากาศแห่งความสนุกสนานตลอด 5 วัน พบการแสดงเชิงวัฒนธรรมจาก 5 ภูมิภาค เช่น การแสดงนาฎมวยไทย และ คีตะมวยไทย , การแสดงจากวิทยาลัยนาฎศิลปกาฬสินธุ์ , วิทยาลัยนาฎศิลปพัทลุง, รำวงเพชรบุรี, ทิฟฟานี่ คาบาเร่ต์โชว์, โขนและโนรา , โนราใต้ x นาฏลายเจิงเหนือจากคณะเทพศรัทธา , การแสดงล้านนาจากคณะสกุลจันทร์ , วงดนตรีประยุกต์นิศาเทวา , ฟีโน่ เดอะ ระนาด มือระนาดรางแก้วไฟวิบวับ พร้อมการแสดงจากศิลปิน เช่น เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์, เป๊ก ผลิตโชค , Paper Planes, เนเน่ พรนับพัน, เจ เจตริน,
PARADOX, PALMY, New Country, Sarah Salola, Monica, FLI:P, 4MIX, Yes Indeed , เพียว เดอะวอยซ์ , อ้อม รัตนัง , หนุ่ย นันทกานต์ , เป๊กกี้ ศรีธัญญา , รัสมี อีสาน โซล , ลิเกฮีโร่ คณะสองเทพบุตรสุดที่รัก , การแสดงหมอลำใจเกินร้อย (แอน อรดี x บอย ศิริชัย) , เอกชัย ศรีวิชัย , ท่องเที่ยวไปกับเพลงลูกกรุงสุนทราภรณ์ x ธัช กิตติธัช , หลุยส์ สรวิชญ์ ฯลฯ
โซนที่ 9 TAT Net Zero ตอกย้ำหมุดหมายของการขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน (Sustainable Tourism) ไปกับ Sustainable Tourism Goals Games & Activities บันไดแห่งความยั่งยืน และ Mapping Exhibition นำเสนอเรื่องราว The Nature Tourism, Amazing Thailand, เที่ยวได้ให้ด้วย, The Journey of Low Carbon Experience นำเสนอเรื่องราวโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (CF-Hotels) และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards : TTA)
นอกจากนี้ ททท. มีความตั้งใจออกแบบการจัดงานให้สร้างขยะน้อยที่สุด จึงได้ยกแนวคิด “Zero Landfills” ลดการสร้างขยะนำสู่บ่อฝังกลบ นำสู่การปฏิบัติ และมีการกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ให้การเดินทางท่องเที่ยวทิ้งภาระให้กับสิ่งแวดล้อม และลดการใช้วัสดุสิ้นเปลืองในการตกแต่งภายในงาน ภายในงานยังมีการตั้งจุดคัดแยกขยะ ทั้งหมด 14 จุด ประกอบด้วย 9 จุด ทั่วพื้นที่จัดงาน และ 5 จุด ตามโซนอาหารต่าง ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกขยะและกำจัดขยะอย่างถูกต้องในกิจกรรม “ลดโลกเลอะ Zero Landfills”
ทั้งนี้ ภายในงานพิธีเปิดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ททท. จัดการแสดงเชิงวัฒนธรรมทั้ง 5 ภูมิภาค ภายใต้ชุด “นวัฒนธรรม” มาร่วมสร้างบรรยากาศแห่งความครึกครื้น สร้างแรงบันดาลสู่การเดินทางท่องเที่ยวจริงทั่วประเทศกโดยททท. คาดหวังว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2566 ครั้งนี้มีจำนวนผู้ร่วมงาน 80,000-100,000 คน ตลอดระยะเวลาจัดงาน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 80-100 ล้านบาท และมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 800 บาท/คน
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 2566” ในวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้าชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center 1672 Travel Buddy และติดตามข้อมูลได้ที่ thai.tourismthailand.org/Articles/ttf2023
Post Views: 53