กระทรวงเกษตรร่วมสืบสานพระราชปณิธานอนุรักษ์พันธุกรรมพืช รมช.วิวัฒน์ ชวนคนกึ๊ดช้างสร้างต้นแบบชุมชนไร้อดอยาก
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวในโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเรื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) งานปลูกรักษาทรัพยากรท้องถิ่น : กิจกรรมแหล่งเรียนรู้แปลงปลูกรักษาพรรณไม้/ดอกไม้สำคัญและไม้หายาก ณ ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ว่า การรักษาพันธุ์ไม้สำคัญไม้หายากนั้นเป็นงานที่สำคัญ จำเป็นต้องเร่งปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมทั้งพืชและสัตว์ ตลอดจนวัฒนธรรมอันหลากหลายของมนุษย์ องค์การบริหารส่วนตำบลกึ้ดช้างเป็นตัวอย่างการดำเนินงานด้วยความสามัคคี
โดยชักชวนภาคส่วนต่างๆ มาร่วมกันอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโดยเฉพาะไม้ท้องถิ่นเพื่อรักษาไว้ซึ่งความหลากหลายทางพันธุกรรม ซึ่งถือเป็นงานที่ในหลวงรัชกาล ที่ 9 ทรงให้ความสำคัญ ถ้าประชาชนลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้อย่างจริงจังเชื่อได้ว่าจะทำให้ประชาชนมีความสุข ประเทศมีความสุข ไม่ได้เน้นก้าวหน้าอย่างมาก แต่เน้นที่มีความสุข ความเจริญ
เพราะถ้าก้าวหน้าอย่างมากจะถอยหลังเข้าคลองอย่างน่ากลัวอยากให้ประชาชนน้อมนำศาสตร์ของพระองค์ท่านมาช่วยกัน อนุรักษ์ ป่า ดิน น้ำ ป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ซึ่งทรัพยากรดินเป็นพื้นฐานทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญยิ่ง ไม่มีป่าก็ไม่มีดินเพราะอัตราการชะล้างพังทลายของหน้าดินจะเพิ่มสูงขึ้นหากไม่มีต้นไม้ปกคลุม จนเพาะปลูกไม่ได้ แต่ถ้าทุกคนร่วมกันป้องกันการชะล้างพังทลายหน้าดินด้วยการปลูกต้นไม้ที่หลากหลายเหมือนที่โครงการนี้ทำจะช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดินได้ และจะเป็นพื้นที่ความมั่นคงของอาหารได้จริง
ปัจจุบันอัตราการชะล้างพังทลายหน้าดินคิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจสูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลเก็บภาษีได้ประมาณ 2.7 ล้านล้านบาทต่อปี และอัตราการชะล้างจะยิ่งสูงขึ้นเมื่อพื้นที่สูงชันไม่มีสิ่งปกคลุม ส่งผลให้ประเทศต้องเสียงบประมาณในการขุดลอกเขื่อน ลอกคลองอีกหลายร้อยล้านบาท ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้ต้นทุนของเกษตรกรเพิ่มขึ้นเมื่อความอุดมสมบูรณ์ของดินหมดไป ก็จะเริ่มวงจรของหนี้สินและการรุกป่า เพราะเมื่อขาดทุนก็รุกภูเขาเพิ่มขึ้นไปอีกกลายเป็นปัญหาใหญ่ เขาหัวโล้นนับล้านๆ ไร่
“เราต้องร่วมกันตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน คือจะต้องไม่มีคนอดอยากหิวโหย จึงหวังว่า อบต.กึ้ดช้างและเครือข่าย จะเป็นตัวอย่างการสร้างสังคมใหม่โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ทิ้งคนแก่ เด็กหรือคนพิการให้หิวโหย เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งเป็นเป้าหมายของโลกจึงเป็นเป้าหมายของเราด้วย เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทูตพิเศษ (Special Ambassador) ของสหประชาชาติ ด้าน Zero Hunger (การขจัดความหิวโหย)” นายวิวัฒน์ กล่าว
Post Views: 38