สค. เปิดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมมอบวุฒิบัตรผู้สำเร็จการฝึกอบรมจากศูนย์ฯ ลำพูน
ในวันที่ 12 กันยายน 2560 เวลา 09.00 น. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและพิธีมอบวุฒิบัตรผู้สำเร็จการฝึกอบรม ประจำปี 2560 กล่าวรายงานโดย นางสาวจารุวรินทร์ ธนาชนะสิทธ์ิ ผู้อำนวยการศูนยเ์รียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน ในการนี้ นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้เดินทางมาร่วมเป็นเกียรติและกล่าวต้อนรับในการจัดงานดังกล่าว ซึ่งมีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพเข้ารับวุฒิบัตรรวมจำนวน 360 คน อีกทั้งอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ได้เดินเยี่ยมเยียน กล่าวทักทาย เป็นกำลังใจให้กลุ่มอาชีพสตรีที่นำผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับการฝึกอบรมจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีฯ มาแสดงและจัดจำหน่ายภายในงานกว่า 20 บูธ ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน นายเลิศปัญญา กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) มีนโยบายในการดำเนินงานด้านสตรีและครอบครัวโดยการส่งเสริมให้สตรีและครอบครัวมีความมั่นคงในทุกมิติ มีการดำเนินการด้านยุทธศาสตร์ระดับประเทศ ถ่ายทอดสู่การดำเนินงานไปยังจังหวัดต่างๆ โดยผ่านการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) อีกทั้ง สค. เรายังมีหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ชื่อว่า ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว 8 ศูนย์ 8 เขตรับผิดชอบ ที่จะขับเคลื่อนงานนโยบายในการพัฒนาศักยภาพสตรี การฝึกอาชีพ การสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การสนับสนุนงานครอบครัวของศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) และท้องถิ่น ให้สตรีและครอบครัวในภูมิภาคได้รับการยกระดับสถานภาพให้ดีขึ้น มีความอยู่ดีกินดีและมีความสุข ไม่ตกไปเป็นเหยื่อของการค้าประเวณี และการค้ามนุษย์ ตลอดจนเป็นกำลังหลักในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป นายเลิศปัญญา กล่าวต่ออีกว่า ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา บรมราชินีนาถจังหวัดลำพูน แห่งนี้เป็น 1 ใน 8 ศูนย์ ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ในสังกัด สค. ที่มีแนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโดยการมุ่งเน้นองค์กรสมัยใหม่ เน้นคนเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการพัฒนา และการดำเนินงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ร่วมกันเป็นภาคีเครือข่าย การบูรณาการความร่วมมือกันทำงาน โดยระดมทรัพยากรของเครือข่ายมาจัดสวัสดิการสังคมแก่กลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นหลักการทำงานที่ให้ความสำคัญในฐานสิทธิ(right based approach) สิทธิมนุษยชน Human Right สิทธิพลเมือง Civil Right สิทธิและบทบาทหญิงชายและการพิทักษ์สิทธิของประชาชนทั้งอยู่ในสภาวะปกติและทั้งที่ตกอยู่ในสภาวะประสบปัญหาทางสังคม ให้องค์กรและผู้ปฏิบัติงานมีความพร้อมในการจัดการปัญหาทางสังคมในปัจจุบัน ของความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและการแก้ไขปัญหาความยากจน ตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่มีความเป็นพลวัตอยู่ตลอดเวลาทำให้สังคมโลกและสังคมไทยต้องเผชิญกับสภาวะความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ "สุดท้ายขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนที่มีความประสงค์อยากฝึกอาชีพ อยากมีอาชีพมีงานทำและมีรายได้เข้ามาฝึกอาชีพ ซึ่งมีทั้งหลักสูตรที่จบมาแล้วมีงานทำมีอาชีพแน่นอน 100% และหลักสูตรที่เป็นการยกระดับให้สตรีมีทางเลือกประกอบอาชีพซึ่งเป็นหลักสูตรต่อเนื่อง เช่น หลักสูตรระยะสั้น 1 เดือน อาทิ หลักสูตรขนมไทยและเบเกอรี่กระเป๋าผ้าด้นมือ อาหารว่างและเครื่องดื่ม เพ้นท์เล็บ และตกแต่งเล็บ หลักสูตรระยะสั้น 3 เดือน หลักสูตรตัดผมชายหลักสูตรเสริมสวยสตรี หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ หลักสูตรระยะสั้น 6 เดือน การดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งหลักสูตรนี้เทียบโอน ปวช. หลักสูตรคอมพิวเตอร์ธุรกิจ หลักสูตรบัญชีหลักสูตรอาหารและโภชนาการ หลักสูตรตัดเย็บเสื้อผ้าหลักสูตรธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม" นายเลิศปัญญากล่าวในตอนท้าย