วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เวลา 14.30 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ From Gen Z to be CEO สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จํานวน 1,500 ราย ณ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ถนนรัชดาภิเษก ผ่านระบบ Zoom Webinar โดยมีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวกับนักศึกษาว่า นโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในการปั้น GenZ ให้มีโอกาสเติบโต เป็น CEO ในอนาคต เพื่อทำรายได้ให้กับตนเองครอบครัว ตั้งแต่ได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้โยบายหลายเรื่อง
โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ยุคใหม่จะทำงานร่วมกับภาคเอกชนและภาคส่วนต่างๆอย่างใกล้ชิด ด้วยกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนของกระทรวงพาณิชย์ หรือ กรอ.พาณิชย์ และร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต “
ซึ่งกระทรวงเกษตรฯจะมุ่งหน้าในเรื่องการผลิต มุ่งให้ความสำคัญกับเกษตรที่ทำมูลค่าสูงเพื่อทำรายได้ให้กับเกษตรกรมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม การตลาดกระทรวงพาณิชย์จะเป็นหัวหอกสำคัญในการมุ่งเน้นการตลาดยุค new normal เปลี่ยนรูปแบบจากตลาดออฟไลน์ เป็นการตลาดออนไลน์ หลังเกิดวิกฤติโควิด กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับเอกชนปรับตัวเป็นออนไลน์ และพัฒนาเป็นแบบผสมที่เรียกว่า ไฮบริด เป้าหมายสำคัญคือตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ
ตลาดในประเทศมีกลไกสำคัญเรียกว่าทีมเซลล์แมนจังหวัด และต่างประเทศมีการจัดตั้งทีมเซลล์แมนประเทศ ขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมเซลล์แมนประเทศ วันนี้การส่งออกช่วงที่ผ่านมากลายเป็นเครื่องยนต์สำคัญเครื่องเดียวที่ช่วยขับเคลื่อนจีดีพีให้กับประเทศ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาสามารถทำรายได้กว่า 700,000 ล้านบาท เป็นบวกถึง 41.59% จากการทำงานหนักของทีมเซลล์แมนจังหวัด ทีมเซลล์แมนประเทศ การทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน และการค้าชายแดนและการการค้าข้ามแดน
ขณะนี้เราพยายามเร่งการผลักดันการค้าให้เพิ่มขึ้น เมื่อเจอโควิด จาก 97 ด่านเหลือ 46 ด่าน ตนกับภาคเอกชนเร่งรัดให้มีการเปิดด่านเพิ่มเติม และถ้ามีการจัดแสดงสินค้าในต่างประเทศจะจัดพื้นที่พิเศษ 5-15% ให้พื้นที่ผู้ประกอบการ SMEs รุ่นใหม่ ได้มีโอกาสจำหน่ายสินค้า
"และปัจจุบันเรามี SMEs ทั่วประเทศ 3,000,000 ราย เป็น SMEs ส่งออก 30,000 ราย ต้องหาแม่ทัพรุ่นใหม่ทำการค้าบุกตลาดโลกนำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น เป้าหมายให้ได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 คน ทำ MOU กับสถาบันการศึกษา 93 แห่งทั่วทั้งประเทศ
ตอนนี้สมัครมา 14,000 คน อบรมเสร็จไปแล้วประมาณ 4,000 คน คาดว่าปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15,000 คน จากเป้าที่ตั้งไว้ 12,000 คนถือว่าตอนนี้ทะลุเป้าแล้ว เรียนครบวงจรทั้งการทำธุรกิจเบื้องต้น ตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งหวังว่านักเรียนนักศึกษาทั้งหลายที่ได้ผ่านการอบรมจะเป็นแม่ทัพของประเทศในการนำรายได้เข้าประเทศต่อไป" รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้ เปิดโอกาสให้เหล่าผู้แทนนักศึกษา ถาม-ตอบ ในเรื่องที่อยากรู้อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง เช่น ผู้แทนจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดอุดรธานี ถามว่ามีวิธีอย่างไรในช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตรไม่ให้ต่ำไปกว่านี้ เพื่อทำให้เกษตรกรอยู่รอดได้
นายจุรินทร์ ตอบว่า แม้เราจะเจอโควิดแต่ราคาพืชผลทางการเกษตรใน 1-2 ปีอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะเราเข้าไปแก้ปัญหาเชิงรุกทันท่วงทีตั้งแต่ก่อนผลไม้ออกสู่ตลาด ยุคนี้ “ ทำได้ไวทำได้จริง” และพืชเกษตรสำคัญ 5 ตัว ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะดีได้
แต่เมื่อไหร่ที่ราคาตกรัฐบาลมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรเป็นนโยบายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์เป็นเงื่อนไขก่อนเข้าร่วมรัฐบาล นำโยบายนี้ไปเป็นนโยบายของรัฐบาล ทำให้เกษตรกรมีรายได้ 2 ทาง จากราคาตลาดและเงินส่วนต่างที่ขึ้นทะเบียนโอนเข้าบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.โดยตรงให้มีหลักประกันว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าราคาที่ประกันให้พอยังชีพอยู่ได้ ส่วนผลไม้ใช้ยาขนาดอื่น ในการแก้ไขปัญหา
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศรายงานว่า จากการแลกเปลี่ยนแบบสดๆนี้ทำให้การอบรมในคร้ังนี้ นักศึกษาต่างได้รับความรู้กันอย่างเต็มที่ พร้อมนำกลับไปต่อยอดพัฒนาตนเองเพื่อก้าวสู้ผู้ประกอบการ รุ่นใหม่เพื่อเป็นนักรบเศรษฐกิจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไปในอนาคต
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่(NEA) LINE OA : @genztobeceo2021 หรือโทร 083-097-9190 และที่เว็บไซต์ https://nea.ditp.go.th
Post Views: 44