ทริปพิเศษ ม่วนซื่น กรุงเทพฯ – ระยอง

บริษัท การยา กงใจ - ลาว จำกัด จากสปป.ลาว นำโดย คุณกงใจ คำพูมี ( KONGCHAI KHAMPHOUMY) ประธานกรรมการ ฯ และคุณเวียงโขง บัวติก (VIENGKHONG BOUATIK)  ผู้อำนวยการ ฯ ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพทั่ว สปป.ลาว นำผู้แทนจำหน่ายตามเป้าหมายสูงสุด เดินทางท่องเที่ยวยังประเทศไทย กว่า 50 ชีวิต เลี้ยงขอบคุณและมอบรางวัลให้แก่ผู้โชคดี ระหว่างวันที่ 29 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ กรุงเทพมหานครและจังหวัดระยอง 



เริ่มกันตั้งแต่วันแรกของทริป ผู้บริหารบริษัทฯ ได้นำคณะกว่า 50 ชีวิต เข้าพักยังโรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน รัชดา ใจกลางกรุงเทพ ฯ ที่มีห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และถือเป็นโรงแรมที่มีทำเลที่ตั้งที่ยอดเยี่ยม สะดวกสบายทั้งการเดินทาง การท่องเที่ยว การช้อปปิ้ง



หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เหล่าผู้มาเยือนก็แยกย้ายกันเดินเล่นอย่างอิสระตามอัธยาศัย โดยมีนัดกันที่บริเวณล็อบบี้ในช่วงเย็นเพื่อนำคณะฯ ล่องเรือลำใหญ่ที่สุด Luxury ที่สุดในประเทศไทย WONDERFUL PEARL CRUISE เพื่อชมทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาและรับประทานอาหารค่ำ

 



 

บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานบนชั้นดาดฟ้าของเรือสำราญขนาดใหญ่ หรูหรา สวยงาม พร้อมบุฟเฟ่ต์ที่เติมกันอย่างไม่อั้น หลายเสียงต่างชื่นชมความงดงามของสายน้ำเจ้าพระยาและสถานที่สำคัญๆ อันเป็นไฮไลท์ ของค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็น พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร สะพานพระรามแปด รวมทั้ง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง ICON SIAM









....เข้าสู่วันที่สอง คณะผู้บริหารและผู้ร่วมคณะเดินทางจากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าสู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ท่ามกลางสายฝนที่ประพรมลงมาอย่างไม่ขาดสาย แม้ทำให้การเดินทางล่าช้าแต่เมื่อมาถึงร้านอาหารตำนานป่า จังหวัดระยอง ด้วยบรรยากาศที่เขียวขจีของสถานที่ อาหารที่เตรียมเอาไว้เป็นอย่างดี ก็เรียกรอยยิ้มกับผู้มาเยือนได้อีกครั้ง



 

 

 

 

 

 

 







และดูเหมือนอากาศจะเริ่มเป็นใจ ฝนที่ตกตลอดทางจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดระยอง เริ่มหายไป การเดินทางด้วยเรือขนาดใหญ่ของรีอสร์ท จึงเป็นไปอย่างสบายๆ อากาศไม่ร้อนอบอ้าว โดยเราเลือกเข้าพักที่นิมมานนรดีรีสอร์ท รีสอร์ทที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวปะการัง บนเกาะเสม็ด ซึ่งถือเป็นรีสอร์ทที่มีความเป็นไพรเวทอย่างมาก

         



 

 

 

 

 

 

 

 



ชายหาดมีให้เลือกเสพบรรยากาศได้สองแบบ ฟากหนึ่งมีหาดทรายขาวน้ำทะเลสีฟ้าครามสะอาดตาเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ หรืออีกฟากหนึ่งเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยหอยมือเสือขนาดใหญ่มากที่สุด เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังและหอยมือเสือ ซึ่งถือเป็นแหล่งที่มีความงามตามธรรมชาติที่ได้รับกล่าวขวัญถึงและได้รับการบันทึกให้เป็นแหล่ง Unseen Thailand อีกด้วย





ด้วยเพราะบริเวณที่พักมีลักษณะเป็นหลังๆ มีความเป็นสัดส่วน ลดหลั่นกันอย่างลงตัวและมีสีสันสวยงามน่ารัก ทำให้คณะผู้มาเยือน ต่างแยกย้ายกันทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นพายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการังและลงเล่นน้ำกันอย่างสุดชิล

และในค่ำคืนบนเกาะเสม็ด นอกจากคณะจะอิ่มเอมกับบรรยากาศที่เงียบสงบของหาดทรายแสนสวยแล้ว ยังได้อิ่มเอมกับอาหารทะเลที่นำมาเสริฟกันแบบจุกๆ พร้อมปาร์ตี้สุดเหวี่ยงแบบไม่ให้เสียชื่อบริษัทกันเลยทีเดียว แถมยังถือเป็นทริปพิเศษที่เราได้เห็นการเต้นแบบบาสโลปที่ขึ้นชื่อของทางสปป.ลาว ที่คณะผู้มาเยือนออกแรงโชว์กันอย่างครึกครื้น



.... รุ่งเช้าวันใหม่ เรายังเห็นหลายคนว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็เหยียดกายบนเปลริมหาด บ้างก็เพลินเพลิดกับการพายคายัค







     หลังจากทานอาหารเช้าและกลางวันเรียบร้อยก็ได้เวลาของการลาชายหาดบนเกาะเสม็ด เพื่อเดินทางไปยังเมืองพัทยา เมืองแห่งแสงสีที่ยามราตรีไม่เคยหลับใหลกันต่อ

     แม้จะขลุกขลักเรื่องการเดินทางจากบนเกาะเสม็ดเพื่อกลับขึ้นสู่ฝั่งท่าเรือระยองด้วยเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว รถโดยสารสองแถวสีเขียวพาหนะสำหรับการเดินทางบนเกาะรองรับไม่เพียงพอ แม้รีสอร์ทจะจองคิวเอาไว้แล้วก็ตาม ก็ต้องขออภัยพี่ๆ คณะผู้มาเยือนที่ต้องนั่งรอกัน ส่วนเราผู้นำทาง ก็นี่เลย... แว๊นซ์ตามคะ 



   จากบ่ายโมงกว่าจะมาถึงตัวเมืองพัทยาก็ใช้เวลายาวนานกว่าปกติเนื่องจากสภาพการจราจร แต่ทุกคนต่างก็แฮปปี้เมื่อยังมีเวลาเหลือให้ช้อปปิ้งกันที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ใกล้กับโรงแรมสยามเบย์ชอว์ รีสอร์ท พัทยา Siam Bayshore Resort Pattaya อันเป็นที่พักสำหรับค่ำคืนนี้

... “เราเตรียมจัดโต๊ะเอาไว้ที่ริมหาดด้านหน้ารีสอร์ท ริมอ่าวแหลมบาลีฮาย รับอาทิตย์กลมโตยามเย็นไว้เรียบร้อยแล้วคะ” เราบอกกับพี่ต้อ - คุณกงใจ คำพูมี และ คุณโขง - เวียงโขง บัวติก สองผู้บริหารที่เข้ามาดูแลความเรียบร้อยสำหรับการจัดงานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้



    ใช่ ... ที่เราเลือกโรงแรมแห่งนี้เนื่องจากวิวร้านอาหารริมทะเลที่สวยงาม อยู่ติดกับท่าเรือแหลมบาลีฮาย ท่าเรือที่มีชื่อเสียงของเมืองพัทยา วันนี้คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจะไปเที่ยวเกาะล้าน ล่องเรือ และรับประทานอาหารกันบนเรือ เรือน้อยใหญ่ลอยลำริมทะเล



และเมื่อเริ่มพลบ อาทิตย์ใกล้ตกดินแสงธรรมชาติก็ถูกเบียดด้วยแสงสีของไฟจากเรือพาให้น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว ที่นี่ถือว่าสะดวกมาก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินเล่น บริเวณเส้นทาง Walking Street ที่ขึ้นชื่อระดับโลก สีสันยามราตรีที่มีพ่อค้าแม่ขายและร้านรวงต่างเปิดให้บริการคึกคัก







  

 

 

 

 

 

....และแล้วก็ได้เวลาดินเนอร์และปาร์ตี้ก็พร้อมจะเริ่มขึ้นด้วยความเอาใจใส่อย่างดีเยี่ยมของ GM เชฟ และเจ้าหน้าที่โรงแรม ต่างรอรับผู้มาเยือนด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข อาหารซีฟู้ด ปูก้ามโต กุ้งหนวดยาว และอาหารสุดอร่อยฝีมือเชฟระดับห้าดาว ทำให้ราตรีสุดท้ายในเมืองไทย เป็นราตรีที่ดูจะเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพ



 

ช่วงหัวค่ำ ได้มีการจับรางวัลเพื่อแจกให้กับผู้แทนจำหน่ายที่ร่วมเดินทาง เรียกเสียงเฮลั่นสนั่นแหลมบาลีฮายกันเลยทีเดียว คาราโอเกะเล็กๆ จากนักร้องหญิงของโรงแรมช่วยพาให้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำ แม้วันนี้จะไม่ได้มีการเต้นบาสโลปเหมือนบนเกาะเสม็ด แต่ดูเหมือนเสียงเพลงคาราโอเกะพาให้ทุกคนปล่อยใจปล่อยอารมณ์ให้อิ่มเอมกับบรรยากาศปาร์ตี้กันอย่างเต็มที่



 



... สำหรับเรา ก๊อก - นาริฐา จ้อยเอม  จาก www.btripnews.net  รวมทั้งคุณชัญญา จันทะรังษี  บล็อกเกอร์จาก www.toptotravel.com ตัวแทนจากเมืองไทย อาสามารับหน้าที่เป็นไกด์จำเป็น แค่ได้เห็นรอยยิ้มและใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของผู้มาเยือน แค่นี้ก็เป็นปลื้มซีคะ  

.... สัญญาว่าจะมาอีกนะ Welcome to Thailand ค่ะ