พวกเราหลายคน คงเคยสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ หรือทำธุรกรรมผ่านระบบอินเทอร์เน็ตกันแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือ การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นก้าวเข้าสู่ยุคอีคอมเมิร์ซจริงๆ มาตั้งแต่ ปี 2539 – 2540 ซึ่งเริ่มมีการซื้อขายสินค้าผ่านเว็บบอร์ด ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ www.pantip.com ตามมาด้วย เว็บไซต์www.thaisecondhand.com และ www.lemononline.com และมีการตั้งตลาดกลางธุรกิจออนไลน์ขึ้น (e-marketplace) และมีการทำการตลาดออนไลน์ การจัดซื้อจัดจ้าง ออนไลน์
แต่การพัฒนาด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ครั้งใหญ่ของประเทศ เริ่มต้นหลังมีการตั้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ปัจจุบัน คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) และมีการออกกฎหมายธุรกิจพาณิชย์อิล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซ
และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็มาจากการแจ้งเกิดของ Social media โดยเฉพาะ Facebook ซึ่งใครๆ ก็สามารถสร้างเพจขึ้นมาฟรีๆ เพื่อขายของ แถมเข้าถึงคนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วด้วย ทำให้วันนี้ ตลาดธุรกิจอีคอมเมิร์ซขยายตัวกว่าในอดีตอย่างมาก โดยผลการสำรวจผลสำรวจมูลค่าอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย คาดกันว่าในปีนี้ (2560) จะมีมูลค่าสูงกว่า 2.8 ล้านล้านบาท
วันนี้คนที่เคยมีสถานะเป็นเพียงผู้ซื้อ ผู้บริโภค สามารถพลิกบทบาทมาเป็นผู้ขายสินค้าออนไลน์ หรือเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ไม่ยาก แต่เป็นแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่จะใช้เวลาประสบความสำเร็จช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณเริ่มต้นอย่างไร
หากลองค้นหาในอินเทอร์เน็ต ก็จะพบหัวข้อมากมายให้ได้ศึกษาถึงการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เช่น “10 ขั้นตอนในการเริ่มต้นสร้างธุรกิจ E-commerce ด้วยตัวคุณเอง แบบ Step by Step” “เอสเอ็มอีจะเริ่มต้นทำอีคอมเมิร์ซอย่างไร” หรือ “10 ข้อควรทำก่อนเริ่มธุรกิจออนไลน์” เป็นต้น ซึ่งแทบทุกหัวข้อ ก็จะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และมีความสำคัญทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ไม่มีบอกเล่าในนั้น ก็คือ เคล็ดลับจากผู้ที่เคยผ่านมรสุมอีคอมเมิร์ซและประสบความสำเร็จในที่สุด
ช่วงปลายเดือนนี้ ระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2560 จะมีการจัดงานใหญ่ที่ครบเครื่องเกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ “Thailand e-Commerce week 2017 Shall We GO Online! ”วิ่งให้ทันโอกาส เพราะตลาดอีคอมเมิร์ซไม่รอใคร ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดขึ้นโดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA ซึ่งภายในงานจะมีกูรูด้านอีคอมเมิร์ซ และผู้ค้าออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จหลายราย มาร่วมถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ และเคล็ดลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ไม่มีอยู่ในตำราและไม่สามารถค้นหาเจอในอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น
“โอกาส e-Commerce ของประเทศ ความจำเป็นต้องขับเคลื่อน และความท้าทายในการปรับตัวครั้งใหญ่” จากมุมมองของผู้นำองค์กรระดับแถวหน้าของเมืองไทย ครอบคลุมเนื้อหาสาระหลายหัวข้อ อาทิ
- Big Changes ของระบบการเงิน ที่ช่วย drive ทั้ง ปริมาณและมูลค่า e-Commerce จากพร้อมเพย์
ไปสู่ QR Code และ กำลังเข้าสู่ Digital Currency
- อีคอมเมิร์ซไทย เกาะขบวนรถไฟความร่วมมือระหว่าง Central Group ของไทย และ JD.com ยักษ์ใหญ่ของจีน ให้ทันได้อย่างไร
- ถึงวันที่ไทยเบฟ เริ่มขยับเข้าสู่ตลาดออนไลน์ Next Step และ Digital Transformation
- ภาษี สำหรับ e-Commerce จะจัดเก็บและส่งเสริมอย่างไรถึง "ใช่" ในสายตาผู้ประกอบการ
รวมทั้งรับฟังทิศทางและการสนับสนุนจากรัฐ ภายใต้แผน e-Commerce ของประเทศ “Thailand Go Online” และบทบาทของภาครัฐกับการอำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบทุ่มสุดตัว เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จของนโยบายชาติ National e-Commerce strategy” นอกจากนี้ ยังมีเวทีใหญ่สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการรุกขยายตลาดไปยังตลาดฮ่องกงและจีน ต้องไม่พลาดฟังจากปากของ ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมส่งเสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซฮ่องกง
และที่พลาดไม่ได้ สำหรับคนที่คิดจะขายของออนไลน์ต้องรู้ให้ทันโลก ต้องไปฟัง “ขายของออนไลน์ ต้องรู้ว่าตลาดไหนโต ตลาดไหนต้องรุก เพื่อให้ผู้ประกอบการ นำข้อมูลเชิงลึกจากการสำรวจมูลค่า e-Commerce ระดับประเทศ” ไปวางกลยุทธ์แผนในการรุกตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และรับฟังเทรนด์ความฮ็อตของสินค้าที่จะขายได้ถล่อมทลาย จากมุมมองของ "Google trend & Google my business รวมทั้ง “การใช้ LINE สร้างธุรกิจออนไลน์ในยุคการตลาดดิจิทัล” พร้อมอัพเดทเทรนด์ที่ผู้ประกอบการต้องรู้เกี่ยวกับช่องทางการขายออนไลน์โดยใช้ไลน์เป็นหัวใจแห่งการสื่อสาร โดยกูรูผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาจัดงาน 3 วัน ยังได้รวบรวมผู้ค้าออนไลน์จากหลายสาขาธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งในและตลาดต่างประเทศ มาร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ซึ่งจะนำเสนอให้ทราบในตอนต่อไป
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วพบกันที่งาน Thailand e-Commerce week 2017 วันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบตัวอย่าง ความรู้และประสบการณ์ ที่พร้อมจะถ่ายทอดเคล็ดลับการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซเฉพาะที่นี่งานเดียว “Thailand e-Commerce week 2017” จึงมิใช่แค่ “Shall We GO Online!” ตามชื่องาน แต่ต้อง “We Must GO”ตามอนาคตที่เราอยากไข่วคว้า
Post Views: 42