พส. เสริมทัพความรู้ด้านการจัดการสังคมและสังคมสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานท้องถิ่น
วันศุกร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๑.๓๐ น. ณ ห้องมิ่งเมืองชั้น ๔ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธานในพิธีปิดและมอบประกาศนียบัตรโครงการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นางนภา กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานภาครัฐ ที่มีบทบาทในการมุ่งเน้น ส่งเสริม พัฒนาคุณภาพและความมั่นคงในชีวิต ซึ่งกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ที่มีบทบาทตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในการจัดฝึกอบรมนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อให้มีการปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ประกอบกับเป็นหน่วยงานในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในการขับเคลื่อนการจัดสวัสดิการให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ในการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ผู้รับบริการสวัสดิการสังคมซึ่งไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้โดยลำพัง แต่จำเป็นต้องบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรที่สำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเนื่องจากมีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด นางนภา กล่าวต่อว่า การอบรมผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีผู้เข้ารับการอบรมมาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน ๗๖ จังหวัด รวม ๘๓ คน จัดอบรมระหว่างวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๒ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ ที่ไม่มีวุฒิด้านสังคมสงเคราะห์ศาสตร์โดยตรง ได้มีโอกาสสร้างเสริมองค์ความรู้พื้นฐาน และองค์ความรู้ใหม่ที่เท่าทันสถานการณ์ทางสังคมตลอดจนเสริมสร้างเทคนิคในการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์รวมทั้งได้เรียนรู้กฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ของท้องถิ่น รวมทั้งเสนอปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ในการขับเคลื่อนงานสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ในพื้นที่ร่วมกัน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมขับเคลื่อนงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ช่วยให้ประชาชนก้าวผ่านสภาวะวิกฤติและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง นางนภา กล่าวในตอนท้าย