ทีเส็บจัด Virtual Conference ไมซ์ไทยกับชีวิตวิถีใหม่ เตรียมพร้อมผู้ประกอบการหลังปลดล็อคดาวน์
ทีเส็บจัดสัมมนาเสมือนจริงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไมซ์ไทยกับชีวิตวิถีใหม่หลั งโควิด-19 ขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์รองรั บการจัดงานหลังมาตรการผ่อนปรน ดึงคีย์แมนสำคัญนำโดย รองนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ร่วมพูดคุยเตรียมความพร้อมผู้ ประกอบการไมซ์ทั่วประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในงานสัมมนารูปแบบการประชุ มเสมือนจริง หัวข้อ “Post COVID 19: ชีวิตวิถีใหม่ กับการจัดระเบียบและขับเคลื่ อนสร้าง ความพร้อมกรุงเทพและเมืองหลั กเพื่อการจัดงาน” ว่า “สถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้ อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นับว่าเป็นความท้าทายของรั ฐบาลทุกประเทศทั่วโลก ที่ต้องดูแลทั้งการระบาดของโรค และผลกระทบต่อชีวิ ตของประชาชนไปพร้อมกัน ประเทศที่ประสบความสำเร็จที่แท้ จริง จึงไม่ใช่ประเทศที่หยุ ดการระบาดได้เท่านั้น แต่เป็นประเทศที่สามารถสร้ างความสมดุลในการควบคุ มการระบาดพร้อมกับการประคั บประคองเศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนความเป็นอยู่ ของประชาชนให้มีความปรกติสุขที่ สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ในวันที่ โลกยังไม่มีวัคซีนป้องกัน” “ที่ผ่านมา บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานทางด้านสาธารณสุข รัฐบาล และภาคเอกชน ต่างทำงานร่วมกันอย่างหนักเพื่ อควบคุมการแพร่ระบาด และสามารถเริ่มผ่ อนคลายมาตรการทางสังคมภาคบังคับ หรือ “มาตรการล็อคดาวน์บางส่วน” ไปได้ระดับหนึ่งแล้ว เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิ จและสังคมสามารถเดินหน้าต่ อไปได้ โดยยังคงมาตรการด้านสาธารณสุ ขอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง และมีมาตรการเยียวยาผลกระทบจาก COVID-19 ที่จะช่วยส่งเสริมผู้ ประกอบการไมซ์ไทยในช่วงเปลี่ ยนผ่านสู่วิถีใหม่นี้ไปให้ได้ โดยเฉพาะมิติด้านสาธารณสุขที่ เกี่ยวข้องกับนโยบายการจั ดงานและกิจกรรมไมซ์ รวมถึงส่งเสริมจัดทำแนวทางปฏิบั ติด้านสุขอนามัยสำหรับอุ ตสาหกรรมไมซ์ (MICE Venue Hygiene Guidelines) ส่วนด้านมิติฟื้นฟูระบบเศรษฐกิ จและสังคม มุ่งเน้นส่งเสริมสาขาเศรษฐกิจที่ มีความได้เปรียบอย่างธุรกิจไมซ์ ที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นให้เกิดการสร้ างงานเพื่อสนับสนุนผู้ ประกอบการไมซ์และฟื้นฟูธุรกิ จให้กลับมาเร็วที่สุด” นายอนุทิน กล่าวว่า “ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ หลังโควิด 19 ประเทศไทยมีโอกาสที่จะสร้ างการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเป็ นศูนย์กลางไมซ์และธุรกิจที่เกี่ ยวเนื่องถึง 3 ด้าน คือ ศูนย์กลางไมซ์และการท่องเที่ ยวปลอดภัย ศูนย์กลางการแพทย์และสาธารณสุข และศูนย์กลางอาหารปลอดภัยของโลก ซึ่งไทยมีความพร้อมทั้งด้านจุ ดหมายปลายทาง มาตรฐานทางด้านสาธารณสุขซึ่งเป็ นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงศักยภาพในการผลิตอาหารป้ อนโลก โดยต้องนำเทคโนโลยีและนวั ตกรรมเข้ามาสนับสนุนการทำธุรกิ จให้มากขึ้นรับกับโลกตามวิถี ใหม่” ด้านนางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุ มและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวเสริมว่า “ทีเส็บดำเนินการสอดรับกั บนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริม และฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่ อเนื่อง อาทิ การสนับสนุนให้สถานที่จัดงานที่ ได้มาตรฐานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standard - TMVS) ยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขให้ กับสถานที่จัดงานเพื่อสร้ างความมั่นใจแก่ผู้จัดงาน และผู้ใช้บริการ, การสนับสนุนการใช้งานระบบการจั ดงานออนไลน์ เช่น Webinar เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ ประกอบการ และบุคลากรด้านไมซ์นำเทคโนโลยี ใหม่มาใช้ในการจัดงาน, และจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสาร TCEB Covid-19 Center เพื่อสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้ องอย่างทันท่วงทีให้กับกลุ่มเป้ าหมายทั้งในและต่างประเทศ” “วันนี้แนวทางขับเคลื่อนฟื้นฟู อุตสาหกรรมไมซ์ คือ ร่วมมือกับหน่วยงานภาครั ฐและเอกชนเร่งเดินหน้ากระตุ้ นการจัดงานไมซ์ในประเทศ ทั้งการจัดประชุมสั มมนาและงานแสดงสินค้ าตามแนวทางการผ่อนปรนของรัฐบาล โดยเบื้องต้นมุ่งเน้นส่งเสริ มการจัดงานของหน่วยงานภาครั ฐและเอกชน ให้จัดประชุมสั มมนาในโรงแรมสถานที่จัดงานที่มี มาตรฐาน และจัดงานแสดงสินค้าในพื้นที่ ไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร โดยเริ่มจากเมืองไมซ์ที่มี ความพร้อมตามหลักปฏิบัติทางด้ านสาธารณสุขก่อน ซึ่งได้เตรียมความพร้อมบุ คลากรประจำสำนักงานทั้ง 4 ภูมิภาค เพื่อลงทำงานเชิงรุกกระจายในแต่ ละพื้นที่ร่วมกับจังหวัด สมาคม หน่วยงานและผู้ประกอบการในท้ องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างการรับรู้และสร้ างงานในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ”