SACICT จัดใหญ่ Crafts Bangkok 2019 สุดยอดงานหัตถศิลป์ร่วมสมัย รวมงานคราฟท์กว่า 3 หมื่นชิ้น
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จัดเต็มงานหัตถศิลป์ร่วมสมัยรวบรวมสุดยอดงานคราฟต์สร้างสรรค์ กว่า 3 หมื่นชิ้น ตอบโจทย์ โดนใจ ในงาน Crafts Bangkok 2019 ชูแนวคิด “Retell the Details : เล่าเรื่องของเรื่องเล่า” รวมเรื่องราวแห่งงานหัตถศิลป์ ที่มีการต่อยอดด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ พบกับ ศิลปินผู้คร่ำหวอดในแวดวงศิลปหัตถกรรม จูน สาวิตรี , นุ่น ศิรพันธ์ และ เป๊ก เปรมณัช ที่ร่วมแสดงทัศนะและเผยมุมมองงานคราฟต์สำหรับคนรุ่นใหม่ พร้อมปั้นผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์รุ่นใหม่สู่ตลาดยุคดิจิทัล ชวนพบความยิ่งใหญ่ ที่คนรักงานคราฟต์ต้องไม่พลาด 4 – 7 เมษายน นี้ ที่ไบเทค บางนา
นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า SACICT มีความพร้อมอย่างยิ่ง กับการจัดงาน Crafts Bangkok 2019 ซึ่งเป็นงานที่จะนำเสนอเรื่องราวของงานศิลปหัตถกรรมไทย ที่มีความเปลี่ยนแปลงไป ในแง่มุมที่สร้างสรรค์และแตกต่าง สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาองค์ความรู้ภูมิปัญญางานหัตถศิลป์ไปสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไป ภายใต้กลยุทธ์ “หัตถศิลป์ของชีวิตปัจจุบัน” หรือ “Today Life’s Crafts” ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าความงดงามของศิลปหัตถกรรมไทยที่สามารถประยุกต์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับวิถีชีวิตผู้คน อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Craft Economy) ของประเทศ
งาน Crafts Bangkok 2019 ในปีนี้ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ด้วยแนวคิด “Retell the Details : เล่าเรื่องของเรื่องเล่า” บอกเล่าเรื่องราวงานศิลปหัตถกรรมที่นำมาต่อยอดด้วยนวัตกรรมผสมผสานเทคนิคความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ในทุกมิติการใช้ชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบัน เพราะเล็งเห็นว่า การเล่าเรื่องมีความสำคัญอย่างยิ่งกับงานประเภทศิลปหัตถกรรม เนื่องด้วย
ภายใต้งานศิลปหัตถกรรมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ มีความร่วมสมัย มีลวดลาย ดีไซน์ดึงดูดใจ ที่ได้มีการนำเสนอรวบรวมไว้ภายในงาน ต่างก็มีเรื่องเล่า มีประวัติความเป็นมาองค์ความรู้สืบทอดมาอย่างยาวนาน และยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์แห่งความประณีตงดงามในแบบฉบับคุณค่างานหัตถศิลป์ไทย ดังนั้น การนำเรื่องราวดั้งเดิมเหล่านั้นมาเล่าใหม่ ในมิติที่แตกต่างออกไป จึงเป็นเสน่ห์ของงานหัตถศิลป์ เพราะจะยิ่งช่วยตอกยํ้าคุณค่าของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนสร้างความประทับใจ ความภาคภูมิใจให้แก่ผู้บริโภค
ความน่าสนใจของงาน Crafts Bangkok 2019 เชื่อว่าจะเป็นงานที่ชวนเพลิดเพลินของกลุ่มคนรักงานคราฟต์ ซึ่งจะสามารถเดินชมงานได้อย่างไม่มีเบื่อหน่ายตลอดทั้งวัน เพราะได้รวบรวมทุกเรื่องของงานคราฟต์ในทุกมิติมาไว้ในงานเดียว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์งานฝีมือจากครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิกของ SACICT ผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ และหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศมาแสดงและจัดจำหน่ายภายในงาน กว่า 350 คูหา มากกว่า 3 หมื่นชิ้น
พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ ที่เติมแต่งไอเดีย และสร้างแรงบันดาลใจ เป็นโอกาสของการพบปะพูดคุยในกลุ่มคนรักงานคราฟต์ที่เป็นสีสันและแบ่งปันความสุขแก่กัน ตลอดจนการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เป็นไปได้บนความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
ภายในงานมีจัดแบ่งโซนกิจกรรมที่มีความน่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย โซน “Story telling” เป็นโซนที่เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ที่ยังคงคุณค่าความประณีตจากภูมิปัญญาดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมแนวคิดนวัตกรรมร่วมสมัย นำเทคนิคใหม่ ๆ เข้ามาต่อยอด เกิดการเล่าเรื่องในมิติที่แตกต่างและน่าสนใจไปจากเดิม
โซน “Nowadays” เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสมาชิกของ SACICT ที่เน้นในดีไซน์ การออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเทรนด์ของโลก เช่นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือเป็นงานคราฟต์ที่สร้างสรรค์และสนับสนุนสังคม
โซน “Royal Project” ซึ่งเป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในโครงการพระราชดำริ จาก 4 หน่วยงานคือ โครงการเซรามิค สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ , มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รัชกาลที่ 9 , โครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
โซน “New details” จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสถาบันการศึกษาจำนวน 10 สถาบันที่เป็นพันธมิตรของ SACICT ซึ่งล้วนมาจากพลังของคนรุ่นใหม่ที่มีต่องานคราฟต์ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ,มหาวิทยาลัยรังสิต , มหาวิทยาลัยบูรพา , สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , มหาวิทยาลัยมหาสารคาม , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
โซน “International Crafts” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานคราฟต์จากต่างแดน โดยจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของหน่วยงานพันธมิตรในต่างประเทศที่มีความร่วมมือกับ SACICT ทั้งจากผู้ประกอบการกว่า 20 ราย
จาก 11 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน อินเดีย คาซัคสถาน อินโดนิเซีย พม่า บังกลาเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศอย่าง World Crafts Council ซึ่งพันธมิตรเหล่านี้ยังจะมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองด้านงานคราฟต์แก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย เช่น Korean Craft and Design Foundation- Foundation (KCDF) สาธารณรัฐเกาหลี , National Taiwan Crafts and Research Institute (NTCRI) ไต้หวัน และ Agency for Promotion of Indigenous Crafts (APIC) ประเทศภูฏาน
โซน Craft Tales ติดอาวุธการตลาดด้วยตัวอย่างการสร้างแบรนด์ของ 11 ผู้ประกอบการงานคราฟต์ ที่ SACICT ผลักดันให้กลุ่ม Start Up พัฒนาศักยภาพและเชื่อมโยงเครือข่ายและ Value Chain สร้างกระบวนการคิดในการสร้างแบรนด์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เสริมความแข็งแกร่งให้แก่หัตถศิลป์ไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งยังเป็นผู้ประกอบการต้นแบบในการพัฒนาและขยายสู่สมาชิกของ SACICT ต่อไป
โซนสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ใน 3 กิจกรรมคือ กิจกรรม Make: เวิร์คชอปที่คนรักคราฟต์สามารถลงมือทำ DIY งานคราฟต์เก๋ๆด้วยตนเอง , กิจกรรม Meet : ผู้ที่กำลังอยากได้คำแนะนำดี ๆ จาก Craft Guru ที่จะมา Coaching แนวคิดใหม่ๆและโอกาสที่เป็นไปได้ในโลกธุรกิจ และ กิจกรรม Talk : ร่วมฟังการเสวนาจากสารพัดกูรูในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการออกแบบ การตลาด และไลฟ์สไตล์ ที่หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันมาให้ไอเดียและตอบในทุกข้อสงสัยของงานคราฟต์
นอกจากนี้ ภายในงานยังเพิ่มเติมกิจกรรมความบันเทิงให้กับผู้เข้าชมงานได้ร่วมเพลิดเพลินกับศิลปิน นักร้องที่หมุนเวียนมาสร้างสีสันตลอดทั้ง 4 วัน ในช่วงเวลา 16.00 น. ได้แก่ วันพฤหัสที่ 4 เมษายน พบกับ อิน สาริน นักแสดงจากช่อง 3 วันศุกร์ที่ 5 เมษายน ฟังเพลงเพราะจากๆ นนท์ ธนนท์ วันเสาร์ที่ 6 เมษายน กิจกรรมMeet & Greet ใกล้ชิดกับ เต๋า เศรษพงศ์ และ อาทิตย์ที่ 7 เมษายน ส่งท้ายกับ ณัฐ ศักดาทร ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสุข และชวนให้เพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน
SACICT มุ่งหวังว่าจะเป็นงานสำคัญที่แสดงศักยภาพด้านงานหัตถศิลป์ของไทยให้เป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก ตลอดจนช่วยยกระดับศักยภาพผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรม ทั้งกลุ่มครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ชิ้นงาน เพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ ๆ ขยายกลุ่มผู้บริโภคงานหัตถศิลป์ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และคาดว่าจะได้รับความสนใจและการสนับสนุนจากคนรักงานคราฟต์เป็นอย่างดี โดยหวังว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 20,000 ราย และยอดจำหน่ายตั้งเป้าหมายไว้ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
ด้าน คุณโอม –
อาทิตย์ มิ่งเชื้อ งานเซรามิคแฮนด์เมด earth republic เล่าถึงงานฝีมือตนเองว่า ทุกกระบวนการทำมือทั้งหมด โดยการใส่คาแรรคเตอร์ตัวการ์ตูนเข้าไปเพื่อให้มีความน่ารัก โดยฟอร์มพยายามไม่อิงกับสรีระอะไรทั่วไปมากนัก
จริง ๆ งานชุดแรกของผมจะเป็นงานแก้ว โดยปะ ๆ เพ้นท์ลงบนจาน ชุดต่อไปก็อยากทำคาแร็คเตอร์การ์ตูน จึงเอาลายผ้าผ่านฟอร์มตัวการ์ตูน ก็มีเอาผ้าไปปะที่หน้าตัวการ์ตูน วิธีการทำงานก็ขึ้นรูปเป็นดินก่อนที่จะมาเผาในอุณหภูมิ 800 องศา และ En Gobe เป็นเทคนิคการเพ้นท์อย่างหนึ่งในเซรามิค โดยใช้สีเซรามิค เป็นการผสมดินเยอะหน่อยทำให้มีความด้าน สีจะไม่โดดเด่นเท่ากับเซรามิคทั่วไปเพราะโดนดร็อปด้วยเนื้อดินสี ตัวเนื้อดินที่ผสมไปจะมีความเป็นสีขาวผสม จะทำให้ซีดจาง แต่ผมชอบเทคเจอร์ที่มีความหยาบ ซึ่งผมออกแบบมา 5 ปีแล้ว
สำหรับการเข้าร่วมออกแสดงงาน คราฟท์ ในครั้งนี้ว่า “ การออกงาน คราฟท์ ครั้งนี้เป็นที่ 4 ก็มีคนรู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ งานคราฟท์จะเปลี่ยนไปทุกปี จะมีดีไซน์เนอร์ใหม่ๆ ขึ้นมา ก็จะทำให้น้อง ๆ อยากที่จะเข้ามาทำของใหม่ๆ และจำหน่าย เพราะถ้าเขามีตลาดก็สามารถคิดงานใหม่ๆ ลองงานใหม่ๆ มาได้ อย่างงานคราฟท์นี้จะมีความพิเศษคือ ลูกค้าที่มาซื้อจะชอบงานคราฟ คือรวมกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบงานสไตล์นี้
ใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่ โทร 086 3460605 หรือเข้าไปดูได้ที่เพจ เฟซบุ้ค : earth republic
Crafts Bangkok 2019 งานคราฟต์ที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดของประเทศ ซึ่งคนรักงานคราฟต์ไม่ควรพลาด เชิญชวนร่วมงาน ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน 2562 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ EH 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.facebook.com/sacict หรือ Call Center 1289