ปรับบ้านเดี่ยวตอบโจทย์ 3 เจนฯ กับ Home Makeover ปรับบ้าน..เปลี่ยนชีวิต Season 2
บ้านชั้นเดียวขนาดกะทัดรัดที่ตั้งใจจะให้เป็นที่พักอาศัยแบบสงบเงียบ ในช่วงบั้นปลายชีวิตของสาววัยหลังเกษียณของแม่ลูก 3 คน แต่เกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดคิดพลิกผันให้ต้องเลี้ยงดูแลเด็กเล็กอีก 3 คน พี่ชายคนโตอายุ 10 ขวบ และฝาแฝดสาวน้อยอายุ 6 ขวบ ด้วยช่องระหว่าง 2 วัย 3 เจเนอเรชั่นกับความต้องการใช้พื้นที่ในบ้านที่แตกต่างกันอย่างมาก ทีมงาน Home Service ดีไซน์ปรับบ้านให้สมาชิกทุกคนมีพื้นที่ของตนเองอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและอบอุ่น
ทีมงาน Home Service จาก Home Pro ในซีซั่นที่ 2 นี้ ได้รับโจทย์บ้านหลังแรกของคุณวนิดาที่ท้าทายซับซ้อน โดยจะต้องช่วยปรับเปลี่ยนบ้านชั้นเดียวขนาด 53 ตารางวา ที่มีสมาชิกถึง 6 คน กับคน 3 เจนเนอเรชั่น ที่อายุแตกต่างกันอย่างมาก บ้านหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 100 ตารางเมตร แต่มีห้องเพียงห้องเดียว คือ ห้องนอน ที่คุณย่าทั้งสองและหลานสามคนนอนรวมกัน ส่วนคุณทวดนอนบนเตียงด้านนอก หลานทั้ง 3 คนอยู่ในวัยที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน น้องพอ หนุ่มน้อยอายุ 9 ขวบ และฮุ้ยยี่ กับฮุ้ยซาง ฝาแฝดสาวร่าเริงพูดเก่งอายุ 6 ขวบ เด็ก ๆ เริ่มต้องการพื้นที่ส่วนตัวในการทำการบ้านอ่านหนังสือและเล่นกันตามวัย คุณวนิดาและคุณทวดอยากเห็นหลานเติบโตอย่างดีมีความสุข…แค่นี้พวกเราก็มีความสุขที่สุดแล้ว
หลังจากสำรวจบ้านและความต้องการของสมาชิกทั้ง 6 คนแล้ว ทีมเริ่มทำงาน โดยหลักของการออกแบบในการปรับเปลี่ยนบ้านหลังนี้ คือ การปรับจัดสรรพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน แต่ขณะเดียวกันก็เน้นการเปิดโล่งของพื้นที่แต่ละโซน เพื่อให้เหมาะสมกับช่วงวัยของสมาชิกที่พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ มีทั้งวัยเด็ก และผู้สูงอายุ ให้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างอบอุ่นและมีความสุข
ปัญหาของบ้านหลังนี้ เริ่มตั้งแต่ไม่มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน แสงสว่างไม่เพียงพอแถมอากาศก็ยังไม่ถ่ายเท พื้นที่ส่วนแรก คือ พื้นที่ส่วนกลาง เป็นบริเวณที่เปิดประตูด้านหน้าเข้ามาในตัวบ้าน เป็นพื้นที่โล่งมีเก้าอี้ไม้ตัวสูงใช้วางของแทนการนั่ง เป็นพื้นที่ที่สว่างที่สุดในบ้าน เด็ก ๆ ใช้พื้นที่ทำการบ้านด้วยการนอนเขียนหนังสือบนพื้น
ทางทีมงานปรับห้องรับแขกให้เป็นโซนพักผ่อน โดยนำโซฟาเข้ามาใช้งานแทนเก้าอี้ไม้ เพิ่มโต๊ะวางของพร้อมทั้งเพิ่มฟังก์ชั่นให้เป็นโซนเรียนรู้ของเด็กๆ ด้วยการติดสมาร์ททีวีที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ไว้บนผนังห้อง ส่วนด้านบนของผนังทำเป็นชั้นวางของหลายช่องลดหลั่นกัน ด้านบนสุดสามารถวางพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างงดงาม เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของสมาชิกในครอบครัวทั้งสองวัยไปพร้อมกัน
พื้นที่ส่วนต่อมา คือ ห้องรับประทานอาหาร ยังคงจัดให้อยู่มุมเดิมในบ้าน และได้ก่ออิฐสร้างเคาน์เตอร์อย่างแข็งแรงขึ้นใหม่เป็นครัวเล็ก ๆ ติดตั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และตู้จัดเก็บอุปกรณ์ได้อย่างเป็นระเบียบ สามารถจัดเตรียมอาหารได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งย้ายประตูทางออกด้านหลังบ้านมาไว้ในโซนนี้ เพื่อให้สะดวกในการออกสู่ส่วนล้างจานและซักผ้า
และมาถึงไฮไลท์ของการปรับบ้านหลังนี้ ก็คือ ห้องนอนของสมาชิกทั้ง 6 คน ที่ทีมออกแบบจัดให้อยู่ในบริเวณเดียวกันทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรก เป็นส่วนที่นอนของเด็ก 3 คน อยู่ติดกับหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวกและได้รับแสงสว่างที่เพียงพอ ทีมงานเลือกใช้เตียงสองชั้นเพื่อประหยัดพื้นที่สำหรับฝาแฝดฮุ้ยยี่และฮุ้ยซางอยู่ฟากหนึ่งของห้อง ผนังฝั่งตรงข้ามเป็นเตียงของพี่พอหนุ่มน้อย
โดยมีพื้นที่เก็บของส่วนตัวได้เยอะพอสมควร เตียงทั้ง 2 ฝั่งมีม่านที่สามารถเลื่อนปิดได้เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว ส่วนพื้นที่ระหว่างกลางของเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้ดีไซน์เป็นบริเวณอ่านหนังสือของเด็ก ๆ ด้วยการวางโต๊ะและเก้าอี้เพื่ออ่านหนังสือทำการบ้านสำหรับทุกคน และยังทำหน้าที่กั้นบริเวณที่นอนของเด็กชายและเด็กหญิงออกจากกันเป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น
ในขณะที่อีกฟากของห้องนั้น โซนด้านในก็จะเป็นส่วนที่นอนของผู้ใหญ่ทั้ง 3 คน โดยจัดพื้นที่ด้านในสุดให้กับคุณทวด ยังใช้เตียงไม้เดิมที่ผูกพันโดยเปลี่ยนที่นอนให้สบายยิ่งขึ้น รวมทั้งวางโต๊ะเครื่องแป้งโบราณแสนรักไว้ด้านท้ายเตียง โดยติดตั้งม่านกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนช่วงกลางวัน ถัดมาจะเป็นเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์ที่คุณวนิดานอนร่วมกับพี่สาว ตั้งอยู่ตรงกลางห้องสามารถมองเห็นทั้งคุณทวดและหลานทั้ง 3 คนได้อย่างสะดวกตลอดเวลา จะเห็นว่าส่วนของห้องนอนไม่ได้มีกำแพงปิดกั้นห้องอย่างชัดเจนเนื่องจากเด็ก ๆ ยังต้องอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ไปอีกหลายปี
สำหรับห้องอาบน้ำที่อยู่ด้านในสุดของห้องนอน ได้ปรับเปลี่ยนขยายพื้นที่ให้กว้างขวางเพิ่มขึ้นในรูปแบบ universal design พื้นห้องน้ำเรียบเท่ากันกับห้องนอน ผู้สูงวัยสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก กั้นบริเวณอาบน้ำด้วยม่านและทำพื้นให้สามารถระบายน้ำลงได้หลายทิศทางอย่างรวดเร็ว มีการจัดวางตำแหน่งสุขภัณฑ์ใหม่ เพิ่มราวจับเพื่อความปลอดภัย และใส่อ่างล้างหน้า 2 ใบเพื่อให้สามารถล้างหน้าแปรงฟันได้พร้อมกันในเวลาเร่งด่วน รวมถึงเปลี่ยนบานประตูเลื่อนให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการใช้รถเข็นในอนาคต
ด้านหน้าตรงข้ามกับประตูห้องน้ำ ทีมงานได้ออกแบบตู้เสื้อผ้าสำหรับผู้ใหญ่ที่มีความพิเศษ คือ ด้านที่เป็นตู้ทึบนั้นใช้สีที่สามารถลบลอยต่างๆ จากการขีดเขียน เพียงใช้ผ้าเช็ดถูเบาๆ จึงเป็นกระดานผืนใหญ่ให้เด็ก ๆ ขีดเขียน วาดรูป เล่นเกมส์ได้อย่างสนุกสนาน เพิ่มความใกล้ชิดระหว่างสมาชิกสองวัยในครอบครัว นอกจากนี้ ใต้กระดานยังมีตระกร้าใส่เสื้อผ้าใช้แล้ว ช่วยฝึกเด็ก ๆ มีระเบียบด้วยการถอดเสื้อผ้าใส่ตระกร้าที่จัดไว้ให้เรียบร้อย รวมทั้งยังกั้นบริเวณที่ใช้เก็บสัมภาระข้าวของต่างๆ อย่างเป็นระเบียบอีกด้วย
ทีมงาน Home Service ได้ยิน feedback อย่างนี้ก็ปลื้มหัวใจพองโต พร้อมสรุปว่า เราดีใจมากที่หัวใจหลักในการดีไซน์ให้เหมาะสมกับวัย ตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของสมาชิก 2 วัยในบ้าน รวมทั้งการเลือกเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับช่วงวัย จะช่วยในเรื่องพัฒนาการ ความสะดวกสบายและปลอดภัยในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน และที่สำคัญการปรับบ้านให้มีพื้นที่โล่ง โปร่ง สบาย ก็ทำให้บ้านหลังนี้น่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
สำหรับท่านที่มีปัญหากับการปรับบ้าน ก็สามารถที่จะเดินเข้ามาปรึกษากับเคาน์เตอร์ทีม Home Service ที่ Home Pro ได้ทุกสาขา และสามารถชมรายการย้อนหลังได้ที่ http://bit.ly/EP01-SS2-HomeMakeOverTV