DITP เยือนปักกิ่ง เล็งช่องทางส่งออกสินค้าเกษตรไทย
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เยือนกรุงปักกิ่ง ร่วมพิธีเปิดงานพืชสวนโลก Beijing Expo 2019 เนรมิต Thailand Pavilion ภายใต้ธีม “Thailand Kitchen of the World : A True Source beyond Expectations” โชว์ศักยภาพสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารไทย พร้อมหารือผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกจีน เพื่อเร่งเครื่องผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทย นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด Thailand Pavilion ในงานมหกรรมพืชสวนโลก (The International Horticulture Exhibition 2019) หรือ Beijing Expo 2019 ซึ่งประเทศไทยร่วมจัดนิทรรศการกับอีกกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเข้าร่วมงานในส่วนการจัดนิทรรศการแสดงสินค้าถาวร Thailand Pavilion ภายใต้แนวคิด “Thailand Kitchen of the World : A True Source beyond Expectations” แสดงสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อาหาร รวมถึงประชาสัมพันธ์ธุรกิจร้านอาหารไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นถึงคุณภาพของสินค้าและบริการไทย ตลอดจนเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลการสั่งซื้อและนำเข้าสินค้าไทยแก่ผู้เข้าชมงานฯ การเยือนกรุงปักกิ่งในครั้งนี้ คณะฯ ยังได้เข้าพบหารือผู้บริหารระดับสูงและผู้แทนบริษัทนำเข้าผลไม้ของตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรซินฟาตี้ (Beijing Xinfadi Agricultural Products Wholesale Market) โดยตลาดแห่งนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน เริ่มเปิดดำเนินงานตั้งแต่ปี 1989 ปัจจุบันมีพื้นที่กว่า 418 ไร่ สินค้าเกษตรที่เข้าสู่ตลาดแห่งนี้มีทั้งผลผลิตในประเทศจีนจากมณฑลต่างๆ และผักผลไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมาตลาดซินฟาตี้มียอดการนำเข้าผลไม้สดคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับผลไม้ไทยมีการนำเข้ามายังตลาดแห่งนี้ 3.5 แสนตันในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย ทุเรียน 1.2 แสนตัน ลำไย 1 แสนตัน มังคุด 8 หมื่นตัน และผลไม้อื่นๆ 5 หมื่นตัน โดยมียอดการเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 20 ต่อปี นอกจากนี้ คณะฯ ได้เดินทางไปสำรวจศักยภาพของโอเล่ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาเหอเซิงฮุ่ย (O’le Supermarket, Heshenghui Branch) ซึ่งผู้บริโภคชาวจีนสามารถเข้าถึงผลไม้สดเกรดพรีเมียมจากไทย ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ส้มโอ มะม่วง รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนำ เช่น น้ำผลไม้ สาหร่ายอบกรอบ นมถั่วเหลือง ซอสปรุงรส เครื่องแกง ฯลฯ โดยตนได้ถือโอกาสนี้เชิญผู้บริหารโอเล่ซูเปอร์มาเก็ต เข้าร่วมชมและเลือกสั่งซื้อสินค้าในงานTHAIFEX งานแสดงสินค้าอาหารที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมศกนี้ พร้อมกันนี้ คณะฯยังได้เข้าเยี่ยมชมเซเว่นเฟรชซูเปอร์มาร์เก็ต สาขากว่างอันเหมิน (7 Fresh, Guang An Men Branch) ซึ่งมีความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสดและแช่แข็งนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงพืชผักผลไม้นำเข้าคุณภาพเยี่ยม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้เพิ่งเปิดดำเนินการ ทางผู้บริหารจึงได้แจ้งความประสงค์ในการนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มเติม ซึ่งอธิบดีได้ให้ความเห็นเสริมถึงการร่วมจัดกิจกรรม In-store Promotion เพื่อเป็นเวทีในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของไทยในอนาคต เซเว่นเฟรชซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ยังมีบริการรับปรุงอาหารสด บริการจัดส่งสินค้าฟรีภายในระยะทาง 5 กิโลเมตร บริการชำระค่าสินค้าผ่านระบบสแกนใบหน้าลูกค้า บริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งล้วนตอบโจทย์วิถีชีวิตชาวจีนวัยทำงานที่มีความเร่งรีบแต่ในขณะเดียวกันยังคงต้องการสัมผัสประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบดั้งเดิม แสดงให้เห็นบทพิสูจน์ว่า เหตุใดช่องทางการค้าออนไลน์แม้ว่าจะสะดวกและสอดรับกับการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบัน ทว่าก็ไม่สามารถกลืนกินช่องทางออฟไลน์ได้อย่างเบ็ดเสร็จ อีกทั้งนักการตลาดยังจำเป็นต้องใช้ช่องทางการค้าทั้งสองประเภทควบคู่กันไปโดยปรับเปลี่ยนหรือพลิกแพลงให้เหมาะสมตามแต่สถานการณ์ สำหรับในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 (เดือนมกราคม – มีนาคม) ไทยส่งออกไปจีนคิดเป็นมูลค่ารวม 6,694 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.15 อย่างไรก็ดี สินค้าไทยที่ยังคงมีศักยภาพในตลาดจีน ได้แก่ สินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป โดยเฉพาะผลไม้ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด และลำไย โดยผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้งมีมูลค่าส่งออกไปยังตลาดจีน 298.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 129.29