DIP เผยความสำเร็จโครงการ “Agro Beyond Academy” ติดปีกอาวุธนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ไทย
14 กันยายน 2563 - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (DIP) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมกับบริษัท วู้ดดี้เวิลด์ จำกัด ประกาศความสำเร็จโครงการ Agro Beyond Academy ยกระดับศักยภาพของนักธุรกิจด้านเกษตรกรรมและเกษตรเชิงอุตสาหกรรมของประเทศไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม จัดพิธีปิดพร้อมมอบโล่และประกาศนียบัตรรับรองผู้เข้าร่วมหลักสูตรดีเด่น ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายใต้การดำเนินงานกิจกรรมการพัฒนาแนวคิดปั้นนักธุรกิจอุตสาหกรรม ผ่านการเปิดคอร์ส e-Learning ภายใต้ชื่อโครงการ “Agro Beyond Academy” โดยจับมือพันธมิตรระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และบริษัท วู้ดดี้เวิลด์ จำกัด เพื่อร่วมสนับสนุน ส่งเสริมผู้เข้าร่วมในโครงการฯ ที่นักธุรกิจด้านเกษตรกรรมและเกษตรอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ให้พร้อมก้าวสู่การเป็นสุดยอดนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมไทยแบบอย่างยั่งยืน ตลอดจนสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจในท้องถิ่นและชุมชนได้ “โครงการ Agro Beyond Academy เป็นโครงการเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาธุรกิจเกษตรให้ประสบความสำเร็จ โดยความพิเศษของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ โครงการฯ ได้ผู้เชี่ยวชาญด้านงานการประชาสัมพันธ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ คุณวุฒิธร มิลินทจินดา หรือวู้ดดี้ มาสร้างสรรค์โครงการโดยร่วมจัดรูปแบบการเรียนการสอนให้มีความพิเศษและน่าสนใจ จึงทำให้โครงการประสบผลสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนราว 3,000 คน ทั้งผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไปที่สนใจ แบ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมจำนวน 51% และกำลังสนใจเริ่มต้นธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมใหม่จำนวน 49%” ดร.ณัฐพล กล่าว ดร.ณัฐพล กล่าวถึงภาพรวมของโครงการ Agro Beyond Academy ว่า เป็นการเรียนแบบ e-Learning หรือนำแพลตฟอร์มออนไลน์มาใช้สำหรับการเรียนการสอน ซึ่งจะมีจำกัดจำนวนชั่วโมงของการเรียนและหลักสูตรสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 30 ชั่วโมง ภายในระยะเวลา 7 วัน แบ่งออกเป็น 3 หลักสูตรวิชา ได้แก่ หลักสูตรทางด้านการบริหารจัดการ 9 ชั่วโมง, หลักสูตรด้านการตลาด 13 ชั่วโมง และหลักสูตรทางด้านการบัญชีและการเงิน 8 ชั่วโมง โดยโครงการฯ ได้มีการเชิญเหล่าวิทยากรผู้มากประสบการณ์ทั้ง 16 ท่าน จากแวดวงธุรกิจด้านเกษตรกรรมและเกษตรอุตสาหกรรมมาเข้าร่วมบรรยายให้ความรู้ พร้อมเชิญเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ผู้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ อาทิ คุณเชียร์ - ทิฆัมพร ฤทธาอภินันท์, คุณตุ๊ก - ชนกวนันท์ รักชีพ และคุณเอกกี้ - เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ เป็นต้น มาเข้าร่วมคลาสเรียนพร้อมร่วมแชร์ประสบการณ์จริงจากการทำธุรกิจให้ผู้เข้าร่วมโครงการฟัง นอกจากนี้โครงการ Agro Beyond Academy ยังมีการติดตามผลการเรียนของผู้เข้าเรียน และมีการทำแบบสอบถาม Pre-Post test เพื่อเป็นการประเมินผลการเรียนให้เป็นไปตามที่โครงการกำหนดและได้ประสิทธิภาพจริง ซึ่งสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่มีคะแนนสูงและผ่านเกณฑ์การประเมิน โครงการจะมอบโล่ ใบประกาศนียบัตร และของที่ระลึกเพื่อรับรองการผ่านเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ โครงการ Agro Beyond Academy ได้ดำเนินการมาในเฟสสุดท้ายของกิจกรรม คือการสรุปและประมวลผลการดำเนินงานของโครงการที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าด้านผู้ประกอบการ และนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมโครงการฯ ต่างให้การยอมรับถึงศักยภาพและหลักสูตรการเรียนที่ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ที่ได้จัดขึ้นมาในครั้งนี้ โดยมีความเห็นว่า โครงการ Agro Beyond Academy เป็นเวทีแห่งโอกาสในการเสริมสร้างความรู้ และสร้างประสบการณ์พิเศษในมิติใหม่ ผ่านการนำแพลตฟอร์มออนไลน์มาประยุกต์ใช้เพื่อเข้าถึงนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมไทยได้อย่างครอบคลุม พร้อมกับความรู้ที่ได้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงในธุรกิจ และสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรได้จริง ทั้งนี้จากการสอบถามผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด สามารถที่จะนำไปปรับแผนธุรกิจ การขยายธุรกิจและการตั้งธุรกิจเกษตรใหม่ ส่งผลให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% จำนวนมากกว่า 2,100 คน “ความสำเร็จของการจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นการติดอาวุธให้นักธุรกิจด้านเกษตรกรรมและเกษตรเชิงอุตสาหกรรมของประเทศไทยได้เติบโตและเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิสรัปชั่น โดยเกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการที่มีมาอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นรากฐานสำคัญในการผลักดันนักธุรกิจไทยให้ประสบความสำเร็จในแบบยั่งยืน โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เชื่อว่าสำหรับการจัดกิจกรรมในปีต่อๆ ไปจะได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นไปอีก สำหรับแนวทางการดำเนินงานของโครงการ Agro Beyond Academy ในครั้งต่อไปจะเพิ่มความพิเศษและเพิ่มศักยภาพ ขีดความสามารถให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องรอติดตามกัน” ดร.ณัฐพล กล่าวสรุป